ttb analytics มองส่งออกไทยครึ่งปีหลังฟื้นตัวจากผลของฐานต่ำเป็นหลัก ชี้โมเมนตัมการค้าโลกยังไม่แน่นอนสูง ทั้งจากเศรษฐกิจสหรัฐฯ-ยุโรปชะลอ และแรงหนุนจากจีนแผ่วกว่าที่คาด โดยประเมินว่าทั้งปี 2566 นี้ การส่งออกไทยติดลบ 1.1%YoY
ศูนย์วิเคราะห์เศรษฐกิจ ทีทีบี หรือ ttb analytics เปิดเผยประมาณการการส่งออกไทยตลอดปี 2566 จะอยู่ที่ 283,970 ล้านดอลลาร์สหรัฐ หดตัว 1.1% เมื่อเทียบกับปี 2565 ที่ขยายตัว 5.7% เมื่อเทียบช่วงเดียวกันของปีก่อน (YoY) โดยการส่งออกในช่วงครึ่งปีหลังจะมีแนวโน้มดีขึ้นจากปัจจัยฐานต่ำเป็นหลักโดยเฉพาะในช่วงไตรมาสสุดท้ายของปี
ทั้งนี้ แม้เศรษฐกิจโลกผ่านพ้นจุดต่ำสุดไปแล้วในช่วงครึ่งแรกของปี 2566 แต่มีแนวโน้มอาจจะลอตัวลง เห็นได้จากล่าสุดที่ธนาคารโลกได้ปรับคาดการณ์เศรษฐกิจโลกปี 2566 ให้เติบโตช้าลงจากปีก่อน ขณะที่การประชุมสหประชาชาติว่าด้วยการค้าและการพัฒนา (UNCTAD) ชี้ว่า ตัวเลขการค้าโลกในไตรมาส 2 ปี 2566 หดตัวราว 0.4%YoY และเมื่อเทียบกับไตรมาสก่อนหน้าที่ขยายตัว 1.9%YoY
สอดคล้องกับรายงานล่าสุดขององค์การการค้าโลก (WTO) ที่ประเมินว่าปริมาณการค้าโลก (World Merchandise Trade Volume) ตลอดทั้งปี 2566 จะขยายตัวได้เพียง 1.7%YoY ซึ่งชะลอตัวลงจากตัวเลขในปี 2565 ที่ขยายตัว 2.7%YoY ดังนั้น จะเห็นความเสี่ยงที่เศรษฐกิจคู่ค้าหลักจะชะลอลงมีแนวโน้มเพิ่มสูงขึ้นทั้ง
สหรัฐ เห็นจากกิจกรรมภาคการผลิต (Manufacturing PMI) เดือน ก.ค. 2566 หดตัวอย่างต่อเนื่องเป็นเดือนที่ 3 ส่วนมูลค่านำเข้าสินค้าอุปโภคบริโภค (ไม่นับยานยนต์) ก็ชะลอตัวลง
ยุโรป หลายประเทศกำลังเข้าสู่เศรษฐกิจถดถอยเชิงเทคนิค (Technical Recession) ตั้งแต่ช่วงไตรมาสแรกของปี จากกำลังซื้อในประเทศที่ชะลอตัวลงมากสวนทางกับเงินเฟ้อที่ยังทรงตัวในระดับสูง
จีน ที่เติบโตชะลอตัวกว่าที่ตลาดคาด โดยดัชนียอดค้าปลีกโตชะลอลงต่อเนื่องและต่ำสุดในรอบปี (เมื่อ ก.ค.), ดัชนีภาคการผลิตก็ลดลงต่อเนื่องเป็นเดือนที่ 5 และยอดคำสั่งซื้อสินค้าส่งออกใหม่หดตัวอย่างต่อเนื่อง ทำให้ล่าสุดธนาคารกลางของจีน (PBOC) ปรับลดดอกเบี้ย Reverse Repo ลงอีก 0.1% มาสู่ระดับ 1.8% และหั่นดอกเบี้ยเงินกู้ระยะกลาง (MLF) ลงเป็นครั้งที่ 2 ในรอบ 3 เดือนสู่ระดับ 2.50% พร้อมส่งสัญญาณเตรียมกระตุ้นเศรษฐกิจขนานใหญ่ เพื่อเร่งสนับสนุนการจับจ่ายภายในประเทศ ท่ามกลางความเสี่ยงจากการผิดนัดชำระหนี้ของผู้พัฒนาอสังหาริมทรัพย์หลายรายในจีนหลังเผชิญผลพวงจากวิกฤตหนี้เสียเอเวอร์แกรนด์ในช่วงที่ผ่านมา
ทั้งนี้จากทิศทางเศรษฐกิจโลกที่ชะลอตัวยังส่งผลให้ ครึ่งปีแรก 2566 การส่งออกของไทย ติดลบ 5.4% ขณะที่หลายประเทศยังหดตัวเช่นกัน อาทิ เกาหลีใต้ (-12.4%) เวียดนาม (-12.0%) อินเดีย (-8.7%) อินโดนีเซีย (-8.0%) และไทย (-5.4%) ตามลำดับ
อย่างไรก็ตามโดยสรุปแล้วในช่วงครึ่งปีหลัง 2566 นี้ยังมีปัจจัยที่กดดันการส่งออกของไทยหลายด้าน ได้แก่
- การชะลอตัวของเศรษฐกิจคู่ค้าที่อาจลุกลามไปสู่ภาวะเศรษฐกิจถดถอย
- ความไม่แน่นอนจากปัญหาภูมิรัฐศาสตร์และมาตรการกีดกันทางการค้าที่เข้มข้นขึ้น (Trade Barrier)
- แรงกดดันของอัตราดอกเบี้ยและอัตราเงินเฟ้อที่ส่งผลกระทบต่อการบริโภคโดยเฉพาะตลาดยุโรป
- สภาพอากาศที่แปรปรวนอาจส่งผลต่อปริมาณสินค้าเกษตรที่ผลิตได้ในช่วงปลายปี
อย่างไรก็ตามหากดูตามแนวโน้มการฟื้นตัวการส่งออกครึ่งปีหลัง ยังเห็นโอกาสจาก อุปสงค์สินค้าอุตสาหกรรมที่จะฟื้นตัวได้บ้างตามวัฎจักรเศรษฐกิจแบบค่อยเป็นค่อยไป รวมถึงความต้องการสินค้ากลุ่มยานยนต์และส่วนประกอบ และยานยนต์ไฟฟ้า (EV) ที่คาดว่าจะขยายตัวต่อเนื่องหลังสถานการณ์อุปทานชะงักงันคลี่คลาย
นอกจากนี้ สินค้าเกษตรและอาหารจะได้ปัจจัยสนับสนุนจากประเด็นความมั่นคงทางอาหาร (Food Security) ซึ่งจะช่วยให้การส่งออกพลิกขยายตัวได้ในช่วงที่เหลือของปี
ที่มา – ttb
อ่านเพิ่มเติม
ติดตามข่าวสารจาก Brand Inside ได้จาก Facebook ของเรา