iPhone ย้ายฐานการผลิตแล้วไง ‘เจิ้งโจว’ จากจีนไม่ง้อ หันไปผลิต EV แทน รวยได้เหมือนกัน

ถ้าคุณยังมองว่าจีนขึ้นชื่อเรื่องแหล่งผลิต iPhone อยู่ล่ะก็ อาจต้องคิดใหม่ เพราะตอนนี้จีนกำลังจะกลายเป็นประเทศแห่งรถยนต์ไฟฟ้าแล้ว

ev

ในอดีต ‘เจิ้งโจว’ เมืองหลวง ‘มณฑลเหอหนาน’ คือที่มาของ iPhone เกือบทั่วโลก แต่เนื่องจากจีนกำลังมุ่งหน้าผลิตรถยนต์ไฟฟ้า และ Apple ก็ได้ย้ายฐานการประกอบชิ้นส่วนไปยังอินเดีย จึงทำให้ iPhone ของพวกเราอาจไม่ขึ้นชื่อว่า ‘Assembled in China’ อีกต่อไป

iPhone ย้ายฐาน ทำเศรษฐกิจเจิ้งโจวพัง

นับตั้งแต่ปี 2010 ชะตากรรมของเศรษฐกิจเจิ้งโจวจะดีจะร้ายก็ขึ้นอยู่กับกิจการการประกอบ iPhone ล้วนๆ เนื่องจาก ‘Foxconn’ บริษัทดูแลการประกอบ iPhone กว่าครึ่งโลกตั้งโรงงานขนาดใหญ่อยู่ที่นี่

แต่ในปี 2023 เจิ้งโจวประกอบ iPhone ลดลงจากปี 2017 ราวๆ ครึ่งหนึ่ง เหลือเพียงแค่ 140 ล้านเครื่องเท่านั้น เพราะ Apple อยากเลี่ยงปัญหาความขัดแย้งระหว่างสหรัฐอเมริกาและจีน จึงย้ายโรงงานประกอบ iPhone ไปอินเดียแทน

อีกหนึ่งสาเหตุที่ทำให้การประกอบ iPhone ในจีดลดน้อยลง คือยอดขาย iPhone ที่ลดลงอย่างต่อเนื่อง โดยมีรายงานว่า ยอดการสั่งผลิต iPhone 16 น้อยกว่าคาดการณ์ถึง 10 ล้านเครื่อง

พอความนิยมลดลง จากที่เคยมีพนักงานราวๆ 350,000 คน ก็ถูกไล่ออกจนเหลือไม่กี่หมื่นคน 

นอกจากนั้น คนที่ได้ทำงานต่อหลายคนยังถูกลดชั่วโมงการทำงานลง คนในพื้นที่เล่าว่า เมื่อก่อนเขาเคยทำงานประกอบ iPhone ถึงสามกะ แต่ตอนนี้ถูกลดเหลือแค่ 2 กะแล้ว

เมื่อพนักงานจำนวนมากหายไป ร้านอาหารในละแวกก็พากันเจ๊งไปกว่า 60 ร้าน

สถานการณ์นี้สะท้อนให้เห็นเลยว่า งานประกอบ iPhone เป็นส่วนสำคัญในการเติบโตของเศรษฐกิจเจิ้งโจว รวมถึงมณฑลหูหนานมากแค่ไหน

ดังนั้น มันจึงไม่แปลกถ้าทางจีนจะเลิกง้อ iPhone แล้วพยายามผลักดันอุตสาหกรรมอื่นอย่างเช่น ‘รถยนต์ไฟฟ้า’ ในเจิ้งโจว เพื่อฟื้นเศรษฐกิจกลับคืนมา

จีนหวังดัน ‘เจิ้งโจว’ เป็นเมืองแห่งการผลิตรถยนต์ไฟฟ้า

รถยนต์ไฟฟ้า

“จะทำให้เจิ้งโจวเป็นแหล่งผลิตรถยนต์ไฟฟ้าที่ใหญ่ที่สุดในประเทศให้ได้” เลขาธิการคณะกรรมการเทศบาลเจิ้งโจวแห่งพรรคคอมมิวนิสต์ ‘An Wei’ เคยประกาศเอาไว้ในปี 2022 

ทำให้ตอนนี้ ‘เจิ้งโจว’ ได้รับการสนับสนุนนโยบายด้านการวิจัยพร้อมเงินอุดหนุน เพื่อช่วยพัฒนาเทคโนโลยีในการผลิตแบตเตอรี เครื่องยนต์ และระบบขับขี่อัตโนมัติ

ในช่วงเดือนตุลาคมที่ผ่านมา โรงงาน ‘BYD’ ในเจิ้งโจวคึกคักมาก เพราะทางบริษัทอยู่ระหว่างเร่งผลิตรถยนต์ไฟฟ้าออกมาให้ทันกับความต้องการ และบริษัทก็จ้างพนักงานใหม่เพิ่มอย่างรวดเร็วด้วย

โรงงาน BYD แห่งนี้สามารถผลิตรถยนต์ BYD ได้มากถึง 200,000 คันในปี 2023 แม้ว่าจะเพิ่มเปิดทำการในเดือนเมษายนปีที่แล้ว โดย BYD ตั้งเป้าจะผลิตรถยนต์เพิ่มอีก 2 เท่าในปีหน้า

ด้านนายกเทศบาลเจิ้งโจวตั้งใจว่า ในปี 2025 เจิ้งโจวจะต้องผลิตรถยนต์ไฟฟ้าออกมาเกิน 1.5 ล้านคัน ซึ่งคงไม่ยากเกินความสามารถของเจิ้งโจวเท่าไรนัก เพราะแค่โรงงาน BYD โรงงานเดียวก็ช่วยเพิ่มยอดการผลิตรถยนต์ไฟฟ้าได้ 3 เท่าแล้ว เมื่อเทียบกับปีก่อน

และไม่ใช่แค่ BYD ที่เข้ามาตั้งฐานการผลิตในเจิ้งโจว แต่ ‘SAIC Motor’ ก็ลงเงินไปกว่า 9.5 พันล้านบาท เพื่อสร้างโรงงานผลิตแบตเตอรี และ ‘Yutong Bus’ ก็กำลังตั้งฐานในการผลิตรถเมล์ไฟฟ้าเหมือนกัน

ท้ายสุด แผนการฟื้นฟูเศรษฐกิจมณฑลเหอหนานด้วยรถยนต์ไฟฟ้าจะสำเร็จหรือไม่ และเจิ้งโจวจะกลายเป็นกำลังผลิตสำคัญของอุตสาหกรรมนี้ได้หรือเปล่า คงต้องติดตามกันต่อไป

ที่มา: Nikkei Asia

ติดตามข่าวสารจาก Brand Inside ได้จาก Facebook ของเรา