ก่อนหน้านี้ YG Entertainment เป็นค่ายเพลงดาวรุ่งที่เติบโตอย่างรวดเร็วด้วยความนิยมของ Bigbang แต่ปัจจุบันมันไม่ใช่อย่างนั้นแล้ว เพราะทางค่ายเจอเรื่องอื้อฉาวมากมายจนผลกำไรหดหาย
ความเชื่อมั่นนักลงทุนที่ยังไม่ฟื้น
หากดูตามกราฟราคาหุ้นของ YG Entertainment จะเห็นว่าตั้งแต่ต้นปี 2562 ราคาหุ้นนั้นลดลงมาอย่างต่อเนื่อง หนักสุดๆ คือมีช่วงหนึ่งที่ราคาหุ้นนั้นหายไปเกือบเท่าตัวเมื่อเทียบกับช่วงที่ราคาสูงสุด แสดงให้เห็นว่าความเชื่อมั่นของนักลงทุนกับบริษัทนั้นลดลงอย่างชัดเจน
เหตุการณ์นี้จะเกิดขึ้นไม่ได้ถ้าช่วงต้นปี 2562 มีการเปิดโปงกรณีคลับ Burning Sun ที่มีศิลปิน Bigbang อย่าง Seungri มีส่วนเกี่ยวข้อง จากนั้น YG Entertainment ก็เจอปัญหาศิลปินอย่างต่อเนื่อง โดยเฉพาะการมีส่วนเกี่ยวข้องกับยาเสพติด
เมื่อเรื่องทั้งหมดนี้ทำให้ผลลัพธ์ทางธุรกิจออกมาไม่ดี YG Entertainment ก็ต้องจ่ายค่าผิดสัญญากว่า 67,000 ล้านวอน (ราว 1,700 ล้านบาท) ให้กับ LVMH กลุ่มผู้ทำธุรกิจสินค้าแบรนด์หรู และเป็นหนึ่งในผู้ลงทุนให้กับ YG มาตั้งแต่ปี 2557 แถมยังต้องจ่ายอีก 6,000 ล้านวอน (ราว 150 ล้านบาท) เพราะถูกจับได้ว่าเลี่ยงภาษีด้วย
ศิลปินที่ปล่อยออกมาก็ไม่เปรี้ยง
ขณะเดียวกันด้านผลงานของศิลปินในค่าย YG Entertainment ก็ไม่ได้มีผลงานที่ดีนัก เพราะไม่สามารถยึดหัวหาดของชาร์ทเพลงต่างๆ ในประเทศได้เลย ไม่ว่าจะเป็น Sechskies Eun Jiwon, Kim Jin Woo รวมถึง VIINI และตัว AKMU ที่กำลังจะ Comeback ก็ไม่มีใครรู้ว่าจะยึดตำแหน่งสูงๆ ในชาร์ทได้หรือไม่
มีเพียง Blackpink, WINNER และ MINO ที่สามารถพาเพลงติด 10 อันดับแรกชาร์ทประจำเดือนของ Melon เท่านั้น อย่างในเดือนส.ค. ก็ไม่มีศิลปินของ YG ติดชาร์ทประจำเดือนของ Melon ได้เลย รวมถึงเรื่องอื้อฉาวต่างๆ ก็ส่งผลให้ศิลปินของค่ายออกผลงานได้ช้าด้วย
ในทางกลับกันการบุกตลาดโลกของ YG Entertainment ที่ก่อนหน้านี้ทำรายได้อย่างมาก โดยเฉพาะการไปเจาะตลาดญี่ปุ่น ปัจจุบัน Blackpink ก็ทำเรื่องนี้ได้ดี สังเกตุจากการไปบุกตลาดสหรัฐอเมริกาที่ได้ไปเล่นทั้งงาน Coachella รวมถึงทัวร์คอนเสิร์ตรอบโลก In Your Area ที่ได้ผลตอบรับดีเช่นกัน
อนาคตที่มืดมน เพราะตัวพ่อลาวงการ
การจะกลับมาเกิดใหม่ของ YG Entertainment นั้นยังไม่มีใครมองเห็น เพราะ Yang Hyun Suk โปรดิวเซอร์ผู้ปลุกปั้นศิลปินตั้งแต่เริ่มต้นถึงมีผลงานเพลงนั้นประกาศลาออกจากบริษัทเพื่อแสดงความรับผิดชอบ ดังนั้นเมื่อไม่มีเขา และศิลปินที่มีอยู่ก็ไม่สำเร็จดังหวังเสียที มันก็ไม่ง่ายเลยที่ YG จะกลับมายิ่งใหญ่อีกครั้ง
สำหรับรายได้ของ YG Entertainment ในไตรมาส 2 ปี 2562 อยู่ที่ 78,000 ล้านวอน (ราว 2,000 ล้านบาท) ขาดทุน 6,000 ล้านวอน (ราว 150 ล้านบาท) ถือเป็นไตรมาสที่ 3 แล้วที่ YG มีกำไรลดลงติดต่อกัน แต่ก็ไม่ใช่แค่ YG ที่มีปัญหาในอุตสาหกรรม K-Pop
เพราะไตรมาส 2 ปี 2562 ของ JYP Entertainment ก็มีรายได้ 39,000 ล้านวอน (ราว 1,000 ล้านบาท) กำไร 6,800 ล้านวอน (ราว 170 ล้านบาท) แทบไม่ต่างจากไตรมาสก่อน ส่วน SM Entertainment ทำรายได้ 1.59 แสนล้านวอน (ราว 4,000 ล้านบาท) กำไร 470 ล้านวอน (ราว 12 ล้านบาท) ไม่แตกต่างกับไตรมาสก่อนเช่นกัน
สรุป
ศิลปินที่โด่งดังของ YG Entertainment ล้วนมี Yang Hyun Suk เข้ามารับผิดชอบในทุกขั้นตอน ดังนั้นพอไม่มีเขา ก็ไม่แปลกที่ผลงานเพลงของ YG จะไม่เหมือนเดิม ยิ่งธุรกิจอื่นๆ ที่ลงทุนเช่นเครื่องสำอาง หรืออาหาร ก็ไม่ได้ช่วยรายได้ฝั่งศิลปินที่ลดลงอย่างต่อเนื่องได้ ดังนั้นคงต้องติดตามอนาคตของ YG กันต่อไป
ติดตามข่าวสารจาก Brand Inside ได้จาก Facebook ของเรา