เรียนรู้วิธีคิดแบบ One Thing ของ “วู้ดดี้ มิลินทจินดา” จาก S2O สู่ Fit Fest 2018

พูดคุยกับเจ้าพ่ออีเวนต์อย่าง “วู้ดดี้ มิลินทจินดา” ถึงแนวคิดในการสร้างสรรค์งานอีเวนต์แบบไม่เหมือนใครด้วยหลักแนวคิด One Thing จนวันนี้มีงาน Fit Fest 2018 คลอดออกมาอีกหนึ่งงาน

เริ่มจาก Passion แล้วตั้งคำถามแบบ One Thing

ถ้าพูดถึงชื่อ “วู้ดดี้-วุฒิธร มิลินทจินดา” หลายคนคงนึกถึงความป็นพิธีกรฝีปากกล้าคนหนึ่งแห่งยุค แต่ในช่วงหลายปีมานี้วู้ดดี้ได้เพิ่มบทบาทตัวเองกับธุรกิจอีกหลายขาใน บริษัท วู้ดดี้ เวิลด์ จำกัด ที่นอกจากการทำเรื่องคอนเทนต์แล้ว ยังมีธุรกิจอีเวนต์ที่สร้างชื่อขึ้นมาอีก

ที่เลื่องชื่อมากที่สุดเห็นจะเป็นเทศกาลดนตรี S2O ที่ทำให้เทศกาลสงกรานต์กลายเป็นช่วงเวลาของปาร์ตี้ดนตรี EDM ได้ เป็นการมาในช่วงจังหวะเวลาที่คนไทยชื่นชอบ EDM และทำให้กระแสนี้อยู่ยาวนานมาจนถึงวันนี้ ทำให้ S2O กลายเป็นอีเวนต์ที่ชาวต่างชาติต้องมาเยือนไทยในช่วงสงกรานต์

ล่าสุดวู้ดดี้ยังได้ผุดอีเวนต์ Fit Fest 2018 เป็นมหกรรมที่รวบรวมทุกอย่างเกี่ยวกับสุขภาพ ฟิตเนส ออกกำลังกายไว้ที่เดียว และต้องทำให้สนุกด้วย

เมื่อมาดูเบื้องหลังวิธีการคิดในการที่จะคลอดแต่ละอีเวนต์ วู้ดดี้บอกว่าเกิดจากคอนเซ็ปต์เดียวก็คือ One Thing เป็นการถามคำถามเดียว และลงมือทำตลอดทั้งปี

“One Thing เมื่อ 4 ปีที่แล้วคืองาน S2O มีการตั้งคำถามก่อนว่าอะไรคือ Pain Point สำหรับงานสงกรานต์ ทำไมต้องสาดน้ำหลังกะบะอย่างเดียว ต้องทำสเกลอื่นบ้าง จะต่อยอดอื่นๆ ไปได้มั้ย ตอนนั้นก็มีความสนใจเรื่องดนตรี EDM เลยเอามาผสมเข้าด้วยกัน”

ในปีนี้ S2O กำลังเข้าสู่ปีที่ 5 แล้ว และเป็นอีเวนต์ที่อยู่ตัวแล้ว หลังจากที่ใช้พลังทุ่มเทมาตลอด ก็เลยต้องถึงเวลาที่วู้ดดี้ เวิลด์จะขยับขยายไปยังอีเวนต์รูปแบบอื่นๆ ซึ่งเป็นการต่อยอดอะไรใหม่ๆ ที่ไม่ใช่เพลง ผลลักพธ์ก็คือเรื่องของการออกกำลังกาย จึงกลายเป็นงาน Fit Fest

“ส่วน One Thing ในปีนี้คือ เรื่องออกกำลังกาย เพราในช่วงหลายปีที่ผานมานี้มี Passion กับการออกกำลังกายมาก มีแต่คนถามถึงเรื่องสุขภาพ ถามเคล็ดลับการลดน้ำหนัก มีการทำตอนเทนต์เกี่ยวกับสุขภาพมากมาย เลยมาทำเป็นฟิตเนสเฟสติวัล เอาเรื่องสุขภาพมาทำให้คนสนุกขึ้น”

แต่วู้ดดี้บอกว่าครั้งนี้ได้ใช้แนวคิด Everything เข้าไปด้วย ในแง่ของการรวมทุกศาสตร์เกี่ยวกับสุขภาพ ทั้งสายสุขภาพ สายฟิตเนส คนที่สนใจสุขภาพ คนที่ออกกำลังกายเป็นประจำ รวมถึงคนที่ไม่เคยออกกำลังกายก็ต้องมา แล้วจะมีผู้เชี่ยวชาญให้คำแนะนำว่าเหมาะกับการออกกำลังกายแบบไหน

โจทย์หลักคือต้องทำอีเวนต์ให้คนเป็นหมื่นมาทำกิจกรรมร่วมกัน!

วู้ดดี้ค้นพบว่าจริงๆ แล้วหัวใจสำหคัญของอีเวนต์ที่ตนจัดนั้น ไม่ได้เกิดจากวัตถุดิบอะไรมากมาย แต่เป็นเหมือนพื้นที่ให้คนจำนวนมากมาทำกิจกรรมร่วมกัน เหมือนอย่างงาน S2O จริงๆ แล้วการมาดูดีเจที่ตัวเองชอบก็ส่วนหนึ่ง แต่สิ่งที่ได้คือการมาเต้นด้วยกันเป็นหมู่คณะมากกว่า

“ชอบจัดกิจกรรมให้คนเป็นหมื่นมารวมกัน เพราะค้นพบว่าการทำให้คนมาออกกำลังกายได้ต้องเป็นหมู่ จาก S2O คนที่เข้ามาไม่ได้มาดูดีเจ แต่มาเต้นด้วยกันเป็นหมู่ และคนไทยออกกำลังกายเป็นกลุ่ม ชอบเข้าคลาส งานนี้จะเน้นที่ฟิตเนสคอนเสิร์ต จัดพื้นที่ส่วนหนึ่งให้คนเป็นร้อยมาออกกำลังกายพร้อมกับ Influencer”

วู้ดดี้ยังไม่ทิ้งลายเจ้าพ่อคอนเทนต์ โดยมีการชวน Influencer ในวงการสุขภาพมาร่วมในงาน อย่าง เบเบ้ กาละแมร์ เทรนเนอร์จัน รวมถึงยังคว้า BNK48 มาร่วมงานด้วยเช่นกัน เป็นการดึงไอดอลเพื่อดึงดูดคนให้มาออกกำลังกาย

โดยครั้งนี้ได้จัดขึ้นเป็นครั้งที่ 2 แล้ว จะมีจัดขึ้นในวันที่ 22-23 กันยายน ที่พารากอนฮอล์ ศูนย์การค้าสยามพารากอน มีการตั้งเป้าว่ามีคนเข้าร่วมงาน 40,000 คน และแต่ละคนต้องมีแรงบันดาลใจไปออกกำลังกายต่อ

ต้องเป็น First Mover

อีกหนึ่งสิ่งที่สำคัญของการคิดงานฉบับของวู้ดดี้ก็คือ ต้องเป็น First Mover เสมอ ต้องดูสิ่งที่ยังขาด ยังไม่มีในตลาด ในตอนที่ทำ S2O ก็ยังไม่มีใครจัดเทศกาลดนตรี EDM ช่วงสงกรานต์ ส่วนในตอนนี้ตลาดเรื่องสุขภาพก็กำลังเติบโต แต่ยังไม่มีผู้เล่นที่ลงมาจัดอีเวนต์ชัดเจน

“เราบ้า อยากทำไม่เหมือนคนอื่นก่อน ดูว่ามีอะไรขาดในตลาด อย่างแต่ก่อนจะขาดทอล์คโชว์ในรูปแบบถามตรงๆ ในรายการทีวี เราก็เริ่มทำ หรืออย่างกระทะโคเรียคิงก็เป็นนวัตกรรมใหม่ที่ยังไม่มีใครทำ ทุกอย่างต้องเป็น First Mover ก่อนคนอื่นตลอด”

ติดตามข่าวสารจาก Brand Inside ได้จาก Facebook ของเรา