เซ็น คอร์ปอเรชั่น กรุ๊ป หรือ ZEN ชูกลยุทธ์ “เขียง” ก้าวสู่ปีที่ 3 แฟรนไชส์หลากหลายและเข้าถึงทุกพื้นที่ คาดสิ้นปีขยายเพิ่มเป็น 140 สาขา จากปัจจุบัน 83 สาขา ทั้งกรุงเทพ และต่างจังหวัด ให้บริการเดลิเวอรี่ รับตลาดฟู้ดเดลิเวอรี่มีมูลค่า 74,000 ล้านบาท คาดการณ์ยอดขายเติบโต 40%
บุญยง ตันสกุล ประธานเจ้าหน้าที่บริหาร บริษัท เซ็น คอร์ปอเรชั่น กรุ๊ป จำกัด (มหาชน) หรือ ZEN ผู้ประกอบธุรกิจบริการอาหาร (Food Services) เปิดเผยว่า การก้าวเข้าสู่ปีที่ 3 สำหรับ ‘เขียง‘ แบรนด์ร้านอาหารสไตล์สตรีทฟู้ด ภายใต้ร้านอาหารในเครือเซ็น กรุ๊ป มีการเติบโตต่อเนื่อง เพราะการปรับกลยุทธ์ เน้นเดลิเวอรี่และแพลตฟอร์มออนไลน์ และใช้โมเดลแฟรนไชส์ในการขยายสาขา
ในปี 2564 เขียงมีการขยายสาขาที่เติบโตอย่างรวดเร็ว คาดว่าถึงสิ้นปีนี้จะมีจำนวนทั้งสิ้น 140 สาขา จากปัจจุบันที่มี 83 สาขา แบ่งเป็น การลงทุนเอง 20 สาขา และแฟรนไชส์ 63 สาขา เน้นเข้าถึงได้ทุกพื้นที่ ทั้งโมเดลรถเข็น, ตลาด, ปั้มน้ำมัน, ตึกแถว และอาคารสำนักงาน รวมถึงการวางงบลงทุนที่เหมาะสมในแต่ละโมเดล โดยเป็นค่าธรรมเนียมแฟรนไชส์ (แรกเข้า) ระยะ 6 ปี 600,000 บาท ค่ารอยัลตี้ฟีและมาร์เก็ตติ้งฟี 15,000 บาทต่อเดือน และงบลงทุนก่อสร้าง 1-2 ล้านบาท ซึ่งสามารถถึงจุดคุ้มทุนภายในระยะเวลา 2-3 ปี จึงทำให้แฟรนไชส์เขียงได้รับความสนใจจากผู้ที่สนใจเข้ามาลงทุนจำนวนมาก
นอกจากนี้ บริษัทฯ ปรับกลยุทธ์การตลาดการบริการเดลิเวอรี่ แพลตฟอร์มออนไลน์ พัฒนาแอปพลิเคชั่น การนำเสนอเมนูอาหารจานเดียวที่หลากหลาย ห้บริการทั้งเดลิเวอรี่และซื้อกลับบ้าน (Take Home) รับกับตลาดฟู้ดเดลิเวอรี่ในปีนี้คาดว่ามีมูลค่า 74,000 ล้านบาท ซึ่งมีอัตราเติบโตอย่างรวดเร็วจากเมื่อปีที่ผ่านมามีมูลค่า 68,000 ล้านบาท เพราะพฤติกรรมผู้บริโภคที่เปลี่ยนแปลงหันมาสั่งอาหารรับประทานแทนการนั่งกินที่ร้าน ส่งผลให้รายได้เดลิเวอรี่ของเขียง มีสัดส่วนเพิ่มขึ้นจาก 60% เป็น 70% ส่วนรูปแบบนั่งกินในร้านจาก 40% เป็น 30%
บุญยง คาดว่ารายได้เดลิเวอรี่จะมีสัดส่วนเพิ่มเป็น 80% และรูปแบบนั่งกินในร้านมีสัดส่วน 20% อีกทั้งเตรียมเปิดเมนูอาหารไทย ที่มีสมุนไพรมีสรรพคุณทางยา โดยยอดขายเขียงเติบโตจากยอดเดลิเวอรี่เพิ่มขึ้นและยังมีผู้สนใจลงทุนเพิ่มขึ้นต่อเนื่อง เพราะเป็นโมเดลธุรกิจที่ยังคงสามารถทำรายได้และกำไรได้ในสถานการณ์เช่นนี้ และวางเป้าหมายรายได้สิ้นปีของเขียงทะลุ 300 ล้านบาท เติบโต 40%
ติดตามข่าวสารจาก Brand Inside ได้จาก Facebook ของเรา