หมดยุคภาพชัดเสียงดี ปัญหาปวดหัวคนทำสื่อ: ชาวเน็ตยุคนี้ 75% ดูคลิปวิดีโอแบบไม่เปิดเสียง

เรื่องปวดหัวคนทำสื่อออนไลน์ ผลสำรวจเผย ชาวเน็ตกว่า 75% ดูคลิปวิดีโอแบบไม่เปิดเสียง แถมเกินครึ่งปิดเสียงโทรศัพท์ไว้ตลอดเวลา

คลิปวิดีโอคือชนิดของสื่อออนไลน์ที่ชาวเน็ตในยุคปัจจุบันนิยมเสพ ทดแทนการอ่านบทความแบบยาวๆ เพราะเข้าใจได้ง่าย สามารถดูคลิปวิดีโอในขณะที่ทำกิจกรรมอื่นๆ ได้พร้อมกัน อย่างไรก็ตามแม้ปัจจุบันคนยังนิยมดูคลิปวิดีโออยู่ แต่ก็ไม่ได้หมายความว่าคลิปวิดีโอที่ดูจะมีลักษณะเหมือนเดิมตลอดไป

Sharethrough บริษัทวิจัยด้านโฆษณาและสื่อแห่งหนึ่ง ได้ทำการศึกษาพฤติกรรมการบริโภคสื่อออนไลน์ของชาวเน็ตในยุคนี้ โดยพบว่า

    • ชาวเน็ต 75% รับชมคลิปวิดีโอโดยไม่ได้เปิดเสียง
    • แถมเกินครึ่ง หรือ 63% ปิดเสียงโทรศัพท์ไว้ตลอดเวลา

โดยจำนวนคนที่ดูคลิปวิดีโอแบบไม่เปิดเสียงจะมีมากขึ้นในคนกลุ่ม Millennials คิดเป็นสัดส่วนกว่า 85% ส่วนคนเจน X มีผู้ที่ไม่เปิดเสียงขณะชมคลิปวิดีโอราว 64% ซึ่งก็ดูเป็นจำนวนที่มากอยู่ดี หรือถ้าคิดง่ายๆ ก็คือการดูคลิปวิดีโอแบบไม่เปิดเสียงได้รับความนิยมในคนหลากหลายช่วงอายุ

ส่วนวิธีในการเข้าถึงคลิปวิดีโอก็มีความเปลี่ยนไปเช่นเดียวกัน จากเดิมที่นิยมเข้าไปรับชมคลิปวิดีโอโดยเข้าไปยังเว็บไซต์โดยตรง เปลี่ยนเป็นการชมคลิปวิดีโอผ่านแพลตฟอร์มต่างๆ แทน

ปิดเสียงดูคลิปวิดีโอ เรื่องใหญ่ตรงไหน

การปิดเสียงชมคลิปวิดีโอในมุมมองของคนทั่วไปคงไม่ใช่เรื่องใหญ่ แต่สำหรับคนทำธุรกิจ แบรนด์ หรือคนทำคอนเทนต์ที่ต้องทำคลิปวิดีโอต่างๆ คงไม่ใช่เรื่องเล็กๆ อย่างแน่นอน เพราะในปัจจุบันเทรนด์ของการโฆษณาทั่วโลก ใช้เงินลงกับการโฆษณาผ่านช่องทางออนไลน์กันมากขึ้นเรื่อยๆ ซึ่งคลิปวิดีโอคือคอนเทนต์ยอดนิยมชนิดหนึ่ง

ที่ผ่านมาโทรศัพท์มือถือเป็นเหมือน “จอที่สอง” ในขณะรับชมทีวี เพื่อเช็คข้อมูลเพิ่มเติมเกี่ยวกับรายการทีวีที่กำลังรับชมอยู่

แต่ในปัจจุบันความสนใจต่อมือถือเพิ่มขึ้นจนกลายเป็น “จอที่หนึ่ง” แทนที่หน้าจอทีวีไปเป็นที่เรียบร้อยแล้ว จากผลสำรวจพบว่ากว่า 94% เล่นโทรศัพท์มือถือไปพร้อมๆ ในขณะดูทีวี และจะเปลี่ยนความสนใจมาอยู่ที่โทรศัพท์มือถือเมื่อทีวีอยู่ระหว่างโฆษณา

ปิดเสียงดูคลิป แต่ใช้การอ่านคำบรรยายแทน

ทางออกของการปิดเสียงดูคลิปวิดีโอของชาวเน็ตในยุคนี้คือการอ่านคำบรรยายแทน (Caption) ซึ่ง Sharethrough ได้ทำการศึกษาเพิ่มเติม ว่าการอ่านคำบรรยายจะทำให้ผู้ชมคลิปเข้าใจเนื้อหาในคลิปวิดีโอได้จริงๆ หรือไม่ ผลที่ได้พบว่าการอ่านคำบรรยายที่อยู่ในคลิปวิดีโอจะทำให้เข้าใจเนื้อหามากขึ้นถึง 56%

Sharethrough ให้คำแนะนำว่า นักการตลาด หรือคนทำคอนเทนต์ควรปรับตัวเข้ากับพฤติกรรมของคนที่เปลี่ยนไป ทั้งการรับชมคลิปวิดีโอแบบไม่เปิดเสียง แต่ใช้วิธีการอ่านคำบรรยายแทน รวมถึงการที่โทรศัพท์มือถือกลายเป็นหน้าจอหลักทดแทนจอทีวีด้วย โดยเฉพาะการคิดหาวิธีใส่คำโปรย และคำบรรยายที่น่าสนใจในคลิปวิดีโอ จะเป็นการช่วยทำให้ผู้ชมเข้าใจเนื้อหาได้มากขึ้น

ที่มา – Digiday

ติดตามข่าวสารจาก Brand Inside ได้จาก Facebook ของเรา