การเติบโตอย่างต่อเนื่องของ Disney ตลอดปี 2021 เป็นไฮไลท์ของ Q2 ปีนี้ เมื่อเทียบกับรายได้ที่น่าผิดหวังของ Netflix เมื่อผู้คนคลายล็อกดาวน์กันมากขึ้นทำให้ยอดผู้สมัครใหม่ตกฮวบ
เทียบยอด Subscriber
Disney+ และ Disney+ Hotstar รวมกันแล้วมียอดผู้สมัครเพิ่มขึ้น 12.4 ล้านคนใน Q2 ปี 2021 (เพิ่มขึ้นจากประมาณ 9 ล้านคนใน Q1)
ส่วน Netflix มียอดผู้สมัครเพิ่มขึ้นประมาณ 1.5 ล้านคนใน Q2 ซึ่งลดลงจาก 4 ล้านคนใน Q1 และลดลงอย่างมากจากยอดของปี 2020 ที่ 10.1 ล้านคน
Mark Zgutowicz นักวิเคราะห์จาก Rosenblatt Equity Research กล่าวว่า “Disney+ มียอดผู้สมัครตามหลัง Netflix อยู่ประมาณ 90 ล้านคนทั่วโลก แต่ถ้านับแค่ปี 2021 Disney นำ Netflix ไปแล้ว 20 ล้านคน”
Disney ปะทะ Netflix
ในด้านของรายได้ Disney รับกำไรจากภาพยนต์หลายเรื่อง เช่น “Cruella” และ “Luca” ที่ทางบริษัทตัดสินในนำฉายบน Disney+ โดยตรง
ส่วน Netflix คาดว่ารายได้ในไตรมาสถัดไปจะดีขึ้น เมื่อซีรีส์ยอดนิยมอย่าง “Sex Education” และ “Money Heist” กลับมาถ่ายทำและฉายต่อได้อีกครั้ง
สรุปผู้ให้บริการสตรีมมิ่ง
Netflix ยังเป็นผู้นำตลาดอยู่ ด้วยยอดผู้สมัครรวมที่ 209 ล้านคน พร้อมวางแผนเปิดตัวคอนเท้นท์ใหม่ๆ ในไตรมาสหน้า พร้อมเริ่มพัฒนาเกมมือถือ
ในขณะที่ Disney+ และ Disney+ Hotstar ตามหลังมาที่ยอดผู้สมัคร 116 ล้านคน โดยมีบริการในเครืออย่าง Hulu และ ESPN+ ที่มียอดผู้ใช้รวมกว่า 57.7 ล้านคน
ทางด้านของ Amazon Prime มีสมาชิกอยู่ที่ 175 ล้านคน ซึ่งนอกจากจะให้บริการสตรีมมิ่งแล้ว ยังมีบริการอื่นๆ ของ Amazon ด้วย เช่น การส่งพัสดุภายใน 1 วัน เป็นต้น
ในอีกด้านหนึ่ง Apple TV+ ไม่ได้เปิดเผยยอดผู้สมัคร แต่เปิดให้ผู้ซื้อสินค้า Apple เช่น iPhone ตั้งแต่ปลายปี 2019 ใช้ Apple TV+ ได้ฟรี 1 ปี เต็ม พร้อมขยายเวลาทดลองระหว่างการล็อกดาวน์อีกด้วย ทว่า ปัจจุบัน Apple เริ่มลดเวลาทดลองเหลือ 3 เดือน และผู้ใช้ปัจจุบันจะต้องเริ่มจ่ายค่าสมัครแล้ว ซึ่งโจทย์ต่อไปสำหรับ Apple ก็คือการดึงลูกค้าไว้ให้ได้ แม้จะมีคอนเท้นท์น้อยกว่าสตรีมมิ่งรายอื่นๆ ในตลาดก็ตาม
สำหรับ HBO Max ของ WarnerMedia มียอดผู้สมัครทั่วโลกที่ 67.5 ล้านคน ซึ่งคาดว่าจะเพิ่มขึ้นเป็น 73 ล้านคนภายในสิ้นปี 2021 และจะมีผู้ใช้ระหว่าง 120 – 150 ล้านคนภายในปี 2025
สรุป
เมื่อผู้คนเริ่มใช้เวลานอกบ้านมากขึ้น หลังล็อกดาวน์คลายตัวลง บริการสตรีมมิ่งก็ต้องเริ่มหากลยุทธ์อื่นๆ มาดึงดูดลูกค้าให้มาสมัครต่อไป น่าจับตามองว่าจะมีบริการใดบ้างในอนาคต
ที่มา – CNBC
ติดตามข่าวสารจาก Brand Inside ได้จาก Facebook ของเรา