Manchester United แจ้งผลประกอบการไตรมาส 2 (ต.ค.-ธ.ค. 2563) ว่า รายได้เติบโต 2.6% กำไรสุทธิโตเกือบเท่าตัวเมื่อเทียบกับช่วงเวลาเดียวกันของปีก่อน แต่ทีมต้องกู้เงินเพื่อประคองธุรกิจให้ผ่านวิกฤต COVID-19
ขายนักเตะ-เล่นถ้วยใหญ่ยุโรปช่วย MANU
รายละเอียดที่น่าสนใจของการแจ้งผลประกอบการประจำไตรมาส 2 ของ Manchester United ประกอบด้วย รายได้ปิดที่ 172.8 ล้านปอนด์ เพิ่มขึ้น 2.6% เมื่อเทียบกับช่วงเวลาเดียวกันของปีก่อน ส่วนกำไรสุทธิปิดที่ 63.9 ล้านปอนด์ เพิ่มขึ้นจากช่วงเวลาเดียวกันของปีก่อนที่ปิดที่ 35 ล้านปอนด์
เหตุที่ทีมประคองให้รายได้ และกำไรเติบโตในวิกฤต COVID-19 มาจากการขายนักเตะ เช่น Chris Smalling และค่าลิขสิทธิ์การถ่ายทอดถ้วยใหญ่ยุโรปอย่าง Uefa Champion League จนรายได้จากส่วนนี้เพิ่มเป็น 108 ล้านปอนด์
อย่างไรก็ตามภายใต้วิกฤต COVID-19 ทำให้รายได้จากการขายตั๋วเข้าชมเกมการแข่งขันหายไปแทบจะทั้งหมด โดยถ้าเทียบระหว่าง 6 เดือนแรกของปีงบประมาณปี 2562 และ 2563 รายได้จากส่วนนี้ลดลง 94.2% เหลือเพียง 3.2 ล้านปอนด์เท่านั้น
ทั้งนี้ทางทีมมีแผนกู้ยืมเงิน 60 ล้านปอนด์ เพื่อประคองค่าใช้จ่าย และรักษากระแสเงินสดเอาไว้ ทำให้หนี้สินสุทธิของทีมเพิ่มขึ้น 16.4% เป็น 455.5 ล้านปอนด์ โดย Ed Woodward รองประธานบริหาร Manchester United หวังว่า ในฤดูกาลถัดไปผู้ชมจะสามารถเข้าชมเกมที่สนามได้
สรุป
หลายทีมฟุตบอลต้องประสบปัญหาทางธุรกิจเพราะรายได้จากการขายตั๋วเข้าชมเกมไม่สามารถเกิดขึ้นได้ แต่ถึงอย่างไร Manchester United ยังประคองทีมไปได้ด้วยผลงานที่ดีขึ้น และสามารถไปเล่นรายการใหญ่ของยุโรป แม้ล่าสุดจะตกรอบจนต้องไปแข่งขันในถ้วยรองก็ตาม
อ้างอิง // Financial Times, BBC
ติดตามข่าวสารจาก Brand Inside ได้จาก Facebook ของเรา