บมจ. ไทยนิปปอนรับเบอร์อินดัสตรี้ หรือ TNR ผู้รับผลิต และเจ้าของถุงยางอนามัย Onetouch แจ้งผลประกอบการปี 2565 มีรายได้รวม 1,984.3 ล้านบาท เพิ่มขึ้น 20.0% เหตุเปิดเมืองทำยอดใช้งานถุงยางอนามัยเพิ่มขึ้น
TNR รายได้โต เหตุถุงยางอนามัยใช้เพิ่ม
อมร ดารารัตนโรจน์ ประธานเจ้าหน้าที่บริหาร TNR เปิดเผยว่า ในปี 2565 บริษัททำรายได้ และกำไรเป็นสถิติใหม่ของบริษัท ผ่านการมีรายได้รวม 1,984.3 ล้านบาท เพิ่มขึ้น 20% จากปี 2564 มาจากธุรกิจขายถุงยางอนามัย และเจลหล่อลื่น 1,852 ล้านบาท เพิ่มขึ้น 24% และมีกำไรสุทธิ 262.3 ล้านบาท เพิ่มขึ้น 156.4%
การเติบโตเป็นสถิติใหม่มาจากจำนวนชิ้นการขายถุงยางอนามัยปี 2565 เพิ่มขึ้น 15% คิดเป็นกว่า 157 ล้านชิ้น ทำให้ต้นทุนการผลิตต่อหน่วยลดลงจากอัตราการเดินเครื่องจักรเฉลี่ยสูงกว่า 80-90% ตลอดทั้งปี นอกจากนี้ธุรกิจงานประมูลที่เติบโต 68% และธุรกิจรับจ้างผลิตที่เติบโต 14% ยังทำให้เข้าถึงเป้าหมายดังกล่าวเช่นกัน
ในฝั่งธุรกิจผลิตภัณฑ์เจลหล่อลื่นยังมียอดขาย 134 ล้านบาท เพิ่มขึ้นเกือบเท่าตัว และธุรกิจจำหน่ายถุงยางอนามัยของบริษัทภายใต้แบรนด์ Onetouch ยังมียอดขายในระดับเดียวกันกับปี 2564 แสดงให้เห็นถึงทิศทางการใช้งานถุงยางอนามัยในตลาดที่เริ่มกลับมาดีขึ้นหลังประเทศต่าง ๆ เริ่มฟื้นตัวจากวิกฤติโรคโควิด-19 ระบาด
สำหรับปี 2566 ทาง TNR มีแผนบุกตลาดจีนมากขึ้น เนื่องจากประชากรที่นั่นมีกว่า 1,400 คน และเป็นประเทศที่ใช้ถุงยางอนามัยมากที่สุดในโลก แต่ยังคงให้น้ำหนักการทำตลาดถุงยางอนามัยแบรนด์ของบริษัท รวมถึงการรับจ้างผลิตให้กับลูกค้าเพื่อทำตลาดในสหรัฐอเมริกา และยุโรป
สรุป
ถุงยางอนามัยเป็นสินค้าที่ใช้นอกบ้าน จึงไม่แปลกที่เมื่อทุกคนออกจากบ้านไม่ได้ยอดขายสินค้าดังกล่าวจะลดลง แต่ปัจจุบันทุกคนกลับมาใช้ชีวิตปกติ ถุงยางอนามัย และสินค้าที่มีความเกี่ยวข้องจึงเติบโต และสัญญาณนี้น่าจะกลับมาดีขึ้น ซึ่งส่งผลให้ TNR และผู้รับผลิตถุงยางอนามัยอื่น ๆ เติบโตเช่นกัน
อ้างอิง // TNR
อ่านเพิ่มเติม
ติดตามข่าวสารจาก Brand Inside ได้จาก Facebook ของเรา