ฟุตบอลโลกดันตลาดทีวีโต 25% จอใหญ่ 60 นิ้วมาแรง แถมต้อง 4K ด้วย

เทศกาลฟุตบอลโลกในปีนี้เป็นปัจจัยสำคัญที่ช่วยดันตลาดทีวีให้เติบโต หลังจากที่ซบเซาติดลบมาหลายปี ในช่วง 2 เดือนเติบโตกว่า 25% ส่วนใหญ่เป็นทีวีจอใหญ่ขนาด 50 นิ้วขึ้นไป และต้องมีคุณภาพระดับ 4K พ่วงด้วย

ภาพจาก Shutterstock

ทีวีไม่เคยโตขนาดนี้มาหลายปีแล้ว

จากพฤติกรรมผู้บริโภคคนไทยที่มีการดูทีวีน้อยลง หันมาเสพคอนเทนต์ออนไลน์จากอุปกรณ์อื่น หรือดูทีวีจากอุปกรณ์อื่นอย่างมือถือ และแท็บเล็ต ทำให้ตลาดทีวีมีการซบเซามาหลายปี ตลอด 3-4 ปีที่ผ่านมามีตัวเลขติดลบมาตลอด

แต่ในปีนี้ตลาดทีวีกลับมามีสีสันมากขึ้นได้แรงกระเพื้อมจากฟุตบอลโลกมีข้อมูลจากเพาเวอร์ มอลล์ พบว่าในช่วงเดือนพฤษภาคม และเดือนมิถุนายนนี้มียอดการซื้อทีวีเติบโตขึ้นถึง 25% เป็นตัวเลขที่ไม่ได้เติบโตขนาดนี้มาหลายปีแล้ว ขนาดฟุตบอลโลกเมื่อ 4 ปีก่อนยังโตไม่เท่านี้ มีการเติบโตราว 12-15% เท่านั้น

พฤติกรรมการซื้อของผู้บริโภคตอนนี้มองหาทีวีจอใหญ่มากขึ้น นวัตกรรมสูงขึ้น ขนาด 32-40 นิ้วไม่ตื่นเต้นแล้ว มีการเติบโตไม่มาก แต่หน้าจอขนาด 50 นิ้วขึ้นไปเติบโตถึง 40% ส่วนหน้าจอ 60 นิ้วขึ้นไปเติบโตถึง 100%

จักรกฤษณ์ กีรติโชคชัยกุล ผู้อำนวยการใหญ่อาวุโสบริหารสินค้าเพาเวอร์ มอลล์ เดอะมอลล์ กรุ๊ป จำกัด เล่าว่า

จากกระแสของฟุตบอลโลกเป็นปัจจัยกระตุ้นให้ตลาดทีวีเติบโตได้อย่างดีจากที่ไม่เคยเติบโตขนาดนี้มาก่อน ส่วนหนึ่งมาจากนวัตกรรมที่มีการเปลี่ยนแปลงผู้บริโภคต้องการหน้าจอขนาดใหญ่ขึ้น ไม่สนใจแบบ Full HD แล้ว แต่มองไปถึง 4K อย่างเดียว ถึงแม้คนจะดูทีวีน้อยลง แต่การดูผ่านแท็บเล็ต หรือมือถือก็ไม่อิ่มตาเท่าดูจากทีวี บอลโลกปีนี้จึงได้เห็นการซื้อทีวีมากขึ้น

อีกทั้งในปีนี้หลายแบรนด์ต่างกระตุ้นตลาดด้วยการจัดโปรโมชั่นลดราคากันกระหน่ำ โดยหน้าจอขนาด 50-59 นิ้ว ราคาลดลง 30% ราคาอยู่ที่ 20,000 บาท จาก 30,000 บาท และหน้าจอขนาด 60 นิ้วขึ้นไป ราคาลดลงกว่า 50% ราคา 50,000-60,000 บาท จาก 90,000 บาท ทำให้ผู้บริโภคตัดสินใจซื้อง่ายขึ้น

นวัตกรรมมาใหม่ ทำให้เปลี่ยนทีวีเร็วขึ้น

ปัจจุบันตลาดทีวีมีมูลค่า 30,000 ล้านบาท ในช่วงหลายปีที่ผ่านมาติดลบมาตลอด โดยในปีก่อนมีการทรงตัว แต่ปีนี้มีปัจจัยจากฟุตบอลโลกมาหนุนน่าจะทำให้ทั้งปีเติบโตได้ 12-15%

ในตลาดสามารถแบ่งเซ็กเมนต์ตามขนาดหน้าจอ ขนาด 50 นิ้วขึ้นไป 40-50% หน้าจอขนาด 40 นิ้วขึ้นไป 30% และหน้าจอเล็กขนาดต่ำกว่า 32 นิ้ว 20-30% เป็นเทรนด์ของหน้าจอขนาดใหญ่มีการเติบโตมากขึ้น

ภาพจาก Shutterstock

โดยที่นวัตกรรมที่เปลี่ยนแปลงของทีวีที่ผู้ประกอบการต่างพัฒนาเทคโนโลยีใหม่ๆ ทำให้ผู้บริโภคอยากเปลี่ยนทีวีมากขึ้นด้วย มีอัตราการซื้อทดแทนมากขึ้น ปัจจุบันพบว่ามีการเปลี่ยนทีวีในทุกๆ 3-5 ปี จากเดิมที่มีการเปลี่ยนทีวีเฉลี่ยทุกๆ 5-10 ปี เพราะทีวีมีความฉลาดขึ้น

ถึงแม้ว่าคนจะดูทีวีน้อยลง แต่ผู้บริโภควื้อทีวีมาเพื่อเติมเต็มไลฟ์สไตล์ในการเสพคอนเทนต์ เพราะทีวียุคนี้เป็นสมาร์ท ทีวี สามารถเข้าแอพพลิเคชั่นได้ และดูสตรีมมิ่ง ได้ รับกับเทรนด์ของการดู Netflix ด้วย

สรุป

ถือว่าเป็นทิศทางที่ดีที่ได้เห็นการเติบโตของทีวี หลังจากที่ซบเซามานาน ผู้บริโภคเองก็ต้องการสินค้าที่มาเติมเติมชีวิตให้สะดวกขึ้น ต้องการมีประสบการณ์ที่ดีกับสินค้า นวัตกรรมเรื่องความคมชัด และขนาดหน้าจอจึงเป็นปัจจัยสำคัญในการเลือกซื้อทีวีของคนไทย รวมไปถึงเรื่องดีไซน์ และประหยัดพลังงานด้วย

ติดตามข่าวสารจาก Brand Inside ได้จาก Facebook ของเรา