แค่สนุกไม่พอ แผนธุรกิจปี 2021 ของ TikTok เน้นการตลาด สร้างอาชีพให้คนได้

เติบโตอย่างแรงในยุคโควิด

ในปี 2020 แพลตฟอร์มน้องใหม่อย่าง TikTok มาแรงมาก

ถ้าดูภาพรวมในตลาดผลสำรวจของ Neilsen ในปี 2020 พบว่า

  • คนไทยใช้เวลากับสื่อดิจิทัลผ่านทางสมาร์ทโฟนเพิ่มสูงขึ้นเป็น 6.08 ชั่วโมงต่อวัน เพิ่มขึ้นกว่า 59% จากช่วงต้นปีที่มีการใช้เวลา 3.51 ชั่วโมงต่อวัน

ข้อมูลจาก MediaBrix ในปี 2020 ระบุว่า ผู้ใช้อินเทอร์เน็ตส่วนใหญ่มีการรับชมคอนเทนท์ประเภทวิดีโอ โดยในจำนวนนี้

  • 55% มีการรับชมทุกวัน
  • 90% ชื่นชอบวิดีโอสั้นแนวตั้ง
  • 72% เรียนรู้ผลิตภัณฑ์และรู้จักบริการต่างๆ ผ่านคอนเทนท์ประเภทวิดีโอ

ข้อมูลจาก SteamElement ในปี 2020 ระบุว่า Live-streaming กำลังได้รับความนิยมมากขึ้นโดยพบว่า มีการเพิ่มขึ้นของคอนเทนท์จากการ Live-steaming ถึง 99% เทียบจากช่วงเวลาเดียวกันของปี 2019

  • พูดง่ายๆ คือปี 2020 สะท้อนให้เห็นว่า คอนเทนท์วิดีโอได้เข้ามาช่วงชิงเวลาของกลุ่มผู้ชมในโลกออนไลน์

ข้อมูลจาก App Annie เปรียบเทียบการใช้แพลตฟอร์ม TikTok ระหว่างเดือนมกราคมปี 2021 กับเดือนมกราคมปี 2020 พบว่า

  • ในประเทศไทย มีการดาวน์โหลด TikTok เพิ่มสูงขึ้นถึง 44%
  • มีการเพิ่มขึ้นของการใช้เวลาบนแพลตฟอร์มของผู้ใช้แต่ละคนสูงถึง 71%
  • มีระยะเวลาการใช้งานในแต่ละครั้งเพิ่มสูงขึ้น 47%

นอกจากนั้น มีการสำรวจความรู้สึกของผู้ใช้คนไทยที่มต่อ TikTok โดย Kantar ในปี 2563 พบว่า

  • 83% ของผู้ใช้รู้สึกว่า TikTok เป็นแพลตฟอร์มผู้นำกระแส
  • 82% มองว่า TikTok เป็นแพลตฟอร์มที่เป็นบวกและทำให้ผู้ใช้รู้สึกดีเมื่อได้ใช้เวลาบนแพลตฟอร์ม

อนาคตของ TikTok ในประเทศปี 2021

สุรยศ เอี่ยมละออ Head of Consumer Marketing เปิดเผยว่า ในปี 2021 ถือเป็นช่วงเวลาที่ผู้ใช้และครีเอเตอร์บน TikTok ซึ่งเป็นส่วนสำคัญใน Ecosystem มีการเติบโตและแข็งแกร่งขึ้นในทุกมิติ โดยมีการเพิ่มขึ้นของจำนวนผู้ใช้โดยเฉพาะในกลุ่มอายุ 18 – 34 ปี ที่ปัจจุบันมีสัดส่วนมากกว่า 50% ของจำนวนผู้ใช้ทั้งหมดในประเทศไทย

อีกทั้งความหลากหลายของคอนเทนท์บน TikTok ทั้งคอนเทนท์ความบันเทิงและสาระความรู้ที่เติบโตและได้รับความนิยมมากขึ้น สร้างกระแสให้เกิดเป็นไวรัลได้อย่างต่อเนื่อง ส่งผลให้มีการแจ้งเกิดให้กับครีเอเตอร์ดาวรุ่งหน้าใหม่มากมาย พร้อมนำไปสู่การสร้างอาชีพจากการเป็นครีเอเตอร์ของ TikTok

สุรยศ เอี่ยมละออ Head of Consumer Marketing
สุรยศ เอี่ยมละออ Head of Consumer Marketing

สำหรับก้าวต่อไปในประเทศไทย TikTok จะยังคงเดินหน้าสร้างความแข็งแกร่งและประสบการณ์ที่ดียิ่งขึ้นให้กับผู้ใช้ ครีเอเตอร์ และพันธมิตรแบรนด์ต่างๆ ควบคู่ไปกับการสร้างประสบการณ์ที่แปลกใหม่ เพื่อจุดประกายความคิดสร้างสรรค์และมอบความสุขให้กับผู้คน เพื่อนำไปสู่เป้าหมายในการขยายฐานผู้ใช้ในประเทศไทยผ่าน 3 กลยุทธ์สำคัญ ดังต่อไปนี้

  • การสร้างประสบการณ์ที่ดียิ่งขึ้นให้กับผู้ใช้: มีเป้าหมายเพื่อการสร้างประสบการณ์ที่ดียิ่งขึ้นและตอบสนองทุกความต้องการของผู้คนในปัจจุบันผ่านการพัฒนาผลิตภัณฑ์ ได้แก่ การขยายช่วงเวลาแห่งความสุขบนแพลตฟอร์มด้วยการเพิ่มความยาววิดีโอเป็น 3 นาที สำหรับผู้ใช้ทุกคน และการต่อยอดความสำเร็จของ TikTok LIVE ที่กำลังได้รับความนิยม ด้วยการเปิดตัวฟีเจอร์ใหม่อย่าง Multi-Guest เพื่อให้ผู้ใช้สามารถชวนเพื่อนมาร่วมไลฟ์พร้อมกันได้สูงสุด 3 คน และ Live Countdown Sticker ที่จะแสดงเวลานับถอยหลังก่อนเริ่มไลฟ์
  • การยกระดับคอนเทนท์บนแพลตฟอร์มมีเป้าหมายเพื่อการสร้างความน่าสนใจและความหลากหลายของคอนเทนท์เพื่อเข้าถึงและขยายฐานผู้ใช้กลุ่มใหม่ๆ ให้ครอบคลุมในทุกกลุ่ม โดยเฉพาะอย่างยิ่งสำหรับคอนเทนท์ความบันเทิงที่ได้รับความนิยมสูงสุดบนแพลตฟอร์ม TikTok ด้วยการส่งเสริมให้เกิดการสร้างสรรค์คอนเทนท์ประเภท PGC (Professionally Generated Content) จากผู้ผลิตคอนเทนท์มืออาชีพ อาทิ สำนักข่าว, ค่ายเพลง, ค่ายละคร, ผู้ผลิตรายการโทรทัศน์ เป็นต้น
  • การพัฒนาความร่วมมือเชิงสร้างสรรค์กับพันธมิตร: เพื่อมอบประสบการณ์ให้ผู้ใช้ได้มีส่วนร่วมกับแพลตฟอร์มได้อย่างสร้างสรรค์และไร้ขีดจำกัดผ่านความร่วมมือกับพันธมิตรชั้นนำต่างๆ เช่น ล่าสุด TikTok ร่วมมือกับ Pomelo แบรนด์แฟชั่นชื่อดังเปิดตัวคอลเลกชั่นสตรีทแวร์สุดพิเศษ โดยนำเอาโลโก้ TikTok มาสร้างสรรค์เป็นลายปริ้นท์สุดเก๋และความร่วมมือกับเดอะมอลล์กรุ๊ปในการสร้างสรรค์กิจกรรมแชร์คลิปวิดีโอแฮชแท็กชาเลนจ์ #HappierTogetherTH เพื่อร่วมเป็นส่วนหนึ่งในการบริจาคเงินสนับสนุนในกิจกรรมคืนผืนป่าสร้างระบบนิเวศที่ยั่งยืนในจังหวัดน่าน

นอกจากการเป็นแพลตฟอร์มวิดีโอสั้นที่ตอบโจทย์พฤติกรรมการรับชมคอนเทนท์และเป็นที่นิยมในกลุ่มผู้ใช้และครีเอเตอร์ TikTok ยังเป็นแพลตฟอร์มที่ช่วยส่งเสริมให้แบรนด์และธุรกิจในประเทศไทยประสบความสำเร็จในการทำการตลาดดิจิทัลทั้งเพื่อการเข้าถึงกลุ่มเป้าหมาย การสร้างการรับรู้ การมีส่วนร่วม และการสร้างยอดขายอีกด้วย

โดยตั้งแต่การเปิดตัว TikTok For Business โซลูชันการตลาดดิจิทัลในประเทศไทยเมื่อเดือนมิถุนายนปี 2563 ที่ผ่านมา เป็นเวลาเกือบ 8 เดือนแล้ว ที่ TikTok For Business ได้สร้างความสำเร็จให้กับทั้งแบรนด์ชั้นนำและธุรกิจขนาดกลางและเล็กมากมายจากหลายอุตสาหกรรมที่เข้ามาทำการตลาดบน TikTok  ได้แก่ สินค้าอุปโภคบริโภค, อาหารและเครื่องดื่ม, อสังหาริมทรัพย์, สุขภาพและความงาม, การสื่อสารและอุปกรณ์, อีคอมเมิร์ซ, ท่องเที่ยว, บริการเดลิเวอรี่, เกมออนไลน์ เป็นต้น

สิรินิธิ์ วิรยศิริ Head of Business Marketing
สิรินิธิ์ วิรยศิริ Head of Business Marketing

สิรินิธิ์ วิรยศิริ Head of Business Marketing กล่าวว่า ในปี 2564 TikTok For Business มุ่งมั่นที่จะส่งเสริมและสนับสนุนนักการตลาดและนักโฆษณาในทุกมิติภายใต้แนวคิด “Moving beyond Reach to Relevance” ที่ต้องการให้นักการตลาดและแบรนด์ต่างๆ ที่เข้ามาทำการตลาดดิจิทัลบน TikTok ไม่ใช่เพียงแค่การเข้าถึงกลุ่มเป้าหมายเท่านั้น แต่ยังสามารถเข้าถึงกลุ่มผู้ใช้ที่มีความสนใจและเกี่ยวข้องกับแบรนด์ได้ เพื่อให้เกิดการมีปฏิสัมพันธ์ที่มีความหมายกับแบรนด์และผลิตภัณฑ์ต่างๆ

สำหรับในปี 2564 TikTok For Business ยังคงมุ่งมั่นเป็นส่วนหนึ่งที่จะส่งเสริมให้แบรนด์และธุรกิจทุกขนาดสามารถเติบโตและประสบความสำเร็จบนแพลตฟอร์ม TikTok ผ่าน 3 กลยุทธ์ ได้แก่

  • การนำเสนอข้อมูลเชิงลึกและเครื่องมือเพื่อเป็นประโยชน์กับนักการตลาด: โดยมีเป้าหมายเพื่อการส่งเสริมการทำงานให้นักการตลาดสามารถวางแผนกลยุทธ์การตลาดดิจิทัลได้อย่างมีประสิทธิภาพและบรรลุเป้าหมายที่ตั้งไว้ ผ่านการนำเสนอข้อมูลเชิงลึกที่เป็นประโยชน์สำหรับการเติบโตธุรกิจ ผ่านกิจกรรมในหลายรูปแบบทั้งการจัดงานสัมมนาออนไลน์ การแชร์ข้อมูลเชิงลึก และการให้โซลูชันที่ช่วยอำนวยความสะดวกให้กับนักการตลาด อาทิ TikTok Unboxed กิจกรรมสัมมนาออนไลน์เพื่อแชร์ข้อมูลเชิงลึกในแต่ละอุตสาหกรรม และการจัดทำข้อมูลเชิงลึกที่เกี่ยวข้องกับการทำการตลาดดิจิทัลให้เหมาะสมกับเทศกาลต่างๆ เพื่อแชร์ให้กับนักการตลาด และการสร้างสรรค์โซลูชัน Creator Market Place ที่รวบรวมข้อมูลของครีเอเตอร์เพื่ออำนวยความสะดวกให้กับนักการตลาดได้เชื่อมโยงกับครีเอเตอร์บน TikTok ได้อย่างสะดวกและง่ายดาย
  • การสนับสนุนและสร้างการเติบโตให้กับ SME: มีเป้าหมายเพื่อให้ผู้ประกอบการ SME สามารถสร้างความสำเร็จและการเติบโตให้กับธุรกิจบนแพลตฟอร์ม TikTok ผ่านกิจกรรมเพื่อสร้างความรู้ความเข้าใจต่อการใช้งานโซลูชัน TikTok For Business และเทคนิคการทำการตลาดดิจิทัลให้ประสบความสำเร็จในปัจจุบัน ได้แก่ การจัดงานสัมมนาออนไลน์ Grow with TikTok และ Starter Lab ที่จะปูพื้นฐานความเข้าใจด้านการใช้ TikTok For Business การแบ่งปันข้อมูลเชิงลึกที่เกี่ยวกับการตลาด SME ในแต่ละประเภทธุรกิจ นอกจากนี้ยังมีการร่วมมือกับพันธมิตรชั้นนำทั้งภาครัฐและเอกชน ได้แก่ สำนักงานส่งเสริมเศรษฐกิจดิจิทัล, สำนักงานส่งเสริมวิสาหกิจ เป็นต้น ในการสร้างสรรค์กิจกรรมให้ความรู้และเทคนิคการทำตลาดดิจิทัลที่ทันสมัยกับ SME รวมถึงการเปิดตัวศูนย์ข้อมูลสำหรับ SME ผ่านทางเว็ปไซด์เพื่อให้ผู้ประกอบการสามารถค้นหาข้อมูลเกี่ยวกับการใช้งาน TikTok For Business
  • การสนับสนุนและพัฒนาศักยภาพให้กับอุตสาหกรรมครีเอทีฟ: เพราะการสร้างสรรค์แคมเปญการตลาดบน TikTok จำเป็นต้องมีความคิดสร้างสรรค์ จึงเป็นที่มาให้ TikTok For Business สร้างสรรค์กิจกรรมเพื่อการสนับสนุนอุตสาหกรรมครีเอทีฟและการสร้างงานครีเอทีฟสำหรับการทำโฆษณาและการตลาดดิจิทัลให้มีประสิทธิภาพและประสบความสำเร็จมากยิ่งขึ้น ผ่านการจัดกิจกรรมและการให้เครื่องมือสำหรับการสร้างสรรค์งานครีเอทีฟบน TikTok ได้แก่ การจัดงานสัมมนาออนไลน์ การจัดทำ Creative Play Book คู่มือแนะนำการทำครีเอทีฟ และ ทีมงาน Creative Lab Support Team ที่จะให้คำแนะนำและความช่วยเหลือในด้านการสร้างสรรค์แคมเปญการตลาดหรือการโฆษณาบน TikTok

ที่ผ่านมามีแบรนด์และธุรกิจจำนวนมากในหลากหลายอุตสาหกรรมที่ประสบความสำเร็จจากการใช้ TikTok For Business เพื่อการต่อยอดธุรกิจและเชื่องโยงกลุ่มเป้าหมายได้อย่างมีประสิทธิภาพ อย่าง แคมเปญ #สนุกซ่าไม่มีซ้ำ จากแบรนด์มิรินด้า ซึ่งเป็นครั้งแรกของการใช้ Branded Effect ในประเทศไทย ให้ผู้ใช้มาร่วมสนุกกับ hashtag campaign ที่ทำให้เกิดการสร้างการจดจำให้กับแบรนด์และผลิตภัณฑ์ จนสามารถสร้างปรากฏการณ์ยอดวิวสูงถึง 100 ล้าน และมีการสร้างสรรค์วิดีโอภายใต้แคมเปญ #สนุกซ่าไม่มีซ้ำ สูงถึง 1.26 แสนวิดีโอ และแบรนด์เครื่องสำอางชั้นนำสัญชาติเกาหลีอย่าง Etude ที่ทำโฆษณาในรูปแบบ customized ad บน TikTok ที่นอกจากจะได้รับการตอบรับที่ดีแล้วยังถือเป็นโฆษณาที่มีประสิทธิภาพด้วยต้นทุนต่อการคลิกโฆษณา (CPC) ลดลงกว่า 40% แต่อัตราการคลิกต่อจำนวนการมองเห็น (CTR) สูงขึ้นถึง 18% และพบว่ามีผู้เข้ามาซื้อสินค้าทางช่องทางอีคอมเมิร์ซของแบรนด์เพิ่มสูงขึ้นถึง 9 เท่า

ติดตามข่าวสารจาก Brand Inside ได้จาก Facebook ของเรา