ตลาดบริการรับสร้างบ้าน อาจจะไม่ใช่ตลาดหลักในประเทศไทย โดยมีสัดส่วนประมาณ 10-15% ของตลาดอสังหาริมทรัพย์ เพราะส่วนใหญ่ต้องการคนที่มี ที่ดิน, หรือมีบ้านเดิมที่ต้องการรื้อถอน หรือมีบ้านเดิมที่ต้องการสร้างเพิ่ม เทียบกับกลุ่มบ้านจัดสรร หรือคอนโดมิเนียม จึงมีมูลค่าตลาดสูงกว่ามาก
โกศล โควิสุทธิ์ ผู้ช่วยกรรมการผู้จัดการ ของ ROYAL HOUSE บอกว่า การมีสัดส่วนน้อย แต่ตลาดรับสร้างบ้านยังมีการเติบโต เพราะแนวโน้มของคนรุ่นใหม่ มีความต้องการบ้านที่มีเอกลักษณ์ของตัวเองมากขึ้น ยิ่งตลาดขยายไปต่างจังหวัดมากขึ้น ยังมีพื้นที่รอการพัฒนา ต่างจาก กทม. ที่พื้นที่การใช้งานค่อนข้างเต็มแล้ว
จ่ายมากกว่าสักนิด ได้บ้านในแบบตัวเอง
การซื้อบ้านจัดสรร หรือ คอนโด ได้ที่ดิน ได้บ้านสำเร็จรูปในราคาที่ไม่สูงนัก แต่ก็จะหน้าตาเหมือนกันหมด มีข้อจำกัดในการออกแบบ ขณะที่การสร้างบ้านเอง อาจจะจ่ายแพงกว่า แต่ก็ได้บ้านในแบบที่เป็นของตัวเอง ซึ่งข้อมูลของ ROYAL HOUSE ราคาที่มีการสร้างบ้านมากที่สุดคือ 3-5 ล้านบาท ถือเป็นราคาที่ไม่สูงเกินไป
แต่อุปสรรคของการสร้างบ้านเองคือ การหาช่างรับเหมาที่ถูกต้อง คือ ต้องมั่นใจว่าจะได้คนที่ใช่ ไม่สร้างปัญหาตามมาในภายหลัง, ได้ราคาที่ถูกแท้จริง (บางคนราคาถูก แต่โดนหนีงานจนงบบาน) และต้องได้บ้านที่มีคุณภาพ เพราะบ้านต้องอยู่กับเจ้าของไปอีกเป็นสิบๆ ปี
ที่กล่าวมาคือ จุดแข็งของ ROYAL HOUSE แม้ราคาจะสูงกว่าช่างรับเหมาปกติ 20% แต่มั่นใจได้ว่าราคาจบจริง และได้บ้านที่เสร็จจริงด้วย เพราะมีทีมฝ่ายขายและฝ่ายก่อสร้าง ที่มีประสบการณ์ รู้และเข้าใจงานสร้างบ้านจริง
สร้างบ้านเพื่อผู้สูงอายุ จับตลาด Aging Society
อย่างที่รู้ว่าประเทศไทยกำลังก้าวเข้าสู่ Aging Society หรือสังคมผู้สูงอายุ เพราะกลุ่มผู้สูงอายุจะมีมากขึ้น ทำให้ตลาดเริ่มสนใจบ้านสำหรับผู้สูงอายุมากขึ้น ทาง ROYAL HOUSE จึงพัฒนาแบบบ้าน 2 แบบ เตรียมเปิดตัวประมาณเดือน ส.ค. นี้
รายละเอียดเบื้องต้น เช่น บ้านจะมีสีเขียวเป็นส่วนประกอบ เพราะจากงานวิจัยสีเขียวทำให้จิตใจเบิกบาน เหมาะกับผู้สูงอายุ นอกจากห้องของผู้สูงอายุ ต้องมีห้องของผู้ดูแลที่สามารถอยู่ได้อย่างใกล้ชิด รวมถึง ห้องน้ำต้องเป็นกระจกโปร่งมองเห็นได้ เพราะในห้องน้ำมีโอกาสเกิดอุบัติเหตุ เป็นต้น
สรุป
ROYAL HOUSE ทำยอดรายได้จากธุรกิจสร้างบ้านครึ่งปีแรกได้ 500 ล้านบาท และคาดว่าครึ่งปีหลังจะทำได้อีก 500 ล้านบาท ด้วยกลยุทธ์ที่แตกต่าง ชื่อเสียงของแบรนด์ และการทำงานแบบมืออาชีพ เชื่อว่าไม่น่ามีปัญหา นอกจากนี้ เรื่องบุคลากร ก็มีความสำคัญ ซึ่ง ROYAL HOUSE มีโครงการ “สร้างคน สร้างบ้าน” รับนักศึกษาฝึกงานจาก อาชีวศึกษาระบบทวิภาคี เพื่อให้เรียนรู้งานจริงตั้งแต่ยังเป็นนักศึกษามีรายได้ด้วย พอจบมามีงานทำทันที ซึ่งปัจจุบันทำมาเป็นปีที่ 5 แล้ว มีบุคลากรที่ผ่านโครงการมาแล้ว 18 คน
ติดตามข่าวสารจาก Brand Inside ได้จาก Facebook ของเรา