อ่านเกมธุรกิจร้านอาหารไปกับ Black Canyon หลังกำลังซื้อครึ่งปีหลังก็คงไม่ฟื้นตัวมากนัก

ศูนย์วิจัยกสิกรไทยรายงานว่า มูลค่าธุรกิจร้านอาหารปีนี้จะอยู่ที่ 3.9 แสนล้านบาท เพิ่มขึ้นเพียง 2-4% จากปีก่อน ดังนั้นคงเป็นความท้าทายของผู้ทำธุรกิจเป็นอย่างมาก แล้วร้านอาหารสัญชาติไทยอย่าง Black Canyon จะฝ่าวิกฤตนี้อย่างไร

โลโก้คาวบอยที่มีความหนุ่มขึ้น รวมถึงการออกแบบร้านรูปแบบใหม่ของ Black Canyon // ภาพจาก Facebook ของ Black Canyon

รักษาคุณภาพ-ขยายสาขาต่อเนื่อง

ถึงจะเป็นช่วงเวลาที่กำลังซื้อผู้บริโภคยังไม่ฟื้นตัว แต่ “อาหาร” คือหนึ่งในปัจจัย 4 ที่มนุษย์ขาดไม่ได้ ดังนั้นถึงจะมีปัญหาทางการเงินขนาดไหน การจับจ่ายในในเรื่องนี้ก็ยังมีอยู่ แต่ใช้ว่าการทำธุรกิจร้านอาหารจะไม่ต้องปรับตัวอะไร เพราะหากอยู่เฉยๆ ผู้บริโภคก็ไปรับประทานร้านอื่น ผ่านตัวเลือกจำนวนมากในปัจจุบัน

ประวิทย์ จิตนราพงศ์ กรรมการผู้จัดการใหญ่ บริษัท แบล็คแคนยอน (ประเทศไทย) จำกัด เล่าให้ฟังว่า ตอนนี้ความท้าทายของธุรกิจร้านอาหารคือ การกระตุ้นให้ผู้บริโภคออกมาจับจ่ายให้มากขึ้น ผ่านความแตกต่างด้านรสชาติ หรือการทำแคมเปญต่างๆ ที่สำคัญต้องรักษาคุณภาพของรสชาติที่เป็นจุดแข็งของธุรกิจนี้เอาไว้ด้วย

ประวิทย์ จิตนราพงศ์ กรรมการผู้จัดการใหญ่ บริษัท แบล็คแคนยอน (ประเทศไทย) จำกัด

“Black Canyon เองปีนี้ยังคงลงทุนขยายสาขา 15 สาขา แห่งละประมาณ 5 ล้านบาท ใกล้เคียงกับแผนปกติที่เพิ่มสาขาในแต่ละปี 15-20 แห่ง ส่วนเรื่องความต่าง เราก็รีเฟรชแบรนด์ใหม่ ด้วยการปรับโลโก้ให้ดูทันสมัย รวมถึงการตกแต่งภายในร้านตั้งแต่ภาชนะ, บรรจุภัณฑ์ และยูนิฟอร์ม เพราะแบรนด์เรามันตั้ง 24 ปีแล้ว และมีกว่า 300 สาขาในประเทศไทย”

ต่างประเทศก็สำคัญ เพราะแบรนด์ไทยแข็ง

สำหรับการขยายสาขาของ Black Canyon ในปีนี้ นอกจากไปตามศูนย์การค้าเปิดใหม่ และปั๊มน้ำมันที่ร่วมกันกับปตท. ยังมองเรื่องสาขาภายในโรงพยาบาล เพราะร้านของบริษัทได้เปรียบที่มีทั้งเครื่องดื่ม, เบเกอรี่ และอาหารคาว ซึ่งอย่างหลังร้านส่วนใหญ่ในโรงพยาบาลมีไม่มาก และจากที่เปิดมากว่า 10 แห่ง ก็มีญาติผู้ป่วยให้ความสนใจเป็นอย่างมาก

ฟูซิลลี่คาโบนาร่าสไปซี่คริสปี้พอร์ก ราคา 148 บาท หนึ่งในเมนูใหม่ของ Black Canyon

ขณะเดียวกันยังขยายสาขาในต่างประเทศอีก 5 สาขา จากกว่า 50 แห่ง ในกัมพูชา, ฟิลิปปินส์, ลาว, มาเลเซีย, อินโดนีเซีย และเมียนมา โดยที่กัมพูชาผลตอบรับค่อนข้างดี เพราะที่นั่นนิยมความเป็นแบรนด์ไทย รวมถึงพฤติกรรมผู้บริโภคในกัมพูชาก็เปลี่ยนไป เริ่มนิยมออกมารับประทานอาหารนอกบ้านมากขึ้นเช่นกัน

โตช้า แต่ก็ยังสูงกว่าตลาดรวม

ทั้งนี้ Black Canyon ตั้งเป้าธุรกิจเติบโตไว้ราว 5% จากปี 2559 ถือเป็นการเติบโตในอัตราเดียวกันกับปีก่อน เนื่องจากปัญหาเรื่องเศรษฐกิจ ประกอบกับปัจจัยภายนอก ทำให้ผู้บริโภคไม่กล้าจับจ่าย ที่สำคัญด้วยรัฐบาลเน้นลงทุนระดับโครงสร้างพื้นฐานเป็นหลัก ทำให้เงินบางส่วนหมุนไม่มาถึงประชาชน เหมือนกับรัฐบาลที่มาจากการเลือกตั้ง

สรุป

ธุรกิจร้านอาหารนี่อยู่ยาก ถ้าไม่มีความแตกต่าง หรือการบริหารจัดการที่ดีก็มีโอกาสเสี่ยงเจ๊งสูง แต่การที่ Black Canyon ร้านอาหารแบรนด์ไทยที่อยู่มาได้นานถึง 20 กว่าปี ก็แสดงให้เห็นถึงการจัดการ และการหาพื้นที่ ที่เป็นเรื่องสำคัญของธุรกิจนี้ และโดยส่วนตัวมองว่า ถ้าร้านนี้ผ่านวิกฤตต้มยำกุ้งปี 2540 มาแล้ว วิกฤตในตอนนี้ก็คงไม่ใช่เรื่องยากอะไร

ติดตามข่าวสารจาก Brand Inside ได้จาก Facebook ของเรา