Work From Home คืออะไร มีประโยชน์อย่างไรบ้าง?
ตอนนี้หลายคนน่าจะคุ้นเคยกับ Work From Home (WFH) หรือ การทำงานจากบ้านกันเป็นอย่างดี เพราะตั้งแต่การระบาดของไวรัสโควิด-19 ระบาดมาเป็นเวลากว่า 1 ปี หลายๆ ธุรกิจได้ปรับตัวเข้ากับการทำงานทางไกลกันมากขึ้น พนักงานหลายคนก็ได้มีโอกาสลองทำงานรูปแบบใหม่กันเป็นที่เรียบร้อย
หลังจากนี้ แม้การระบาดจะจบลง แต่ไม่แน่ว่าเราจะมีโอกาสได้ Work From Home กันต่อไป ไม่ว่าจะเป็นแบบเต็มเวลาหรือทำงานจากบ้านแค่บางวัน เพราะหลังจากเราได้ Work From Home กันมาสักพัก ก็พบว่าการทำงานทำงานจากบ้านมีข้อดีอยู่หลายด้าน
Brand Inside ก็เลยจะพามาดูกันว่า WFH คือ อะไร มีข้อดีอย่างไร ทำไมถึงจะเป็นรูปแบบการทำงานแห่งอนาคต
ข้อดี 4 ข้อ ของการ Work From Home
-
สร้างความพึงพอใจกับงานมากขึ้น
งานวิจัยซึ่งตีพิมพ์ในวารสาร Journal of Management ปี 2005 ระบุว่าข้อดีของ Work From Home คือ การที่พนักงานมีความพึงพอใจกับงานที่ทำมากยิ่งขึ้น
เพราะการได้เป็นอิสระจากออฟฟิศ เพื่อนร่วมงาน และหัวหน้า ทำให้พนักงานรู้สึกวางใจที่จะทำงานไปตามวิถีทางที่ตัวเองถนัดมากยิ่งขึ้น และยังเปิดโอกาสให้ดูแลสมาชิกในครอบครัวได้มากขึ้น
![](https://assets.brandinside.asia/uploads/2021/01/charles-deluvio-wt3iFNxMSE0-unsplash-scaled.jpg)
นอกจากนี้ พนักงานยังมีความเครียดลดลงเพราะการทำงานทางไกลจะช่วยจำกัดปฏิสัมพันธ์ที่ไม่จำเป็นระหว่างพนักงานและเพื่อนร่วมงาน (และ หัวหน้า) ต้องนัดหมายล่วงหน้ามากขึ้น ผลคือสุขภาพจิตที่ดีและความกังวลที่ลดลง
สรุปแล้ว การทำงานที่บ้านทำให้พนักงานสามารถเติมเต็มความต้องการในการทำงานอย่างอิสระ ความรับผิดชอบต่อครอบครัว และลดความตึงเครียด และเมื่องานที่ทำอยู่สามารถมอบสิ่งเหล่านี้ให้กับพนักงาน พนักงานก็จะมีความพึงพอใจกับงานมากขึ้น
-
ประหยัดเวลาในการเดินทาง
การเดินทางอาจฟังดูเป็นเรื่องเล็ก แต่จริงๆ ไม่เล็กเลย เพราะในปี 2020 คนกรุงเทพฯ เสียเวลาไปบนท้องถนนกว่า 67 ชั่วโมง มากที่สุดในเอเชีย และมากเป็นอันดับ 17 ของโลก จากการวิเคราะห์ของ INRIX บริษัทข้อมูลด้านการจราจรจากสหรัฐอเมริกา
และนี่ก็คือปัญหาใหญ่ของคนทำงาน เพราะมีงานวิจัยยืนยันจริงๆ ว่า บรรยากาศ ความแออัด มลพิษ และการติดอยู่ในการจราจรอันคับคั่ง ล้วนแล้วแต่ส่งผลต่อสภาพจิตของคนทำงานทั้งสิ้น
![BTS บีทีเอส กรุงเทพ](https://assets.brandinside.asia/uploads/2019/12/shutterstock-1600751347-bkk-bts.jpg)
ดังนั้น Work From Home เลยกลายเป็นอีกหนึ่งทางออกของปัญหานี้ เพราะไม่ว่าจะ WFH เต็มเวลาหรือแค่บางวัน อย่างน้อยก็ช่วยลดเวลาที่เราเสียไปกับการเดินทาง และลดปัญหาสุขภาพจิตที่พ่วงมากับสภาพแวดล้อมที่ไม่ดีต่อใจ
-
ทำงานได้ดีขึ้น
จริงๆ แล้วมีหลายงานวิจัยที่บ่งบอกว่าการทำงานทางไกลช่วยให้ผลิตภาพ (Productivity) ในการทำงานของพนักงานดีขึ้นแต่ชิ้นที่โด่งดังที่สุดคืองานวิจัยโดย Nicholas Bloom ศาสตราจารย์จากสถาบันบริหารธุรกิจมหาวิทยาลัยสแตนฟอร์ด
งานวิจัยดังกล่าวศึกษาผลลัพธ์ของการ Work From Home ของพนักงาน 16,000 คนในบริษัท Ctrip (บริษัทเทคโนโลยีการท่องเที่ยวใน NASDAQ) ซึ่งผลลัพธ์คือพนักงานมีศักยภาพในการทำงานเพิ่มขึ้น 13% เทียบกับพนักงานที่ทำงานในออฟฟิศ
ศูนย์วิจัยกสิกรไทยเคยทำการศึกษาเรื่องการทำงานจากบ้านในประเทศไทยเช่นกัน และก็พบแนวโน้มเช่นเดียวกันคือกว่า 30.5% บอกว่าการทำงานจากบ้านช่วยให้ประสิทธิภาพการทำงานเพิ่มขึ้น
-
ประหยัดค่าใช้จ่าย
ข้อดีของ Work From Home อีกข้อ คือ การประหยัดค่าใช้จ่าย เพราะพนักงานใช้จ่ายในด้านการเดินทางน้อยลง ส่วนบริษัทก็มีค่าใช้จ่ายไปกับการเช่าสถานที่และค่าสาธารณูปโภคลดลง
สรุป
แม้โควิดจะจบลง แต่การทำงานจากบ้านจะดำเนินต่อไปไม่มากก็น้อย เพราะผู้คนได้เห็นแล้วว่า Work From Home มีข้อดีหลายด้าน คือ ช่วยลดความตึงเครียด เพิ่มความพึงพอใจในงาน ประหยัดเวลาเดินทาง ช่วยให้ทำงานได้ดีขึ้น แถมยังประหยัดค่าใช้จ่าย
อย่างไรก็ตาม Work From Home ก็มีข้อจำกัด เช่น ทำให้พนักงานใหม่เข้ากับทีมยากขึ้น จัดสมดุลชีวิตการทำงานยากขึ้น เราจึงอาจเห็นระบบการทำงานแบบไฮบริด ‘จะเข้าออฟฟิศหรือทำงานจากบ้านก็ได้’ เข้ามามีบทบาทในสังคมการทำงานหลังจากนี้มากขึ้น
- ทำงานจากบ้าน ทำสายสัมพันธ์กับในออฟฟิศหาย คนหมดไฟเป็นแถบ
- ทำงานจากบ้าน ยังไงให้ได้ดี ตามสูตร ธนาคารกลางอังกฤษ
ที่มา – NYTimes
ติดตามข่าวสารจาก Brand Inside ได้จาก Facebook ของเรา