เปิดตำนานแบรนด์จีน ผู้ผลิตกรรไกรมาแล้วกว่า 400 ปี อยู่คู่คนจีนมาทุกยุคทุกสมัย

หากพูดถึงประวัติศาสตร์ประเทศจีนแล้ว ราชวงศ์ต่างๆ หมุนเวียนผลัดเปลี่ยนกันขึ้นมาคุมอำนาจ การปฏิรูปมีมาทุกยุคสมัย ส่วนเศรษฐกิจก็เติบโตอย่างต่อเนื่องเหมือนที่เราเห็นกันได้ตามข่าวในปัจจุบัน 

แต่ท่ามกลางความเปลี่ยนแปลงอย่างไม่ขาดสาย ยังมีธุรกิจหนึ่งที่อยู่คู่ชาวจีนมานานกว่า 393 ปี นั่นคือ “ธุรกิจผลิตกรรไกรและมีด” แบรนด์ Zhang Xiaoquan

ผู้ผลิตที่เน้นทั้งสวยงามและความคงทน เต็มไปด้วยเสน่ห์แต่แฝงอยู่ในความธรรมดา จนชาวจีนต้องยอมจ่ายเงินเพื่อซื้อกรรไกรมาเป็นของฝากให้กันและกัน

Zhang Xiaoquan
Zhang Xiaoquan แบรนด์กรรไกรอายุ 393 ปี

เปิดตำนานแบรนด์ Zhang Xiaoquan

แบรนด์ Zhang Xiaoquan ถือกำเนิดขึ้นเมื่อปี 1628 โดย Zhang Jiasi โดยกรรไกรของแบรนด์นี้ขึ้นชื่อว่ามี ‘คุณภาพ’ มากมาตั้งแต่สมัยนั้น

ครั้งหนึ่งแบรนด์นี้เคยได้รับรางวัลจาก China National Goods Exhibition และในปัจจุบันแบรนด์นี้ก็ได้รับการขนานนามว่า เป็นหนึ่งในมรดกตกทอดทางวัฒนธรรมของประเทศจีน

ราวศตวรรษที่ 17 ย้อนกลับไปในสมัยนั้น Zhang Jiasi บุคคลที่อยู่เบื้องหลังความสำเร็จนี้ เคล็ดลับมาจากการที่เขาได้ค้นพบวิธีผลิตกรรไกรและมีดให้ออกมาสวยงามและคงทน โดยใช้หลักเดียวกับ “การผลิตดาบสมัยโบราณ” ซึ่งในสมัยนั้นลูกค้าหลักคือแม่บ้านที่ทำอาหารเป็นประจำ

ต่อมาในปี 1663 Zhang Xiaoquan ซึ่งเป็นลูกชายของ Zhang Jiasi ก็ได้สืบทอดธุรกิจและก่อตั้งบริษัทผลิตกรรไกรและมีดชื่อว่า Zhang Xiaoquan ขึ้นมานับตั้งแต่นั้น

ในปัจจุบัน Ding Chenghong ผู้จัดการทั่วไปของบริษัทนี้เล่าว่า เขาพยายามสืบทอดประวัติอันยาวนานของธุรกิจ โดยยึดคติประจำใจซึ่งส่งต่อมาจากรุ่นสู่รุ่นคือ “เหล็กกล้าที่ดีและงานฝีมือคุณภาพเลิศ” เพราะแบรนด์ Zhang Xiaoquan เลือกใช้เหล็กคุณภาพดีซึ่งมีราคาแพงกว่าท้องตลาด เช่น แม้เหล็กคุณภาพทั่วไปจะขายอยู่ที่ราคา 7,000 ถึง 8,000 หยวนต่อตัน แต่ทางแบรนด์ก็จะเลือกใช้เหล็กคุณภาพสูงซึ่งขายอยู่ที่ราคา 11,000 ถึง 12,000 หยวนต่อตัน

นอกจากนั้น ปรัชญาในการดำเนินธุรกิจของทางแบรนด์ ยังเชื่อว่าตัวเองกำลังผลิตงานฝีมือชิ้นงามให้ลูกค้าได้ชื่นชม ไม่ใช่แค่ผลิตกรรไกรหรือมีดธรรมดาเพียงอย่างเดียว

ด้วยความใส่ใจนี้ในปี 1990 แบรนด์ Zhang Xiaoquan จึงมีพนักงาน 2,500 คน และสามารถขายกรรไกรรวมถึงมีดได้มากถึง 20 ล้านเล่มต่อปี

เมื่อการทำธุรกิจไม่ใช่เรื่องง่าย

อย่างไรก็ตาม ในช่วงปี 2000 รัฐบาลได้ขายหุ้น 75% ของ Zhang Xiaoquan ออกไป ทำให้พนักงานของบริษัทหายไปกว่า 1,000 คน และยอดการผลิตกรรไกรรวมถึงมีดก็ลดลงมาเหลือ 10 ล้านเล่มต่อปี

ทางบริษัทจึงต้องเปลี่ยนกลยุทธ์ครั้งใหญ่ จากเดิมที่โฟกัสแค่การผลิตกรรไกรและมีด เพราะเชื่อในคำเปรียบเปรยว่าของที่ดีจะขายตัวเองได้ ทางแบรนด์ก็หันมาใส่ใจกับการสร้างแบรนด์มากขึ้น

ความท้าทายครั้งใหม่คือการส่งออกสินค้าไปต่างประเทศ

ทางแบรนด์เจอความท้าทายครั้งใหม่ นั่นคือเรื่องการส่งออกสินค้าไปต่างประเทศ

โดยปกติแล้ว กรรไกรที่ผลิตให้กับคนจีนจะมีลักษณะแตกต่างจากกรรไกรที่คนฝั่งประเทศตะวันตกนิยมใช้กัน เช่น

  • กรรไกรที่ชาวยุโรปส่วนใหญ่ใช้จะมีใบมีดยาวและมีด้ามจับสั้นกว่าของจีน เนื่องจากพวกเขาเน้นใช้กรรไกรตัดกระดาษเป็นหลัก
  • ในทางกลับกันที่จีน จะใช้กรรไกรในหลายกิจกรรม ทั้งตัดกระดาษ ตัดวัตถุดิบสำหรับปรุงอาหาร ตัดผ้า รวมถึงซ่อมรองเท้า

ทางบริษัทจึงวางแผนนำเครื่องจักรของเยอรมันมาใช้เพิ่มเติมเพื่อผลิตกรรไกรและมีดที่ตรงกับลักษณะการใช้งานของคนในประเทศฝั่งตะวันตกมากขึ้น

ทั้งนี้ อุปสรรคของธุรกิจ Zhang Xiaoquan ยังไม่หมดเพียงแค่นั้น เพราะเมื่อแบรนด์มีชื่อเสียงก็มักมีสินค้าลอกเลียนแบบถูกผลิตขึ้นมา ทำให้ในช่วงหนึ่งทางแบรนด์ต้องต่อสู้กับข้อพิพาทเรื่องเครื่องหมายการค้า

กรรไกร Zhang Xiaoquan
กรรไกรแบรนด์ Zhang Xiaoquan รุ่นที่คนมักซื้อเป็นของฝาก Photo by https://www.instagram.com/p/BkHwolbnqJe/

เมื่อธุรกิจผ่านร้อนผ่านหนาวจนพัฒนามาเป็นแบรนด์ระดับโลก

ปัจจุบันแบรนด์ Zhang Xiaoquan ผ่านพ้นวิกฤตต่างๆ มาได้ และกลายเป็นแบรนด์ที่คนทั่วโลกรู้จักในฐานะผู้เชี่ยวชาญด้านการผลิตมีดและกรรไกร เพราะทางแบรนด์ผลิตกรรไกรครอบคลุมกว่า 120 ชนิด ทั้งกรรไกรตัดผ้า กรรไกรทำสวน กรรไกรสำนักงาน กรรไกรทำครัว เป็นต้น

นอกจากนั้น หากมีโอกาสเดินทางไปพิพิธภัณฑ์ซึ่งบอกเล่าประวัติศาสตร์เกี่ยวกับดาบและกรรไกรของจีน คุณจะพบว่าที่นั่นได้บันทึกเรื่องราวของ Zhang Xiaoquan ไว้มากมาย เพราะแบรนด์นี้มีประวัติยาวนานอยู่คู่กับชาวจีนมาหลายยุคสมัย

สรุปเคล็ดลับความสำเร็จของ Zhang Xiaoquan

1. Zhang Xiaoquan เชื่อว่าตัวเองเป็นแบรนด์ที่ผลิตงานศิลปะชิ้นงามให้ลูกค้าได้ใช้ ไม่ใช่แค่ผลิตกรรไกรหรือมีด ธรรมดาเพียงอย่างเดียว 

2. ใส่ใจในคุณภาพของวัตถุดิบที่นำมาใช้ผลิตสินค้า แม้ว่าตัววัตถุดิบนั้นจะมีราคาสูงกว่าวัตถุดิบทั่วไปตามท้องตลาดก็ตาม

3. ต่อยอดสิ่งที่เชี่ยวชาญออกมาเป็นหลายๆ ผลิตภัณฑ์ เช่นเดียวกับที่ทางแบรนด์พัฒนากรรไกรธรรมดามาเป็นกรรไกรที่ใช้ในงานต่างๆ มากกว่า 120 ชนิด

4. มองหาช่องทางพัฒนาธุรกิจเสมอ เหมือนตอนที่ Zhang Xiaoquan อยากขยายตลาดไปที่ยุโรป ได้ลงทุนซื้อเครื่องจักรของเยอรมันเข้ามา 

ที่มา : hisour, bbc, newscgtn, zhangxiaoquan

ผู้อ่านที่สนใจประวัติของแบรนด์อายุหลายร้อยปี ติดตามได้จากบทความด้านล่างนี้

ติดตามข่าวสารจาก Brand Inside ได้จาก Facebook ของเรา