ตลาดยิ่งเจริญ ตลาดค้าปลีกที่ใหญ่ที่สุดในกรุงเทพ จับมือบริษัทและสถาบันการเงิน เดินหน้าผลักดันสังคมไร้เงินสด สร้างการค้ารูปแบบใหม่ ลดเชื้อโรค ไม่เสี่ยงโกง รองรับกลุ่มลูกค้าใหม่
ตลาดยิ่งเจริญเตรียมเดินหน้านโยบาย Y Together พัฒนาตลาดและสร้างช่องทางใหม่ๆ ในการซื้อขายสินค้าและบริการ รณรงค์ให้เกิดสังคมไร้เงินสดภายในตลาด ลดการแพร่เชื้อโควิด- 19 ผ่านการทำธุรกรรมภายใต้มาตรการยิ่งเจริญ ป้องกัน ไม่แพร่ พิชิตไวรัส Covid-19
ในปี 2564 ตลาดยิ่งเจริญจะเดินหน้าขับเคลื่อนแคมเปญ “Cashless society : สังคมไร้เงินสด” ร่วมกับธนาคารกรุงไทย ให้ผู้ซื้อและผู้ขายสามารถทำธุรกรรมทางการเงินได้ทางแอปพลิเคชันเป๋าตังค์และการแสกน QR Code นอกจากยังร่วมมือกับธนาคารไทยเครดิตและบริษัท ทรูคอร์ปอเรชั่น เพิ่มช่องทางการใช้จ่ายผ่านไมโครเพย์ อี-วอลเล็ท และ ทรูวอลเล็ทอีกด้วย
ณฤมล ธรรมวัฒนะ ประธานกรรมการบริหารตลาดยิ่งเจริญ ระบุว่า นโยบาย “Y Together” มีองค์ประกอบ 4 มิติสำคัญ ได้แก่ การพัฒนาองค์กรรอบด้าน การศึกษา สิ่งแวดล้อม และการแบ่งปัน เพื่อการพัฒนาตลาดยิ่งเจริญให้เกิดการยอมรับจากทั้งผู้ค้า องค์กรธุรกิจ ชุมชน และประชาชนทั่วไป ให้เป็นตลาดสดมาตรฐานของประเทศไทย โดยเน้นการพัฒนาตลาดสู่การเป็น Green Market โดยที่ผ่านมาจากการดำเนินนโยบาย “Y Together” มีผลตอบรับจากสังคม ผู้ค้า และชุมชนเป็นไปในทิศทางที่ดีตามวิสัยทัศน์ “ศูนย์กลางการค้าต้นแบบ ยกระดับมาตรฐานสากล สุดยอดแหล่งอาหารสุขภาวะสังคม”
ทั้งนี้ทางตลาดเชื่อว่าแคมเปญสังคมไร้เงินสดนี้จะช่วยให้เกิดประโยชน์ คือ ไม่เสี่ยงรับเชื้อโรค ไม่เจอเงินปลอม ไม่กังวลเงินทอน ไม่เสี่ยงเงินหาย ไม่ถูกโจรกรรม และไม่ถูกโกง รวมถึงยังเป็นการปรับตัวเพื่อรองรับกลุ่มลูกค้าที่มีพฤติกรรมการซื้อของที่เปลี่ยนไปอย่าง Gen X และ Gen Y ที่นิยมทำธุรกรรมทางการเงินแบบออนไลน์กันมากขึ้น
กรณีดังกล่าว ยังสอดคล้องกับนโยบาย คนละครึ่ง ทำให้พ่อค้าแม่ค้าทั้งตลาดปรับตัวรับชำระเงินผ่านทาง QR Code เพิ่มความสะดวกให้กับผู้บริโภค
ติดตามข่าวสารจาก Brand Inside ได้จาก Facebook ของเรา