พบกับหนังสือ 11 เล่มที่ Barrack Obama อดีตประธานาธิบดีสหรัฐชวนให้ทุกคนต้องอ่าน

รู้หรือไม่? อดีตประธานาธิบดีหมาดๆ อย่าง Barack Obama ก็เป็นหนอนหนังสือเช่นกัน แล้วถ้าอยากเก่ง และวางตัวได้ดีแบบเขา ทำไมไม่ลองมาศึกษาผ่านหนังสือ 11 เล่มที่เขาแนะนำให้ลูกสาวเขาอ่านกันล่ะ

ภาพ pixabay.com

1.The Naked and the Dead โดย Norman Mailer

เล่มนี้ติดหนังสือนวนิยายภาษาอังกฤษยอดเยี่ยม 100 อันดับแรกของศตวรรษที่ 20 ดังนั้นคงไม่แปลกที่อดีตประธานาธิบดีจะแนะนำให้อ่าน เพราะมันอ้างอิงถึงเรื่องสงครามโลกครั้งที่ 2 แต่สร้างเหตุการณ์จำลองที่กองทหารอเมริกันต้องไปขับไล่ญี่ปุ่นที่หมู่เกาะสมมติ Anopopei และถ้าใครสนใจ หนังสือเล่มนี้ก็เคยทำเป็นภาพยนตร์ในชื่อเรื่องเดียวกันอีกด้วย

2.One Hundred Years of Solitude โดย Gabriel Garcia Marquez

ส่วนเล่มนี้จะเกี่ยวกับการใช้ชีวิตของครอบครัว Buendia โดยจะเล่าเรื่องของความคัดแย้งระหว่างการอยู่โดดเดี่ยว และการโหยหาความรัก ความเข้าใจ ซึ่งทั้งสองเรื่องสะท้อนถึงการเป็นอยู่ในชีวิตยุคสมัยปัจจุบันได้เป็นอย่างดี

**เล่มนี้มีแปลเป็นภาษาไทยชื่อเรื่อง หนึ่งร้อยปีแห่งความโดดเดี่ยว พิมพ์โดยสำนักพิมพ์สามัญชน**

3.The Golden Notebook โดย Doris Lessing

อยากสร้างแรงบันดาลใจเหรอ ลองเล่มนี้เลย เพราะเล่มนี้จะเป็นนวนิยายที่กล่าวถึงสาวชื่อ Anna ที่เป็นนักเขียนที่โด่งดัง และจดบันทึกอยู่ 4 เล่ม ประกอบด้วยเล่มสีดำที่เกี่ยวกับชาวแอฟริกัน, เล่มสีแดงที่เกี่ยวกับการเมือง, เล่มสีเหลืองที่เกี่ยวกับหญิงแกร่ง และเล่มสีฟ้าที่เป็นบันทึกส่วนตัวของเธอ จนกระทั่งเธอพบรักกับหนุ่มอเมริกัน เธอจึงเอาเนื้อหาทั้ง 4 เล่มมารวมกัน กลายเป็น Golden Notebook

**ไม่มั่นใจว่าสำนักพิมพ์กำมะหยี่แปลไทยเสร็จเรียบร้อยหรือไม่ เพราะเริ่มโครงการแปลตั้งแต่ปี 2556 แล้ว**

4.The Woman Warrior โดย Maxine Hong Kingston

เล่มนี้กล่าวถึงชีวิตของสาวเชื้อสายจีน-อเมริกัน ที่ดำรงชีวิตอยู่บนขนบธรรมเนียมจีน, ครอบครัวของเธอ และชีวิตในวัยเด็กที่คงปรับตัวเข้ากับวัฒนธรรมที่นั่นได้ลำบาก

5.The Underground Railroad โดย Colson Whitehead

ชีวิตคนผิวสีมันขมขื่นขนาดไหน เล่มนี้เล่าให้ฟังได้ดี เพราะจะเล่าเกี่ยวกับสาวชื่อ Cora ทาสในไร่ฝ้ายแห่งหนึ่งของรัฐจอร์เจีย ว่าต้องพบเจอเรื่องอะไรบ้าง และทำไมเธอถึงต้องหนีออกมา และหนีโดยทางรถไฟใต้ดินตามชื่อเรื่องอีกด้วย แต่ตอนจบจะเป็นอย่างไรต้องติดตามกัน

6.Gilead โดย Marilynne Robinson

เหตุการณ์หลังสงครามกลางเมืองช่วงศตวรรษที่ 20 เป็นอย่างไร เล่มนี้เล่าไว้โดยละเอียด ผ่านสายตาของคน 3 ยุคสมัย ทำให้มีความคิดต่างกันอย่างชัดเจน และความเป็นชนอเมริกันที่ปลูกฝังกันมานานจะหายไปหรือไม่ เล่มมีนี้คำตอบ

7.Three-Body Problem โดย Cixin Liu

ชอบนวนิยายแนววิทยาศาสตร์เหรอ เรื่องนี้เล่าได้สุดๆ ไปเลย เพราะเกริ่นถึงเรื่องการปฏิวัติทางวัฒนธรรมของจีน แต่ไม่ใช่แค่ล่มสลาย เพราะในเรื่องมีหน่วยทหารลับได้ลักลอบส่งสัญญาณติดต่อกับเอเลี่ยนนอกโลก เพื่อให้ทางนั้นเข้ามาบุกโลก โดยอาศัยจุดแตกหักของชาวเมือง

8.Gone Girl โดย Gillian Flynn

ใครเป็นสายภาพยนตร์ก็คงคุ้นเคยกับเรื่องนี้เป็นอย่างดี แต่ถ้าใครไม่เคยดู แนะนำให้อ่านเอาก็ได้ โดยเล่มนี้เป็นนวนิยายสืบสวนสอบสวน เล่าถึงสามีที่จู่ๆ วันหนึ่งภรรยาของเขาก็หายไป และเหมือนชายหนุ่มคนนั้นจะตกเป็นแพะรับบาป เพราะถูกเข้าใจว่าเป็นคนฆ่าภรรยาของเขาเอง แต่เรื่องจะจบลงอย่างไร ไปอ่านกันเองดีกว่า

**เล่มนี้มีแปลเป็นภาษาไทยชื่อเรื่อง เล่นซ่อนหาย พิมพ์โดยสำนักพิมพ์น้ำพุ**

9.Fates and Furies โดย Lauren Groff

เล่มนี้จะเล่าเรื่องชีวิตหลังการแต่งงาน ว่าจะต้องพบเจออะไรบ้าง และการจะหาพาร์ทเนอร์ที่คุยได้ทุกอย่างรู้เรื่อง รวมถึงผ่านพ้นปัญหาต่างๆ ไปด้วยกันมันยากขนาดไหน ที่สำคัญเล่มนี้ได้เล่าถึงวิธีแก้ปัญหา และเผยความลับเรื่องกลเม็ดต่างๆ ในการจัดการปัญหาหัวใจให้อยู่หมัด เพื่อชีวิตคู่ที่ยั่งยืน

10.Song of Solomon โดย Toni Morrison

เป็นเรื่องของคนผิวสีอีกเล่ม ที่อดีตประธานาธิบดีคนนี้เลือกมา เพราะมันเล่าถึงชายหนุ่มผิวสี Macon “Milkman” Dead III ที่ดำรงชีวิตในรัฐมิชิแกน ตั้งแต่เด็กจนถึงผู้ใหญ่ ที่สำคัญเล่มนี้ยังได้ถูกบรรจุให้เป็นหนังสือนวนิยายภาษาอังกฤษ 25 เล่มยอดเยี่ยม ประจำศตวรรษที่ 20 อีกด้วย

11.A Bend in the River โดย V.S. Naipaul

เล่มนี้จะเล่าถึงชาวอินเดียนคนหนึ่งที่เติบโตในเมืองเล็กๆ ในประเทศโลกที่สาม ตั้งแต่เด็กจนโต แต่เขาคนนี้ไม่ได้อยู่เฉยๆ สามารถปรับตัวการใช้ชีวิตบนโลกที่ไม่คุ้นเคยได้เป็นอย่างดี

อ้างอิง // 11 books President Obama thinks everyone should read

ติดตามข่าวสารจาก Brand Inside ได้จาก Facebook ของเรา