Renewable Energy หรือพลังงานหมุนเวียน ไม่ก็อาจนิยามว่าพลังงานสะอาด เพราะต้นกำเนิดของพลังงานคือแสง, ลม และน้ำ กำลังถูกพัฒนาอย่างต่อเนื่อง และล่าสุดเมืองหนึ่งในจีนก็สามารถใช้พลังงานแบบนี้ 100% เพื่อผลิตไฟฟ้าได้นาน 7 วัน
ชิงไห่ กับวิสัยทัศน์เรื่องพลังงานสะอาดระยะยาว
ตอนนี้ทั่วโลกกำลังพัฒนาเทคโนโลยีต่างๆ เพื่อลดการใช้พลังงานดั้งเดิม โดยเฉพาะถ่านหินในการผลิตไฟฟ้า เพราะทำลายธรรมชาติ และคาดว่าพลังานหมุนเวียนจะเข้ามาทดแทนอย่างแพร่หลายได้ในปี 2050 หรืออาจเร็วกว่านั้น แต่จริงๆ แล้วไม่ต้องรออีกกว่า 30 ปี ก็ได้ เพราะตอนนี้ที่มณฑลชิงไห่ในประเทศจีนได้ทำสำเร็จไประดับหนึ่งแล้ว
เนื่องจากที่นั่นสามารถผลิตกระแสไฟฟ้าจากพลังงานหมุนเวียนทั้งแสงอาทิตย์, ลม และน้ำ ให้ใช้ได้รวมกันกว่า 1.1 พันล้านกิโลวัตต์-ชม. ได้นาน 7 วัน หรือระหว่างวันที่ 17-23 มิ.ย. ให้กับประชากรกว่า 5.6 ล้านคน ซึ่งพลังงานดังกล่าวเทียบเท่ากับการเผาไหม้ของถ่านหินถึง 5.3 แสนตันเลยทีเดียว
หากแบ่งเป็นประเภทของพลังงานจะมาจากน้ำ 72% และเหตุการณ์นี้จะเกิดขึ้นไม่ได้หากมณฑลชิงไห่ไม่ปรับตัว เช่นติดตั้งแผงโซล่าเซลล์ และนำตัวสร้างไฟฟ้าหมุนเวียนแบบอื่นมาติดตั้งเพิ่มในเดือนพ.ค. ซึ่งในปี 2020 ทางมณฑลต้องการขยับการผลิตไฟฟ้าพลังงานหมุนเวียนเป็น 35 ล้านกิโลวัตต์ จากเดิม 23.5 ล้านกิโลวัตต์ รองรับการใช้งาน 1.1 แสนล้านกิโลวัตต์-ชม
ทั้งนี้ประเทศจีนต้องการผลิตพลังงานไฟฟ้าสะอาดเป็น 20% ของประเทศภายในปี 2030 โดยการตื่นตัวครั้งนี้ทำให้พลังงานลมเริ่มมีสัดส่วน 4% รองลงมาเป็นพลังงานแสดงอาทิตย์ 1% เมื่อปี 2016 และไม่ใช่มีแค่จีนที่เดินหน้าพลังงานหมุนเวียน เพราะในออสเตรียก็เริ่มเดินหน้า และคอสตาริก้าก็เพิ่มสัดส่วนการใช้พลังงานหมุนเวียนเช่นกัน
อ้างอิง // Business Insider
ติดตามข่าวสารจาก Brand Inside ได้จาก Facebook ของเรา