ครั้งแรกในรอบ 22 ปี ผลสำรวจจากทั่วโลกให้ความสำคัญ Work-life balance มากกว่าเงิน

งานวิจัยพบว่า คนให้ความสำคัญกับ Work-life balance แซงหน้าค่าตอบแทนไปแล้วเรียบร้อย ถือว่าเป็นครั้งแรกในรอบ 22 ปี นับตั้งแต่ Randstad มีการเก็บข้อมูลมา

Working

งานวิจัยนี้ได้สำรวจคนทำงานกว่า 26,000 คน จากทั่วโลก ทั้งในยุโรป เอเชียแปซิฟิก และอเมริกา ส่วนประเด็น Work-life balance แซงหน้าค่าตอบแทนได้นั้น เอาจริงๆ ก็ห่างกันแค่ 1% เท่านั้น

โดยคนที่ให้ความสำคัญกับ Work-life balance อยู่ที่ 83% ส่วนค่าตอบแทนอยู่ที่ 82% แม้จะห่างกันแค่ 1% แต่ก็เป็นอัตราที่สะท้อนให้เห็นว่า คนเริ่มให้ความสำคัญกับการมีชีวิตที่สมดุลจากการทำงานมากกว่าค่าตอบแทนแล้ว

ผลสำรวจยังพบอีกว่า คนพร้อมจะลาออกจากที่ทำงานที่มีวัฒนธรรมองค์กรที่เป็นพิษหรือมีความ toxic เพิ่มขึ้นจากปีที่แล้วถึง 33%

คนที่มีความสามารถ (กลุ่ม Talent) ราว 1 ใน 3 หรือประมาณ 29% พร้อมลาออกถ้าพวกเขาไม่เห็นด้วยกับจุดยืนของผู้นำ เป็นอัตราที่เพิ่มขึ้นจากปีที่แล้วกว่า 26% เกือบครึ่งหนึ่งหรือ 48% อาจจะไม่ยอมเข้าทำงานในองค์กรนั้นๆ หากองค์กรนั้นไม่มีค่านิยมให้ความสำคัญด้านสังคมหรือสิ่งแวดล้อม

กลุ่มคนที่มีความสามารถ ต้องการทำงานที่มีความยืดหยุ่น เกือบ 1 ใน 3 หรือประมาณ 31% ลาออกจากงานเพราะงานไม่ยืดหยุ่นมากพอ นอกจากนี้ ยังพบอีกว่าคนรุ่นใหม่มักพอใจกับสิทธิประโยชน์จากการทำงาน เกือบครึ่ง หรือประมาณ 41% ของคน Gen Z บอกว่าพวกเขาต้องการทำงานที่ยืดหยุ่นโดยเฉพาะในแง่ของสถานที่ หรือสามารถทำงานจากที่ใดก็ได้ ไม่ได้ยึดติดว่าต้องเข้าออฟฟิศเท่านั้น เมื่อเทียบกับคนรุ่น Baby Boomer มีเพียง 17% เท่านั้น

กลุ่ม Talent ราว 83% อยากให้องค์กรทำให้รู้สึกว่า เมื่อยู่ในองค์กรแล้วมีความเป็น community โดยกว่าครึ่งหรือประมาณ 53% ยินดีที่จะลาออกถ้าไม่รู้สึกเป็นส่วนหนึ่งขององค์กร

ราว 36% ให้ความสำคัญกับค่าตอบแทนน้อยลง ถ้าพวกเขามีเพื่อนในที่ทำงาน ขณะที่กลุ่ม Talent ราว 85% รู้สึกว่ามี productivity มากขึ้น ทำงานได้ดีขึ้นถ้าพวกเขาได้รับรู้ถึงความเป็นสังคมหรือมีเพื่อนในที่ทำงาน

ปีที่ผ่านมา พบว่ามี 29% ที่อยากลาออก ถ้ารู้สึกว่าไม่มีโอกาสก้าวหน้าในหน้าที่การงาน ปัจจุบันมีอัตราเพิ่มขึ้นเป็น 41%

ในด้านความรู้นั้น AI ถือเป็นตัวช่วยหลักที่จะสร้างโอกาสให้พัฒนาและเรียนรู้ราว 23% ตามด้วยความรู้ด้านเทคโนโลยีและไอที 11% และทักษะในการเป็นผู้นำและการจัดการ 7%

สำหรับประเด็นนโยบายเรียกคนกลับเข้าไปทำงานในออฟฟิศ (return-to-office: RTO) นั้น พบว่า กลุ่ม Talent ราว 26% ต้องการกลับเข้าทำงานในออฟฟิศ 3 วันต่อสัปดาห์ ขณะที่บริษัทราว 31% ต้องการให้กลุ่ม Talent เข้าออฟฟิศทุกวัน ขณะที่น้อยกว่า 1 ใน 3 หรือประมาณ 29% คาดหวังให้เข้าออฟฟิศ 3 วันต่อ 1 สัปดาห์หรือน้อยกว่านั้น

อ่านเนื้อหาเต็มได้ที่นี่ – Randstad

ติดตามข่าวสารจาก Brand Inside ได้จาก Facebook ของเรา

mm
สนใจความสัมพันธ์ระหว่างประเทศ การทูต การเมือง ประชาธิปไตย เสรีภาพ ความยุติธรรมและความเท่าเทียม ชอบอ่าน ชอบเขียน ชอบสืบค้นข้อมูล ชอบทำคอนเทนต์