โจนาธาน คัง ผู้จัดการ เสียวหมี่ ประเทศไทย กล่าวว่า Xiaomi 12 Pro เน้นการบันทึกภาพระดับสตูดิโอ ในคอนเซปต์ Master every scene มาพร้อมกล้องหลักระดับโปรความละเอียด 50 ล้านพิกเซล เลนส์เทเลโฟโต 50 ล้านพิกเซลและเลนส์อัลตราไวด์ 50 ล้านพิกเซล หน้าจอแสดงผล WQHD+ dynamic 120HZ AMOLED พร้อมลำโพงสี่ตัวจาก SOUND BY Harman Kardon ซัพพอร์ตการใช้งานด้วยการชาร์จ 120W Xiaomi HyperCharge พร้อมระบบชาร์จเร็วแบบไร้สาย 50W turbo charging
ขณะที่ Xiaomi 12 มาพร้อมกล้องหลักระดับโปร 50 ล้านพิกเซล เลนส์อัลตราไวด์และเลนส์เทเลมาโคร หน้าจอแสดงผล AMOLED 120Hz พร้อมลำโพงคู่ SOUND BY Harman Kardon รองรับการใช้งานตลอดวันด้วยการชาร์จเร็ว 67W แบบมีสาย และ 50W แบบไร้สาย โดยสมาร์ทโฟนทั้งสองรุ่นใช้ระบบประมวลทรงพลังอย่าง Snapdragon 8 Gen 1 โปรเซสเซอร์ขนาด 4nm ที่รองรับ 5G
- Xiaomi 12 Pro รุ่นความจุ 12GB+256GB วางจำหน่ายในราคา 31,990 บาท
- Xiaomi 12 รุ่นความจุ 12GB+256GB วางจำหน่ายในราคา 26,990 บาท
- Xiaomi 12 รุ่นความจุ 8GB+256GB วางจำหน่ายในราคา 24,990 บาท
กำหนดวางจำหน่ายอย่างเป็นทางการตั้งแต่วันที่ 2 เมษายน 2565 สำหรับลูกค้าที่สั่งจองในระหว่างวันที่ 16-27 มีนาคม 2565 รับฟรี* นาฬิกาอัจฉริยะ Xiaomi Watch S1 Active มูลค่า 4,990 บาท
นาฬิกาอัจฉริยะ Xiaomi Watch S1 และ Xiaomi Watch S1 Active
นอกจากนี้ Xiaomi ได้เปิดตัวผลิตภัณฑ์ AIoT รุ่นใหม่ 2 รุ่น ประกอบไปด้วย นาฬิกาอัจฉริยะ Xiaomi Watch S1 และ Xiaomi Watch S1 Active ซึ่งมาพร้อมหน้าจอ AMOLED 1.43 นิ้ว มีโหมดออกกำลังกาย 117 โหมด สามารถเลือกลวดลายบนหน้าปัดมากกว่า 200 รูปแบบ ใช้งานได้ยาวนาน 12 วัน
Xiaomi Watch S1 ใช้วัสดุกระจกแซฟไฟร์ กรอบแสตนเลสและสายหนัง มีสองสีให้เลือก ได้แก่ สีน้ำตาลและสีดำ จำหน่ายในราคา 6,490 บาท ขณะที่ Xiaomi Watch S1 Active มีสามสีให้เลือกเช่นกัน ได้แก่ Moon White, Black Space และ Ocean Blue จำหน่ายในราคา 4,990 บาท นาฬิกาทั้งสองรุ่นจะวางจำหน่ายอย่างเป็นทางการในวันที่ 16 มีนาคม 2565 เป็นต้นไป
หูฟังไร้สาย Xiaomi Buds 3T Pro และ Xiaomi Buds 3
หูฟังไร้สาย Xiaomi Buds 3T Pro และ Xiaomi Buds 3 ตัดเสียงรบกวนชั้นนําระดับโลกแบบ Adaptive ตัดเสียงรบกวนสูงสุด 40dB และมอบคุณภาพเสียงระดับพรีเมียม Xiaomi Buds 3T Pro มาพร้อมระบบเสียง Luxury Dynamic Driver แม่เหล็กคู่ 10 มม. เคลือบด้วยไดอะแฟรม DLC ออกแบบให้มีคุณภาพเสียงระดับสตูดิโอและรองรับ LHDC 4.0 codec
ขณะที่ หูฟัง Xiaomi Buds 3 ใช้ Dual-magnetic Dynamic Driver ความถี่กว้าง 3 แบนด์ให้คุณสัมผัสลึกถึงรายละเอียดของเสียง หูฟังทั้งสองถูกออกแบบตามหลักสรีรศาสตร์ของโครงสร้างใบหูชั้นนอกเพื่อความสบาย พอดี และสวมใส่ได้อย่างปลอดภัย มีให้เลือกสองสีได้แก่ Carbon Black และ Gloss White
Xiaomi Buds 3T Pro จะวางจำหน่ายในราคา 3,999 บาท และ Xiaomi Buds 3 จะวางจำหน่ายในราคา 2,999 บาท จะวางจำหน่ายอย่างเป็นทางการในวันที่ 16 มีนาคม 2565 เป็นต้นไป
ติดตามข่าวสารจาก Brand Inside ได้จาก Facebook ของเรา