Work From Home คืออะไร มีประโยชน์อย่างไรบ้าง?
ตอนนี้หลายคนน่าจะคุ้นเคยกับ Work From Home (WFH) หรือ การทำงานจากบ้านกันเป็นอย่างดี เพราะตั้งแต่การระบาดของไวรัสโควิด-19 ระบาดมาเป็นเวลากว่า 1 ปี หลายๆ ธุรกิจได้ปรับตัวเข้ากับการทำงานทางไกลกันมากขึ้น พนักงานหลายคนก็ได้มีโอกาสลองทำงานรูปแบบใหม่กันเป็นที่เรียบร้อย
หลังจากนี้ แม้การระบาดจะจบลง แต่ไม่แน่ว่าเราจะมีโอกาสได้ Work From Home กันต่อไป ไม่ว่าจะเป็นแบบเต็มเวลาหรือทำงานจากบ้านแค่บางวัน เพราะหลังจากเราได้ Work From Home กันมาสักพัก ก็พบว่าการทำงานทำงานจากบ้านมีข้อดีอยู่หลายด้าน
Brand Inside ก็เลยจะพามาดูกันว่า WFH คือ อะไร มีข้อดีอย่างไร ทำไมถึงจะเป็นรูปแบบการทำงานแห่งอนาคต
ข้อดี 4 ข้อ ของการ Work From Home
-
สร้างความพึงพอใจกับงานมากขึ้น
งานวิจัยซึ่งตีพิมพ์ในวารสาร Journal of Management ปี 2005 ระบุว่าข้อดีของ Work From Home คือ การที่พนักงานมีความพึงพอใจกับงานที่ทำมากยิ่งขึ้น
เพราะการได้เป็นอิสระจากออฟฟิศ เพื่อนร่วมงาน และหัวหน้า ทำให้พนักงานรู้สึกวางใจที่จะทำงานไปตามวิถีทางที่ตัวเองถนัดมากยิ่งขึ้น และยังเปิดโอกาสให้ดูแลสมาชิกในครอบครัวได้มากขึ้น
นอกจากนี้ พนักงานยังมีความเครียดลดลงเพราะการทำงานทางไกลจะช่วยจำกัดปฏิสัมพันธ์ที่ไม่จำเป็นระหว่างพนักงานและเพื่อนร่วมงาน (และ หัวหน้า) ต้องนัดหมายล่วงหน้ามากขึ้น ผลคือสุขภาพจิตที่ดีและความกังวลที่ลดลง
สรุปแล้ว การทำงานที่บ้านทำให้พนักงานสามารถเติมเต็มความต้องการในการทำงานอย่างอิสระ ความรับผิดชอบต่อครอบครัว และลดความตึงเครียด และเมื่องานที่ทำอยู่สามารถมอบสิ่งเหล่านี้ให้กับพนักงาน พนักงานก็จะมีความพึงพอใจกับงานมากขึ้น
-
ประหยัดเวลาในการเดินทาง
การเดินทางอาจฟังดูเป็นเรื่องเล็ก แต่จริงๆ ไม่เล็กเลย เพราะในปี 2020 คนกรุงเทพฯ เสียเวลาไปบนท้องถนนกว่า 67 ชั่วโมง มากที่สุดในเอเชีย และมากเป็นอันดับ 17 ของโลก จากการวิเคราะห์ของ INRIX บริษัทข้อมูลด้านการจราจรจากสหรัฐอเมริกา
และนี่ก็คือปัญหาใหญ่ของคนทำงาน เพราะมีงานวิจัยยืนยันจริงๆ ว่า บรรยากาศ ความแออัด มลพิษ และการติดอยู่ในการจราจรอันคับคั่ง ล้วนแล้วแต่ส่งผลต่อสภาพจิตของคนทำงานทั้งสิ้น
ดังนั้น Work From Home เลยกลายเป็นอีกหนึ่งทางออกของปัญหานี้ เพราะไม่ว่าจะ WFH เต็มเวลาหรือแค่บางวัน อย่างน้อยก็ช่วยลดเวลาที่เราเสียไปกับการเดินทาง และลดปัญหาสุขภาพจิตที่พ่วงมากับสภาพแวดล้อมที่ไม่ดีต่อใจ
-
ทำงานได้ดีขึ้น
จริงๆ แล้วมีหลายงานวิจัยที่บ่งบอกว่าการทำงานทางไกลช่วยให้ผลิตภาพ (Productivity) ในการทำงานของพนักงานดีขึ้นแต่ชิ้นที่โด่งดังที่สุดคืองานวิจัยโดย Nicholas Bloom ศาสตราจารย์จากสถาบันบริหารธุรกิจมหาวิทยาลัยสแตนฟอร์ด
งานวิจัยดังกล่าวศึกษาผลลัพธ์ของการ Work From Home ของพนักงาน 16,000 คนในบริษัท Ctrip (บริษัทเทคโนโลยีการท่องเที่ยวใน NASDAQ) ซึ่งผลลัพธ์คือพนักงานมีศักยภาพในการทำงานเพิ่มขึ้น 13% เทียบกับพนักงานที่ทำงานในออฟฟิศ
ศูนย์วิจัยกสิกรไทยเคยทำการศึกษาเรื่องการทำงานจากบ้านในประเทศไทยเช่นกัน และก็พบแนวโน้มเช่นเดียวกันคือกว่า 30.5% บอกว่าการทำงานจากบ้านช่วยให้ประสิทธิภาพการทำงานเพิ่มขึ้น
-
ประหยัดค่าใช้จ่าย
ข้อดีของ Work From Home อีกข้อ คือ การประหยัดค่าใช้จ่าย เพราะพนักงานใช้จ่ายในด้านการเดินทางน้อยลง ส่วนบริษัทก็มีค่าใช้จ่ายไปกับการเช่าสถานที่และค่าสาธารณูปโภคลดลง
สรุป
แม้โควิดจะจบลง แต่การทำงานจากบ้านจะดำเนินต่อไปไม่มากก็น้อย เพราะผู้คนได้เห็นแล้วว่า Work From Home มีข้อดีหลายด้าน คือ ช่วยลดความตึงเครียด เพิ่มความพึงพอใจในงาน ประหยัดเวลาเดินทาง ช่วยให้ทำงานได้ดีขึ้น แถมยังประหยัดค่าใช้จ่าย
อย่างไรก็ตาม Work From Home ก็มีข้อจำกัด เช่น ทำให้พนักงานใหม่เข้ากับทีมยากขึ้น จัดสมดุลชีวิตการทำงานยากขึ้น เราจึงอาจเห็นระบบการทำงานแบบไฮบริด ‘จะเข้าออฟฟิศหรือทำงานจากบ้านก็ได้’ เข้ามามีบทบาทในสังคมการทำงานหลังจากนี้มากขึ้น
- ทำงานจากบ้าน ทำสายสัมพันธ์กับในออฟฟิศหาย คนหมดไฟเป็นแถบ
- ทำงานจากบ้าน ยังไงให้ได้ดี ตามสูตร ธนาคารกลางอังกฤษ
ที่มา – NYTimes
ติดตามข่าวสารจาก Brand Inside ได้จาก Facebook ของเรา