ค่อนข้างเป็นที่รู้กันดีอยู่แล้วว่า Central Group หรือเจ้าของศูนย์การค้า โรงแรม และธุรกิจค้าปลีกในเครือเซ็นทรัล ไม่ได้มีธุรกิจอยู่เฉพาะในประเทศไทย ขณะที่ในไทยเปิดและขยายศูนย์การค้าใหม่ๆ อย่างต่อเนื่อง ในต่างประเทศก็มีความเคลื่อนไหวเช่นกัน
ล่าสุด COL บริษัทในเครือ Central Group ได้จับมือพันธมิตร “เหงียนคิม” ขยายกิจการสู่เวียดนามรุกตลาดเครื่องเขียน อุปกรณ์สำนักงาน โดยผสาน ออฟฟิศเมท และ B2S และใช้แบรนด์ร้านเครื่องเขียนและอุปกรณ์สำนักงานอย่าง B2S เป็นตัวทำตลาด
สาขาแรกเปิดในโฮจิมินห์ซิตี้ ประเทศเวียดนาม ชัดเจนว่านี่คือการก้าวเข้าจับกลุ่มตลาดการศึกษาและธุรกิจ ที่กำลังขยายตัวในประเทศนี้
เป้าหมายการศึกษา-ธุรกิจ ขยาย 30 สาขาทั่วประเทศ
Nguyen Thi Thuc Vy ซีอีโอของ B2S ที่เวียดนาม บอกว่า กลุ่มเป้าหมายหลักคือ มหาวิทยาลัย 9 แห่ง และศูนย์อุตสาหกรรมอีก 4 แห่ง ที่อยู่ใกล้กับนครโฮจิมินห์ และมีแผนขยาย 30 สาขาทั่วประเทศใน 5 ปี
สำหรับ B2S สาขาแรก มีพื้นที่ 900 ตร.ม. มีสินค้ากว่า 6,000 ชิ้น รวมถึงเฟอร์นิเจอร์สำนักงาน, คอมพิวเตอร์, พรินเตอร์, อุปกรณ์สำนักงาน และเกมต่างๆ โดย 80% เป็นสินค้านำเข้า
ข้อมูลจาก VietCapital Securities คาดการณ์ว่า ตลาดเครื่องเขียนและอุปกรณ์สำนักงานในเวียดนามมีมูลค่าประมาณ 175 ล้านดอลลาร์ต่อปี เติบโตเฉลี่ย 10% มีปัจจัยบวกอีกมากทั้งจำนวนประชากรหนุ่มสาวที่กำลังศึกษา รวมถึงความต้องการสินค้าคุณภาพที่เพิ่มขึ้น
ครบวงจรที่สุด คือ กลยุทธ์สำคัญ
ในนครโฮจิมินห์ ก็มีธุรกิจและร้านขายอุปกรณ์เครื่องเขียนอยู่กว่า 1,500 แห่ง บางแห่งมีร้านหนังสือรวมอยู่ด้วย แต่ไม่มีร้านไหนที่มีสินค้าและบริการครบวงจรเท่ากับ B2S และยังมีบริการสั่งสินค้าออนไลน์ และส่งฟรีถึงที่ด้วย
ดังนั้นโอกาสในการเข้าทำธุรกิจของ Central Group จึงยังเปิดกว้างอีกมาก
วรวุฒิ อุ่นใจ ประธานเจ้าหน้าที่บริหารกลุ่มบริษัท COL บอกว่า การขยายธุรกิจต่างประเทศ จะให้ความสำคัญกับตลาด CLMV (กัมพูชา ลาว เมียนมา และเวียดนาม) ซึ่งเวียดนามเป็นประเทศแรกที่ดำเนินการลงทุน เนื่องจากเวียดนามมี ประชากร 95 ล้านคน ซึ่งมากเป็นอันดับ 14 ของโลก มีอัตราการเติบโตทางเศรษฐกิจ GDP เติบโตอย่างรวดเร็วเฉลี่ย 6.2% ต่อปี นับตั้งแต่ปี 2000 – 2016 และมีความมั่นคงด้านการเมือง
การทำตลาดในครั้งนี้ได้มีการใช้โมเดลการทำธุรกิจผสมผสานนำสินค้าของออฟฟิศเมท และ B2S รวมไว้ในที่เดียว ภายใต้แบรนด์ B2S สาขาแรกอยู่ใน เขตถูดึ๊ก นครโฮจิมินห์ มีพื้นที่ 4 ชั้น รวมทั้งสิ้น 900 ตารางเมตร มีอุปกรณ์เครื่องเขียนและเครื่องใช้สำนักงานที่หลากหลายกว่า 6,000 รายการ
บริเวณที่ตั้งของร้านในเขตถูดึ๊ก เป็นเขตที่มีนิคมอุตสาหกรรมขนาดใหญ่ 4 แห่ง และบริเวณใกล้เคียงได้มี กลุ่มมหาวิทยาลัยที่ใหญ่ที่สุดของประเทศเวียดนาม ซึ่งมีมหาวิทยาลัยตั้งอยู่รวมกันมากกว่า 9 แห่ง นับเป็นจุดยุทธศาสตร์ที่ดีและ สามารถตอบโจทย์กลุ่มลูกค้าทั้งกลุ่มสำนักงานและกลุ่มนักเรียนนักศึกษาได้เป็นอย่างดี
แนวทางการใช้โมเดลผมผสานสินค้าจากออฟฟิศเมท และ B2S (บีทูเอส) ไม่เพียงแต่จำหน่ายอุปกรณ์เครื่องเขียนเท่านั้น ภายในร้านยังมีสินค้าที่ทันสมัย โดนใจเหมาะกับไลฟ์สไตล์ของชาวเวียดนาม ได้แก่ สินค้าตกแต่งบ้าน สินค้าทำมือ ของขวัญและเครื่องประดับ งานศิลปะและงานฝีมือ กระเป๋าแฟชั่น และผลิตภัณฑ์เครื่องหนังคุณภาพดี
ภายในร้านได้จัดเตรียมพื้นที่ Co-working space บนชั้น 4 ไว้สำหรับธุรกิจสตาร์ทอัพ และมีมุมคิดสร้างสรรค์งานซึ่งออกแบบมาเพื่อเด็กและเยาวชน นอกจากการจัดจำหน่ายผ่านร้านค้าปลีก B2S ยังมีช่องทางการขายอื่น เช่น คอลเซ็นเตอร์ หมายเลข 1900 1919 ทีมงานฝ่ายขายธุรกิจ B2B มืออาชีพ และช่องทางออนไลน์ที่ www.b2s.com.vn พร้อมบริการส่งฟรีถึงที่ ตามเงื่อนไขที่กำหนด
ทั้งนี้ การเข้าทำธุรกิจในเวียดนามของ Central Group เริ่มตั้งแต่ปี 2011 เน้นในกลุ่มตลาดระดับกลางที่มีการเติบโตที่รวดเร็ว โดยมีการเข้าซื้อกิจการ การขยายแฟรนไชส์ และการร่วมทุน หนึ่งในนั้นคือ การซื้อกิจการ Big C จากกลุ่มบริษัท Casino Group ของฝรั่งเศส โดย Central มีแผนเพิ่มสาขา Big C อีก 2 เท่าจากปัจจุบันมี 34 แห่ง และพัฒนาศูนย์การค้าขนาดใหญ่ 13 แห่งภายในปี 2021
นอกจากนี้ Central Group ยังซื้อหุ้น 49% ในร้านเชนอุปกรณ์ไฟฟ้า Nguyen Kim เช่นเดียวกับการซื้อแพลตฟอร์มอี-คอมเมิร์ซ Zalora Vietnam รวมถึงการซื้อกิจการ Lan Chi Mart ร้านค้าปลีกแนวใหม่ในเขตชนบทที่มีทั้งหมด 11 สาขา
สรุป
Central Group ได้รุกคืบเข้าสู่ตลาด emerging market ซึ่งคือเวียดนาม ที่มีอัตราการเติบโตสูง และมีแนวโน้มความต้องการด้านการศึกษาและธุรกิจ (สำนักงาน) อย่างสูง ขณะที่ในไทยเน้นขยายศูนย์การค้า เพราะเป็นแหล่งท่องเที่ยวสำคัญ เป็นกลยุทธ์การทำธุรกิจที่น่าจับตามอง
source: asia.nikkei.com
ติดตามข่าวสารจาก Brand Inside ได้จาก Facebook ของเรา