แข็งแกร่งเหนือใคร! ไทยพาณิชย์จับมือกับแบงก์ชาติ เดินหน้าทดสอบการพัฒนาเงินสกุลดิจิทัล สำหรับใช้งานในภาคประชาชน (Retail CBDC)
ธนาคารไทยพาณิชย์ (SCB) ได้รับคัดเลือกจากแบงก์ชาติหรือธนาคารแห่งประเทศไทย ให้เป็นหนึ่งในผู้ร่วมทดสอบการพัฒนาสกุลเงินดิจิทัลสำหรับใช้งานในภาคประชาชน เพื่อใช้งานจริงในวงจำกัดช่วงปลายปี 2565 ถึงกลางปี 2566
ดร.ชาลี อัศวธีระธรรม รองผู้จัดการใหญ่อาวุโส ประธานเจ้าหน้าที่บริหารกลุ่มงาน Digital Banking ธนาคารไทยพาณิชย์ ระบุว่า ไทยพาณิชย์รู้สึกยินดีและเป็นเกียรติอย่างยิ่งที่ได้รับการคัดเลือกจากธนาคารแห่งประเทศไทยให้เป็นหนึ่งในผู้ร่วมทดสอบการพัฒนาสกุลเงินดิจิทัลสำหรับการใช้งานในภาคประชาชน (Retail CBDC) เพื่อใช้งานจริงในวงจำกัดภายใต้ 2 แกนหลัก
(1) การทดสอบระดับพื้นฐาน (Foundation Track) เพื่อประเมินประสิทธิภาพแลความปลอดภัยของระบบ
(2) การดสอบระดับนวัตกรรม (Innovation Track) เพื่อสร้างบริการทางการเงินใหม่ๆ โดยจะนำร่องเปิดทดสอบให้บริการช่วงปลายปี 2565 ถึงกลางปี 2566
ที่ผ่านมา ธนาคารมีความเชี่ยวชาญทั้งพัฒนาแพลตฟอร์มและแอปพลิเคชันต่างๆ เพื่อลูกค้ารายย่อย เช่น กระเป๋าเงินดิจิทัล (E-Wallet), แอปพลิเคชัน SCB EASY Robinhood ฯลฯ สกุลเงินดิจิทัลที่ออกแบบโดยธนาคารเพื่อให้ประชาชนใช้งาน (Retail CBDC) คือเงินในรูปแบบธนบัตรที่พัฒนาให้กลายเป็นรูปแบบเงินดิจิทัล ไม่มีความเสี่ยง อย่างไรก็ดี SCB ไม่ใช่รายเดียวที่ถูกแบงก์ชาติเลือกให้เข้าร่วมทดสอบด้วย ก่อนหน้านี้เคยมีการรายงานแล้วว่ามีหน่วยงานเอกชนไปเข้าร่วมด้วย 3 รายคือธนาคารกรุงศรีอยุธยา ธนาคารไทยพาณิชย์และ 2PCP
CBDC ต่างจาก Cryptocurrency อย่างไร?
เว็บไซต์แบงก์ชาติอธิบายถึง CBDC ว่า เป็นสกุลเงินในรูปแบบดิจิทัลที่ออกโดยธนาคารกลาง มีคุณสมบัติเป็นสื่อกลางเพื่อชำระค่าสินค้าและบริการ สามารถรักษามูลค่าและเป็นหน่วยวัดทางบัญชีได้ ต่างกับคริปโตเคอร์เรนซีอย่าง Bitcoin Ether หรือ Ripple ที่ออกโดยภาคเอกชน มีมูลค่าผันผวนจากการใช้เพื่อเก็งกำไร ไม่เหมาะสำหรับนำมาใช้เป็นสื่อกลางในการชำระค่าสินค้าและบริการ
CBDC สามารถแบ่งได้เป็น 2 รูปแบบได้แก่ สำหรับการทำธุรกรรมระหว่างสถาบันการเงิน (wholesale CBDC) และสำหรับธุรกรรมรายย่อยของภาคธุรกิจและประชาชน (retail CBDC)
ติดตามข่าวสารจาก Brand Inside ได้จาก Facebook ของเรา