สืบเนื่องจากการประกาศข่าวการระดมทุน Series-B รอบล่าสุดของ LINE MAN Wongnai มูลค่า 265 ล้านดอลลาร์สหรัฐ (9,700 ล้านบาท) จนทำให้มูลค่าของบริษัทมากกว่า 1 พันล้านเหรียญสหรัฐ จนกลายเป็นสตาร์ทอัพยูนิคอร์นรายล่าสุดของไทย
ล่าสุดทาง LINE MAN Wongnai ได้เปิดเผยรายละเอียดถึงการเติบโตในช่วงที่ผ่านมา ไปจนถึงภาพรวมของบริษัท โดยปัจจุบันธุรกิจของ LINE MAN Wongnai มี 3 ส่วนคือ
- ธุรกิจออนดีมานด์ เช่น Food Delivery, LINE MAN Mart, LINE MAN Taxi และ LINE MAN Messenger ปัจจุบัน LINE MAN ให้บริการครบแล้วทั้ง 77 จังหวัด 246 อำเภอทั่วประเทศ ขณะที่ LINE MAN Mart ขยายไปแล้ว 9 จังหวัด 96 อำเภอ
- ธุรกิจโซลูชันร้านอาหาร ผ่าน Wongnai Merchant App (รับออเดอร์เดลิเวอรี่) และ Wongnai POS ระบบจัดการร้านอาหาร ปัจจุบันมีร้านอาหารที่ใช้ Wongnai POS มากกว่า 50,000 กลายเป็นผู้ให้บริการอันดับ 1 ในตลาด POS ร้านอาหารในปัจจุบัน
- Value-added service ธุรกิจที่ต่อยอดจากฐานผู้ใช้งานบนแพลตฟอร์ม เช่น โฆษณาร้านอาหารและบริการทางการเงิน (ระบบ subscription ของ Wongnai POS) โดยในอนาคตจะมีการออกบริการทางการเงินใหม่ๆ ด้วย
ในส่วนของธุรกิจฟู้ดเดลิเวอรี่ของ on-demand service จำนวนออเดอร์บนแพลตฟอร์มในราว 2 ปีที่ผ่านมา (2020 – 2022) เติบโตถึง 15 เท่า ซึ่งสูงกว่าอัตราการเติบโตของตลาดฟู้ดเดลิเวอรี่จากบริษัทวิจัย K Reserach ที่คาดการณ์เอาไว้ว่าอยู่ที่ราว 4.2 เท่า นอกจากนี้ส่วนแบ่งการตลาดของฟู้ดเดลิเวอรี่ในช่วงโครงการคนละครึ่งรอบล่าสุด (เฟส 4) LINE MAN ก็ได้ส่วนแบ่งเป็นอันดับ 1 ถึง 75% ด้วย
อย่างไรก็ตามการเติบโตของบริษัท ไม่ได้เกิดจากการขยายฐานผู้ใช้งานและร้านอาหารจาก Food Delivery แต่เพียงอย่างเดียว แต่เกิดจาก synergy ของธุรกิจทั้ง 3 ส่วนของบริษัทด้วย โดยการเติบโตของร้านอาหารที่ใช้ผลิตภัณฑ์/บริการทั้ง 3 ส่วนธุรกิจของ LINE MAN Wongnai (Food Delivery, Wongnai POS และโฆษณา) เติบโตเพิ่มขึ้นถึง 2.8 เท่า
การเติบโตและ synergy ของธุรกิจ LINE MAN Wongnai ดังกล่าวมีส่วนที่ช่วยให้นักลงทุนเล็งเห็นถึงโอกาสในทางธุรกิจของบริษัท ที่น่าสนใจคือการระดมทุนรอบนี้ LINE MAN Wongnai ได้รับเงินลงทุนส่วนหนึ่งจาก GIC ซึ่งเป็นกองทุนความมั่งคั่งของประเทศสิงคโปร์ (sovereign wealth fund) ที่ใหญ่เป็นอันดับ 5 ของโลก ซึ่งอาจจะพอสะท้อนถึงความเชื่อมั่นในทิศทางการทำธุรกิจของ LINE MAN Wongnai ได้เป็นอย่างดี โดยคุณยอด ชินสุภัคกุล ซีอีโอ LINE MAN Wongnai ยืนยันด้วยว่ามาตรฐานการพิจารณาและการทำ due diligence ของ GIC นั้นสูงมากๆ
ในแง่การนำเงินลงทุนไปขยายการเติบโต คุณยอดระบุว่าสิ่งที่จะทำก่อนเลยคือการเพิ่มจำนวนนักพัฒนาในประเทศให้เพิ่มมากขึ้นจากราว 300 คนในปัจจุบันให้เป็น 450 คนภายในสิ้นปี เพื่อขยายโครงสร้างพื้นฐานด้านเทคโนโลยีให้แข็งแกร่งมากขึ้น
ซีอีโอ LINE MAN Wongnai ย้ำด้วยว่ากระแสการรัดเข็มขัดและปลดคนของสตาร์ทอัพหลายๆ รายในปัจจุบัน ไม่กระทบกับบริษัทแน่นอน เพราะบริษัทดำเนินธุรกิจแบบระมัดระวังและไม่ได้ใช้จ่ายแบบฟุ่มเฟือยมาตั้งแต่แรก
Disclaimer: Brand Inside เป็นบริษัทในเครือของ LINE MAN Wongnai
ติดตามข่าวสารจาก Brand Inside ได้จาก Facebook ของเรา