วัคซีนเป็นเหตุ Uniqlo ยอดขายตก ล่าสุด Zara ขึ้นแซง
จากการฟาดฟันของสองแบรนด์ฟาสต์แฟชั่น ที่ก่อนหน้านี้ Uniqlo กำลังนำมาแต่ด้วยสถานการณ์ตอนนี้วัคซีนในเอเชียยังมีน้อย ในขณะที่ฝั่งตะวันตกเริ่มคลายล็อคดาวน์ไปบ้างแล้ว ทำให้ Uniqlo หล่นลงมาเป็นรอง Zara
มูลค่ากิจการตามราคาหุ้นของ Fast Retailing บริษัทแม่ของ Uniqlo อยู่ที่ 7.94 หมื่นล้านดอลลาร์ หรือประมาณ 2 ล้านล้านบาท ยังตามหลัง Inditex บริษัทแม่ของ Zara ที่มีมูลค่า 1.21 แสนล้านดอลลาร์
สถานการณ์เปลี่ยนหลังมีวัคซีนโควิด
ช่วงแรกของการระบาด Fast Retailing ได้ประโยชน์จากการที่เอเชียที่สามารถควบคุมการระบาดได้ดีกว่า ทำให้ Uniqlo มาแรงจนขึ้นนำ Zara กลายเป็นแบรนด์ฟาสต์แฟชั่นอันดับ 1
- Uniqlo โค่น Zara ขึ้นแท่นแบรนด์ฟาสต์แฟชั่นที่มีมูลค่ากิจการสูงที่สุดในโลก
- คนจีนชอบมาก Uniqlo มีหน้าร้านในจีนมากกว่าญี่ปุ่น รายได้อาจแซงญี่ปุ่นภายในปี 2024
แต่หลังจากมีการผลิตและแจกจ่ายวัคซีน ดูเหมือนว่าสถานการณ์จะพลิกกลับ ทำให้ Zara ขึ้นแซงอีกครั้ง ทวงคืนบัลลังก์เจ้าแห่งวงการฟาสต์แฟชั่น เนื่องจากการแจกจ่ายวัคซีนในประเทศตะวันตกทำได้รวดเร็วกว่าฝั่งเอเชีย
จากข้อมูลการวิเคราะห์ของ Nikkei และ Financial Times
- สหราชอาณาจักร มีอัตราการฉีดวัคซีนอยู่ที่ 103 โดส ต่อ ประชากร 100 คน
- สหรัฐอเมริกา 91 โดส ต่อ 100 คน
- เยอรมนี 66 โดส ต่อ 100 คน
ในขณะที่อัตราการได้รับวัคซีนของประเทศในเอเชียยังตามหลัง
- เกาหลีใต้ 20 โดส ต่อ 100 คน
- ญี่ปุ่น 14 โดส ต่อ 100 คน
- มาเลเซีย 11 โดส ต่อ 100 คน
Uniqlo เจอศึกหนัก
ปัจจุบันสถานการณ์โควิดในเอเชียยังน่าเป็นห่วง ทำให้กิจการ Uniqlo ในมาเลเซียปิดตัวลงกว่า 49 สาขา ส่วนในเวียดนามต้องพักกิจการไว้ชั่วคราวก่อน 5 สาขา จากทั้งหมด 8 สาขาทั่วประเทศ
นอกจากนี้ Fast Retailing ต้องรับมือกับยอดขายที่ต่ำลงในญี่ปุ่น เมื่อเดือนพฤษภาคมที่ผ่านมาพบว่ายอดขายลดลง 0.6% จากปีที่แล้ว และเมื่อเทียบกับยอดขายของปี 2019 ช่วงก่อนการระบาดของโควิดพบว่าลดลงถึง 18.6%
ผลจากมาตรการผ่อนคลายข้อจำกัดทางเศรษฐกิจ
ในตอนแรก Zara ต้องปิดสาขาไปกว่า 88% ทั่วโลก แต่ต่อมาอัตราส่วนของการปิดกิจการลดลงเหลือเพียง 16%
Inditex ได้รายงานกำไรสุทธิในไตรมาสแรกสิ้นเดือนเมษายนว่ามีมูลค่า 421 ล้านยูโร หรือประมาณเกือบ 1.6 หมื่นล้านบาท แสดงให้เห็นการเปลี่ยนแปลงที่ดีขึ้นจากปีที่แล้ว ที่มีมูลค่าการสูญเสียกว่า 1.5 หมื่นล้านบาท
อีกทั้งยอดขายออนไลน์ช่วงเดือนกุมภาพันธ์-เมษายนเพิ่มขึ้น 67% เมื่อเทียบกับปีก่อนหน้า เพราะโควิดทำให้การซื้อของออนไลน์กลับมาคึกคัก
อย่างไรก็ตามทั้งสองแบรนด์ก็ยังเชื่อมั่นในตลาดเอเชียว่ายังคงเป็นตัวแปรสำคัญที่จะนำไปสู่การเจริญเติบโตในระยะกลาง-ยาว ทำให้ทั้ง Fast Retailing และ Inditex เร่งขยายสาขาในภูมิภาคเอเชียมากขึ้นโดยเฉพาะในจีน
ที่มา: Nikkei Asia
ติดตามข่าวสารจาก Brand Inside ได้จาก Facebook ของเรา