วัฒนธรรมการทำงานในญี่ปุ่นเน้นเรื่องตรงต่อเวลา และทำงานให้เต็มที่ แต่เมื่อมีคนไม่ปฏิบัติตามก็มักจะถูกลงโทษ ล่าสุดมีพนักงานของหน่วยงานรัฐที่ญี่ปุ่นจงใจทุจริตตอกบัตรออกงานก่อน 2 นาที จนโดนปรับ 40,000 บาท
ตอกบัตรออกก่อนเพราะต้องไปขึ้นรถเมล์
รายงานข่าวแจ้งว่า เมื่อวันที่ 10 มี.ค. Board of Education ของเมือง Funabashi จังหวัด Chiba ประกาศทำโทษพนักงานจำนวนหนึ่ง หลังจากพวกเขาจงใจทุจริตเพื่อตอกบัตรออกจากงานก่อน 2 นาที เพื่อไปขึ้นรถเมล์ให้ทันเวลา 17.17 น. โดยหากนับตั้งแต่เดือนพ.ค. 2562-ม.ค. 2564 มีกรณีดังกล่าวเกิดขึ้นถึง 316 ครั้ง
สำหรับผู้ที่เริ่มทุจริตตอกบัตรออกจากงานก่อนคือหญิงวัย 59 ปี รับผิดชอบงานเกี่ยวกับการลงเวลาของพนักงาน ทั้งทำงานในระดับที่ปรึกษาของแผนก Lifelong Learning จากนั้นพนักงานอีกจำนวนหนึ่งที่เพิ่งเริ่มงานในปีปฏิทินนี้เช่น ชายวัย 27 ปี และหญิงช่วงวัย 60 ปี และอื่นๆ ต่างต้องการตอกบัตรออกก่อน 2 นาทีตามหญิงวัย 59 ปี
การทุจริตครั้งนี้ถูกพบหลังตัวเลขบัตรลงเวลาระบุว่า พวกเขาออกงานเวลา 17.15 น. แต่จริงๆ แล้วพวกเขาออกงานตั้งแต่เวลา 17.13 น. โดยพนักงานกลุ่มนั้นถูกคาดโทษจากความผิดครั้งนี้ ยกเว้นหญิงวัย 59 ปีที่ถูกตัดเงินเดือน 1 ใน 10 เป็นเวลา 3 เดือน เป็นมูลค่า 1.37 แสนเยน (ราว 38,000 บาท) คืนให้หน่วยงานเพราะทำงานไม่เต็มเวลา
ในทางกลับกัน หญิงวัย 59 ปีอ้างว่า หากเธอไม่ออกก่อนเวลา และขึ้นรถเมล์ไม่ทันเที่ยว 17.17 น. จะต้องรออีก 30 นาที เพื่อขึ้นรถเมล์เที่ยวต่อไปในเวลา 17.47 น. ทั้งนี้เมื่อข่าวออกไป เกิดการถกเถียงกับกลุ่มผู้ใช้งานอินเทอร์เน็ตในญี่ปุ่น ว่าการออกก่อนเวลา 2 นาทีผิดหรือไม่ และการตอกบัตรเข้า-ออกงาน นั้นน่าจะล้าสมัยไปแล้ว
สรุป
การตอกบัตรออกก่อน 2 นาที อาจเป็นเรื่องที่น่าฉงนว่ามันผิดขนาดนั้นเลยเหรอ แต่จริงๆ แล้วเรื่องที่น่าสนใจคือ การตอกบัตรยังจำเป็นอยู่หรือไม่ เพราะปัจจุบันกระแสทำงานที่ได้เริ่มมีมากขึ้น และการจ่ายเงินเดือนตามผลลัพธ์ของงานน่าจะเหมาะสมกว่า
อ้างอิง // Soranews24
ติดตามข่าวสารจาก Brand Inside ได้จาก Facebook ของเรา