บราเดอร์ ขยายไลน์ธุรกิจ print และ non print เพิ่มฐานลูกค้าไปยังกลุ่มธุรกิจที่มีศักยภาพ ผ่านตัวแทนการขาย พร้อมเจาะกลุ่มตลาดคนรุ่นใหม่ ดึง “PROXIE” หวังสร้าง brand royalty กับสินค้าบราเดอร์ไลน์อัพใหม่เข้าถึงกลุ่มเป้าหมาย
ตั้งเป้าโต 5% ไม่น้อยไป
ธีรวุธ ศุภพันธุ์ภิญโญ กรรมการผู้จัดการ บริษัท บราเดอร์ คอมเมอร์เชี่ยล (ประเทศไทย) จำกัด เปิดเผยว่า ปีที่ผ่านมา ช่วงของวิกฤตโควิด และสภาวะเศรษฐกิจถดถอย ทำให้รายได้ของปี 2564 ต่ำกว่าปีที่ผ่านๆ มาเป็นอย่างมาก แต่พอสถานการณ์ต่างๆ เศรษฐกิจกลับมาดีขึ้น ทำให้การเติบโตของรายได้ปี 2565 เพิ่มขึ้นมากถึง 12%
“การที่เราตั้งเป้ารายได้ในปี 2566 เพียง 5% นั้น ถือว่าเป็นตัวเลขที่ไม่น้อย เพราะหากเทียบกับรายได้ของตลาดโดยรวมเฉลี่ยจะเพิ่มขึ้นเพียง 1-2% เท่านั้น การตั้งเป้าไว้ที่ 5% ถือว่าสูงมากๆ โดยรายได้หลักว่า 88% เป็นรายได้จากเครื่องพิมพ์เลเซอร์รูปแบบต่างๆ และที่เหลือเป็น non-print”
ข้อมูลจาก GFK ยิ่งตอกย้ำว่าบราเดอร์ครองส่วนแบ่งตลาดเครื่องพิมพ์ ปี 2565 โดยเป็นกลุ่มเครื่องพิมพ์โมโนเลเซอร์มัลติฟังก์ชัน 47.8%, กลุ่มเครื่องพิมพ์โมโนเลเซอร์อยู่ที่ 27.7%, กลุ่มเครื่องพิมพ์คัลเลอร์เลเซอร์มัลติฟังก์ชัน 51.5%, กลุ่มเครื่องพิมพ์คัลเลอร์เลเซอร์อยู่ที่ 37.3% และกลุ่มเครื่องพิมพ์อิงค์แทงค์อยู่ที่ 23.4%
“บราเดอร์กลุ่มเครื่องพิมพ์เลเซอร์ส่วนใหญ่ยังครองส่วนแบ่งเป็นอันดับ 1 ซึ่งก็มีกลุ่มลูกค้าที่ยังคงต้องการรูปแบบการพิมพ์แบบเลเซอร์อยู่ หรือความเหมาะสมของการใช้งานแต่ละกลุ่มลูกค้า ในกรณีที่บางแบรนด์จะยุติการขายเครื่องพิมพ์แบบเลเซอร์ อาจจะเป็นเพราะด้วย economy of scale ยังไม่ได้”
เจาะกลุ่มวัยรุ่น ดึง PROXIE โชว์แบรนด์พรีเซนเตอร์
ถือว่าเป็นครั้งแรกในรอบ 25 ปี ของบราเดอร์ ประเทศไทย ที่เปิดตัวแบรนด์พรีเซนเตอร์ “PROXIE” นำเสนอสินค้าใหม่ๆ ขยายฐานลูกค้าไปยังกลุ่มนิวเจนได้มากขึ้น ซึ่งข้อมูลที่บราเดอร์ผ่าน customer journey พบว่าปัจจุบันกลุ่มลูกค้าทั่วไป หากจำแนงกลุ่มอายุแล้ว กลุ่มอายุ Gen Z มีประมาณ 11% แต่คาดว่าหลังจากที่ใช้แบรนด์พรีเซนเตอร์ จะเพิ่มฐานลูกค้านิวเจนเป็น 20% ผ่านกลยุทธ์ customer experience ที่เป็นส่วนหนึ่งในการสร้างความสำเร็จให้กับคนรุ่นใหม่ผ่านสินค้าของบราเดอร์ และเชื่อว่าหาก บราเดอร์ มี community สร้างความประสบการณ์ที่น่าประทับใจของคนรุ่นใหม่ ยิ่งทำให้เกิด brand royalty อนาคตต่อจากนี้จะเติบโตและแข็งแกร่งมากขึ้น
B2B, B2C เจาะกลุ่มธุรกิจใหม่ยังมีช่องทางโตมากขึ้น
ปีนี้ บราเดอร์ เล็งเห็นโอกาสกลุ่มลูกค้าคอมเมอร์เชียลมากขึ้น โดยเพิ่มพาร์ทเนอร์ตัวแทนขาย โดยเสนอสินค้าใหม่ๆ ไปยังกลุ่มที่มีศักยภาพและธุรกิจใหม่ๆ อย่างกลุ่มธุรกิจอุตสาหกรรมอาหารและเครื่องดื่ม กลุ่มธุรกิจเฮลธ์แคร์ กลุ่มธุรกิจค้าปลีก กลุ่มธุรกิจการศึกษา กลุ่มธุรกิจไฟแนนซ์ โดยคาดว่าสัดส่วนรายได้ของคอร์ปอเรทจากเดิมที่มีราว 20% จะโตเพิ่มเป็น 30% ในปี 2566
“ความสำเร็จบราเดอร์พิสูจน์ได้จากการก้าวเข้าสู่การเป็นแบรนด์ 1 ใน 3 ของทุกกลุ่มตลาด non-print โดยเฉพาะกลุ่มผลิตภัณฑ์เครื่องพิมพ์ผ้าระบบดิจิทัล GTX ที่ครองส่วนแบ่งการตลาดสูงถึง 80% ในเร็วๆ นี้ยังมีแผนการนำเข้าสินค้าใหม่ๆ ขยายกลุ่มตลาดคอมเมอร์เชียลและอินดัสเตรียล เพิ่มโอกาสการขายมากเพิ่มขึ้น”
ติดตามข่าวสารจาก Brand Inside ได้จาก Facebook ของเรา