ยามาฮ่าเป็นแบรนด์ผู้นำด้านรถจักรยานยนต์ซึ่งเรียกได้ว่าเมื่อพูดถึงรถจักรยานยนต์หรือมอเตอร์ไซค์ คนไทยจะคิดถึงแบรนด์ยามาฮ่าเป็นอันดับแรกๆ ในฐานะผู้นำในการทำการตลาดเชิงรุกอย่างต่อเนื่อง นับแต่การตลาดยุคมิวสิค มาร์เก็ตติ้ง, สปอร์ต มาร์เก็ตติ้ง, ไลฟ์สไตล์ มาร์เก็ตติ้ง จนปัจจุบันมาเป็นยุคดิจิทัล มาร์เก็ตติ้ง ซึ่งมีความท้าทายมากขึ้นในการทำการตลาดและสร้างแบรนด์ให้โดนใจพฤติกรรมผู้บริโภคที่หันไปเสพข้อมูลต่างๆ ทางออนไลน์
พฤติกรรมของลูกค้าในโลกดิจิทัลนั้นเริ่มก่อตัวเป็นสังคมใหญ่ และมีผลต่อการสร้างแบรนด์และยอดขายอย่างปฏิเสธไม่ได้ “ยามาฮ่า” คว้าจังหวะนี้ปรับตัวอย่างรวดเร็ว สร้างคอนเทนต์ตอบโจทย์ลูกค้าอย่างตรงใจ จนทำให้คว้ารางวัลใหญ่ด้านสื่อออนไลน์มาอย่างต่อเนื่องหลายปี ล่าสุดปีนี้ได้รางวัลใหญ่มาอีก 4 รางวัลจากเวทีสากลและในประเทศ ทั้งเว็บไซต์และโซเชียลเน็ตเวิร์ค
เว็บไซต์ยามาฮ่า www.yamaha-motor.co.th คว้ารางวัลเว็บไซต์ยอดเยี่ยมในกลุ่มธุรกิจยานยนต์ จาก 2 สถาบันชั้นนำในสหรัฐอเมริกาที่ได้รับความเชื่อถือระดับนานาชาติที่ ได้แก่ รางวัล Best Automobile Website จาก งาน WEB AWARD 2018
และ รางวัล Award of distinction ในหมวดของ Websites General Automotive จากการประกวด Communicator Awards 2018
ขณะที่แคมเปญรถจักรยานยนต์ยามาฮ่า คิวบิกซ์ ได้รับ Award of Distinction ในหมวดของ Online Advertising – Microsite จากงาน COMMUNICATOR AWARDS 2018
อีกหนึ่งรางวัลฝั่งเมืองไทยสื่อโซเชียลของยามาฮ่า แอคเคาทน์ Yamaha Society Thailand ได้รางวัล Thailand’s Most Social Power Brand 2019 หมวดมอเตอร์ไซค์
ซึ่งเป็นการคัดเลือกบริษัทที่มีความโดดเด่นในโลกออนไลน์ในแต่ละหมวดอุตสาหกรรมซึ่งครอบคลุม Platform ทั้ง 4 ช่องทางหลักอย่าง Facebook, YouTube, Twitter และ Instagram” ซึ่งจัดทำโดย WISESIGHT บริษัท ไวซ์ไซท์ (ประเทศไทย) จำกัด ซึ่งเป็นผู้บุกเบิกเทคโนโลยีฟังเสียงผู้บริโภคบนสื่อออนไลน์และผู้เชี่ยวชาญการวิเคราะห์ข้อมูลโซเชียลที่วัดผลจากกลุ่มเป้าหมายจริง โดยดูจากเกณฑ์ประเมินทั้งหมด 6 ด้าน ได้แก่
- Fan วัดปริมาณการเข้าถึงกลุ่มเป้าหมายและผู้ติดตาม
- Fan Growth วัดประสิทธิภาพการเพิ่มขึ้นของจำนวนกลุ่มเป้าหมาย
- Interaction วัดประสิทธิภาพหรือความสนใจต่อเนื้อหา
- Sharing วัดระดับการกระจายเนื้อหาผ่านปริมาณการแชร์บนโซเชียลมีเดีย
- Sentiment วัดความรู้สึกและความนึกคิดที่ลูกค้ามีต่อแบรนด์ ผ่านช่องทางโซเชี่ยลมีเดียของแบรนด์ Voice วัดค่าคนที่พูดถึงแบรนด์
คำถามคือ อะไรเป็นเบื้องหลังความสำเร็จของ YAMAHA ที่ ทำให้ได้รางวัลการตลาดออนไลน์ในทุกแพลทฟอร์มทั้งเว็บไซต์และโซเชียลเน็ตเวิร์ค
Brand Inside มีโอกาสได้สัมภาษณ์ คุณสรวงสุดา มนัสบุญเพิ่มพูล ผู้จัดการทั่วไปอาวุโสฝ่ายสื่อสารการตลาดกลุ่มรถออโตเมติก และตราสินค้า บริหารลูกค้าสัมพันธ์ ประชาสัมพันธ์ และสื่อดิจิทัล บริษัท ไทยยามาฮ่ามอเตอร์ จำกัด
ชวนอ่านรายละเอียดในบทความชิ้นนี้
อะไรคือเบื้องหลังความสำเร็จของ YAMAHA ในครั้งนี้?
สำหรับ YAMAHA ไม่ว่าจะทำอะไร เรามีปรัชญาเบื้องหลังอยู่เสมอคือ “คันโด”
ปรัชญาคันโดคืออะไร?
มันคือ “การสร้างความพึงพอใจให้เหนือความคาดหวังของลูกค้า” ซึ่งประกอบด้วย Innovation (นวัตกรรม), Emotion (อารมณ์ความรู้สึก), Confidence (ความมั่นใจ), Excitement (ความดึงดูดใจ), และสุดท้ายคือ Ties (ความผูกพัน)
แต่ทั้งนี้ ถ้าถามว่า YAMAHA จะสร้างความพึงพอใจแบบไหน สำหรับเรา เราต้องการทำให้ลูกค้ารู้สึก “เร้าใจ” เพราะฉะนั้นสโลแกนของเราคือ “Revs your Heart” คือการเร่งชีวิตให้เร้าใจ
ถ้าพูดถึงรางวัลจากการทำการตลาดบนโลกออนไลน์ของ YAMAHA เราใช้หลักคันโดมาสร้างความพึงพอใจให้กับลูกค้าตามหลักปรัชญาที่เรายึดถือดังนี้
- Innovation: คอนเทนต์ของเราจะต้องมี Innovation หมายความว่าต้องล้ำสมัยตลอดเวลา ไม่นำคอนเทนต์เก่าที่ทุกคนรู้อยู่แล้วมาผลิตซ้ำ คอนเทนต์ต้องมีนวัตกรรมในตัวเอง คอนเทนต์ของเราแม้จะนำเสนอภาพของเทคโนโลยี แต่เราจะใส่ความแปลกใหม่ ความรู้ใหม่ ประสบการณ์ใหม่ๆ เข้าไปให้ลูกค้าได้รับ ทั้งหมดนี้คือ Innovation ในความหมายของ YAMAHA
- Emotion: คอนเทนต์ของเราต้องทำอย่างไรให้เข้าถึงอารมณ์ พูดง่ายๆ คือ “อ่านแล้วอิน” เหมือนเรากำลังคุยกับคนภาษาเดียวกัน เนื่องจากคอนเทนต์ในโลกออนไลน์มีทั้งแบบที่บริษัทคุยกับลูกค้า และลูกค้าคุยกับลูกค้า YAMAHA เน้นแบบหลัง คือคอนเทนต์ที่ทำให้รู้สึกว่า “เพื่อนคุยกับเพื่อน” เหล่านักบิดคุยกับเหล่านักบิด คนใช้มอเตอร์ไซค์คุยกับคนใช้มอเตอร์ไซค์เหมือนกัน เราหัวอกเดียวกัน สร้าง Emotion ให้เกิดขึ้น สร้างความคิดเห็น สร้างมุมมองที่มันเป็นไปในทิศทางเดียวกัน
- Confidence: คอนเทนต์ที่มี Confidence เป็นสิ่งสำคัญ เพราะในโลกออนไลน์มีข่าวปลอมเยอะมาก เพราะฉะนั้น ข้อมูลทุกอย่างที่ลงในช่องทางของ YAMAHA หรือที่เป็นสื่อของเราเอง คอนเทนต์ทุกอย่างจะต้องสร้างความน่าเชื่อถือให้กับลูกค้าได้ ทุกอย่างที่เราลงไปบนโลกออนไลน์นั้นมีความถูกต้อง สามารถตรวจสอบได้ และลูกค้าสามารถนำไปใช้ต่อได้ นั่นคือความ Confidence ของคอนเทนต์ที่เรามี
- Excitement: คอนเทนต์ที่มี Excitement คือคอนเทนต์ที่กระตุ้นให้ลูกค้ารู้สึกว่า “อยากได้ไปทำบ้าง” เช่น เราเพิ่งจัดการทดสอบ R1 ไป เรานำคอนเทนต์มาลงในออนไลน์เพื่อให้รู้สึกว่าการขับขี่ที่ถูกต้อง เราขี่ในสนามแข่ง ขี่อย่างถูกกฎระเบียบ ขี่อย่างมีเครื่องป้องกัน คุณจะขี่ความเร็วไหนก็ได้แล้วทุกคนหล่อได้เท่ากัน คอนเทนต์ลักษณะนี้มันสร้าง Excitement ขึ้นมาได้เลย เพราะฉะนั้นมันจะสร้างแรงบันดาลใจให้กับลูกค้า YAMAHA ได้เสมอ
- Ties: เมื่อเข้ามาอยู่ในสื่อหรือในโลกของออนไลน์เรา ทำอย่างไรเราถึงจะผูกพันกัน มันจะต้องมีกิจกรรม มันจะต้องมีการรับฟังกัน โลกออนไลน์เป็นสื่อสารสองทางอยู่แล้ว เราไม่ได้พูดอยู่คนเดียว แล้วพอทุกคนฟีดแบ็คอย่างไรแล้วเราไม่รู้ เพราะเขาฟีดแบ็คทันที เพราะฉะนั้นนี่คือการสร้าง Ties ทำอย่างไรให้การรับมือกับปัญหา ความพึงพอใจ หรือเรื่องอะไรก็ตามที่เกิดขึ้นมาในโลกออนไลน์ เราสามารถตอบสนองเขาได้หมด
เมื่อเข้ามาอยู่ในสื่อหรือในโลกของออนไลน์เรา ทำอย่างไรเราถึงจะผูกพันกัน มันจะต้องมีกิจกรรม มันจะต้องมีการรับฟังกัน โลกออนไลน์เป็นสื่อสารสองทางอยู่แล้ว เราไม่ได้พูดอยู่คนเดียว แล้วพอทุกคนฟีดแบ็คอย่างไรแล้วเราไม่รู้ เพราะเขาฟีดแบ็คทันที เพราะฉะนั้นนี่คือการสร้าง Ties ทำอย่างไรให้การรับมือกับปัญหา ความพึงพอใจ หรือเรื่องอะไรก็ตามที่เกิดขึ้นมาในโลกออนไลน์ เราสามารถตอบสนองเขาได้หมด
ทั้ง 5 จุดนี้ถือเป็นเป็นจุดหลักที่เราใช้ในการดำเนินการสร้างโลกออนไลน์ของ YAMAHA ในทุกๆ แพลตฟอร์มในลักษณะเดียวกัน
ก้าวต่อไปของ YAMAHA กับการลุยโลกออนไลน์
เคยมีคนพูดว่าโลกออนไลน์คือโลกออนไลน์ เป็นเหมือนโลกเสมือนจริง เป็นโลกในจินตนาการเป็นโลกที่คนทุกคนอยากจะเป็นอะไร ก็แสดงตัวตนออกมาในโลกออนไลน์ ทั้งๆ ที่ความเป็นจริง คุณไม่ได้เป็นคนนั้น
ดังนั้น ขั้นต่อไปที่ YAMAHA อยากทำคือเราอยากจะทำให้ว่า ไม่ว่าตัวตนคุณจะเป็นอย่างไร โลกออนไลน์คุณก็เป็นแบบเดียวกัน คุณสามารถนำเสนอความเป็นตัวตนที่แท้จริงของคุณออกมาได้ เพราะเราได้ทำแพลตฟอร์มหรือเราได้ทำคอนเทนต์ ทำเรื่องราวหรือทำกลุ่มที่เหมาะสมกับคุณ ที่คุณจะสามารถสื่อสารกับคนที่มีประสบการณ์เดียวกัน หาความเข้าใจเดียวกัน เราคุยกันได้
การที่คนบอกว่า ออนไลน์เหมือนเป็น “สื่อ” ที่ทำให้คนรู้จักเท่านั้นเอง แต่ไม่สามารถทำให้ไปไกลกว่านั้นได้
สำหรับ YAMAHA เราเชื่อมั่นในหลักปรัชญา “คันโด” คือสร้างความพึงพอใจที่เหนือกว่าความคาดหวัง ในเมื่อทุกคนคิดว่ามาเล่นออนไลน์ในช่องทางของ YAMAHA ต้องมีความสนุกเหมือนกับทุกช่องทางที่เราเจอมา โจทย์ของเราคือ ทำอย่างไรดีที่เราจะต้องไปไกลกว่านั้น
เพราะฉะนั้นเป็น KPI อันต่อไปของเราคือเราต้องสร้างความพึงพอใจที่เหนือกว่า การที่คุณแค่เข้ามาเป็นเพื่อนในออนไลน์ของเรา แต่คุณจะเป็นเพื่อนของ YAMAHA ในทุกๆ อย่าง ไม่ว่าจะเป็นในออนไลน์ ออนกราวด์ หรือทุกวิถีทางที่จะอยู่ด้วยกัน
นั่นคือเป็นประเด็นที่เราจะต้องดึงลูกค้าจากออนไลน์ไปสู่ออนกราวด์ แล้วดึงลูกค้าออนกราวด์เข้ามานำเสนอประสบการณ์เขาในโลกออนไลน์ ผสมผสานทั้ง 2 กลุ่มนี้เข้าด้วยกัน เพื่อให้เป็นโลกใบใหญ่สำหรับลูกค้า YAMAHA
ทั้งหมดนี้คือก้าวต่อไปของการทำออนไลน์และออนกราวน์ของ YAMAHA ที่น่าจับตามองเป็นอย่างยิ่ง
ติดตามข่าวสารจาก Brand Inside ได้จาก Facebook ของเรา