Xiaomi เปิดผลประกอบการช่วงครึ่งปีแรกปี 2019 มีการเติบโตต่อเนื่องในทุกเซกเมนต์ รายได้รวมนอกประเทศคิดเป็น 40 %ของรายได้ทั้งหมด ส่วนสมาร์ทโฟนเป็นเบอร์ 5 ของโลก
เสียวหมี่ คอร์ปอเรชั่น เปิดผลประกอบการครึ่งปีแรกของปี 2019 รายได้ของกลุ่มบริษัทรวมเพิ่มขึ้นถึง 20.2 % หรือราวๆ 95,710 ล้านหยวน ขณะที่รายได้ทั่วโลกเพิ่มขึ้น 38,600 ล้านหยวน ซึ่งคิดเป็นสัดส่วนกว่า 40 % ของรายได้รวม กำไรหลังการปรับปรุง (Non-IFRS Measure) อยู่ที่ประมาณ 5,720 ล้านหยวน เพิ่มขึ้น 49.8% เมื่อเทียบปีต่อปี
ในขณะที่ไตรมาสที่ 2 รายได้รวมเพิ่มขึ้น 14.8 % หรือประมาณ 1,950 ล้านหยวน กำไรหลังการปรับปรุง (Non-IFRS Measure) อยู่ที่ประมาณ 3,640 ล้านหยวน โดยเติบโตขึ้น 71.7 % ทั้งนี้เป็นผลมาจากกลยุทธ์การผลิตนวัตกรรมสมาร์ทโฟน ที่เชื่อมต่อกับ AIoT (Artificial Intelligence of Things) ครบทั้งการปฏิบัติการ และการเพิ่มการป้องกันความเสี่ยง
โดยที่มีข้อมูลทางการเงินที่น่าสนใจสำหรับครึ่งปีแรก ปี 2019
- รายได้รวมอยู่ที่ 95,710 ล้านหยวน เพิ่มขึ้น 20.2 % เมื่อเทียบปีต่อปี
- กำไรรวม 12,470 ล้านหยวน เพิ่มขึ้น 25.3 % เมื่อเทียบปีต่อปี
- กำไรสุทธิ 5,150 ล้านหยวน
- กำไรหลังการปรับปรุงที่ไม่เป็นไปตาม IFRS อยู่ที่ 5,720 ล้านหยวน เพิ่มขึ้น 49.8 % เมื่อเทียบปีต่อปี
- กำไรต่อหุ้นเท่ากับ 0.214 หยวน
สมาร์ทโฟนกำไรพุ่ง ใช้กลยุทธ์มัลติแบรนด์
ในครึ่งแรกของปี 2019 รายได้รวมของ Xiaomi ในเซกเมนต์ตลาดสมาร์ทโฟนอยู่ที่ราวๆ 5,900 ล้านหยวน ในขณะที่ไตรมาสที่ 2 เพิ่มสูงขึ้นอยู่ที่ 32,000 ล้านหยวน ซึ่งเป็นผลมาจากปริมาณยอดขายสมาร์ทโฟน และการเพิ่มราคาขายโดยเฉลี่ย
Xiaomi ได้ใช้กลยุทธ์มัลติแบรนด์ในการเพิ่มโอกาสการทำกำไร โดยยอดกำไรสุทธิพุ่งสูงขึ้นจาก 3.3% ในไตรมาสแรก ไปอยู่ที่ 8.1% ในไตรมาส 2 ในขณะที่ราคาขายเฉลี่ย (ASP) ของสมาร์ทโฟนในประเทศจีนแผ่นดินใหญ่ และในตลาดต่างประเทศก็ประสบความสำเร็จโตทะลุเป้าที่ 13.3% และ 6.7% ตามลำดับ โดยสมาร์ทโฟน ราคาสูงกว่า 2,000 หยวน คิดเป็น 32.3% ของรายได้ทั้งหมดในกลุ่มสมาร์ทโฟน
ในไตรมาสแรกของปี 2019 Xiaomi เปิดตัวสมาร์ทโฟนแฟล็กชิพตระกูล Mi 9 และสมาร์ทโฟนตระกูล Redmi Note 7 ต่อมา Xiaomi ก็ได้เปิดตัวสมาร์ทโฟนตระกูล K20 ซึ่งเน้นความคุ้มค่า คุ้มราคา ซึ่งถือเป็นอีกกลยุทธ์ในการออกแบบกลุ่มสมาร์ทโฟนให้มีความหลากหลาย โดยในไตรมาส 2 ยอดขายสมาร์ทโฟนของ Xiaomi พุ่งขึ้นถึง 32.1 ล้านเครื่อง โดยมียอดขายในตระกูล Redmi Note 7 สูงถึง 20 ล้านเครื่องทั่วโลก ในวันที่ 30 มิถุนายน 2562
ยอดขายสู่สมาร์ทโฟนอันดับ 5 ของโลก
ครึ่งปีแรกรายได้ของ Xiaomi ที่ต่างประเทศเติบโตขึ้น 33.8% หรือราว ๆ 38,600 ล้านหยวน ซึ่งมากกว่า 40% ของรายได้ทั้งหมดของกลุ่มบริษัท
โดยข้อมูลจากเว็ปไซต์ Canalys เผยว่า ยอดการจัดส่งสมาร์ทโฟนของ Xiaomi อยู่ใน 5 อันดับแรก ในกว่า 40 ประเทศและภูมิภาคทั่วโลก และข้อมูลจาก IDC เผยว่า Xiaomi ติดอันดับ 4 เมื่อคำนวณจากยอดขนส่งในยุโรปตะวันตก แสดงถึงการเติบโตที่เพิ่มขึ้นถึง 53.2% นอกจากนี้ในไตรมาส 2 Xiaomi ครองอันดับ 1 ในประเทศอินเดียติดต่อกันนานถึง 8 ไตรมาส ในส่วนของสมาร์ททีวีก็ยังคงครองอันดับ 1 ในประเทศอินเดียติดต่อกัน 5 ไตรมาสอีกด้วย
ปัจจุบัน Xiaomi มีการจดทะเบียนร้าน Mi Home แล้วกว่า 520 สาขาในต่างประเทศ หรือคิดเป็นอัตราเติบโตถึง 92.6% เมื่อเทียบปีต่อปี โดยมีถึง 79 สาขาในประเทศอินเดีย ซึ่งปัจจุบันมี Mi Store ในประเทศอินเดียมากถึง 1,790 สาขา
ธุรกิจ AIoT เติบโตอย่างรวดเร็ว
นอกจากสมาร์ทโฟนแล้ว รายได้จากกลุ่มผลิตภัณฑ์ IoT และผลิตภัณฑ์ที่เกี่ยวข้องกับไลฟ์สไตล์พุ่งขึ้นสูงถึง 49.3% อยู่ที่ 27,000 ล้านหยวน นอกจากนี้แล้วรายได้รวมของกลุ่มผลิตภัณฑ์ IoT และไลฟ์สไตล์ในไตรมาส 2 ของปีนี้ยังคิดเป็น 28.8% ของรายได้รวมทั้งหมด ซึ่งเพิ่มขึ้นอย่างเห็นได้ชัดเมื่อเทียบกับปีที่แล้วซึ่งอยู่ที่ 22.9%
สมาร์ททีวีของยังคงเป็นผู้นำที่มียอดการจัดส่งทั่วโลกมากถึง 5.4 ล้านเครื่องในช่วงครึ่งปีแรก มียอดการจัดส่งเติบโตถึง 64.9% ซึ่งครองอันดับหนึ่งในจีนแผ่นดินใหญ่ และจัดอยู่ใน 5 อันดับแรกทั่วโลก ส่วนเครื่องปรับอากาศมียอดการจัดส่งทะลุเกิน 1 ล้านเครื่องในเวลา 8 วัน นับตั้งแต่เปิดตัวไปเมื่อวันที่ 14 มิถุนายน 2019
และข้อมูลเมื่อวันที่ 30 มิถุนายน 2562 จำนวนอุปกรณ์ที่เชื่อมต่อระบบ IoT ของ Xiaomi นอกเหนือจากสมาร์ทโฟนและแล็ปท็อป มีจำนวนถึง 196 ล้านเครื่อง เพิ่มขึ้น 69.5% โดยมีผู้บริโภคราวๆ 3 ล้านคนที่ใช้ผลิตภัณฑ์ในกลุ่ม IoT จำนวนมากกว่า 5 เครื่อง ซึ่งเพิ่มขึ้นถึง 78.7% ในไตรมาส 2 ผู้ใช้งาน Home application ต่อเดือนของ Xiaomi ยังเพิ่มขึ้นถึง 30.4 ล้านคนทั่วโลก และมีจำนวนผู้ใช้ AI Assistant ต่อเดือนมากถึง 49.9 ล้านคน ซึ่งถือเป็นแพลตฟอร์มสื่อสารด้วยระบบเสียง AI ที่คนนิยมใช้มากที่สุดในประเทศจีน
ติดตามข่าวสารจาก Brand Inside ได้จาก Facebook ของเรา