หลังเติบโตผ่านการวางตัวเป็นธุรกิจสื่อมาตั้งแต่แรก Wongnai ก็เริ่มต่อจิ๊กซอว์ใหม่ด้วยการเดินกลยุทธ์ O2O หรือ Online to Offline ซึ่งหนึ่งในนั้นก็คือการเปิด Co-Cooking Space เพื่อสร้างการเติบโตอย่างยั่งยืน
O2O กับแนวคิดหลักในการทำธุรกิจ
ปัจจุบันบริการออนไลน์ต่างๆ เริ่มปรับตัวธุรกิจให้เชื่อมต่อระหว่างโลก Online กับ Offline เพื่อสร้างความยั่งยืนในธุรกิจมากขึ้น เนื่องจากการการอยู่แค่บนโลกออนไลน์อย่างเดียวอาจเติบโตได้ลำบาก ซึ่ง Wongnai ก็คือหนึ่งในองค์กรออนไลน์ที่ปรับตัวไปในทิศทางนี้
ไม่ว่าจะเป็นการร่วมมือกับ LINE เพื่อให้บริการ LINE MAN ในส่วนบริการส่งอาหาร, บริการจองโรงแรมภายใต้ Wongnai Travel, บริการซื้อดีลความสวยความงามต่างๆ ของ Wongnai Beauty และล่าสุดกับการต่อยอดธุรกิจ Wongnai Cooking ด้วยการเปิดตัว Co-Cooking Space หรือพื้นที่กลางสำหรับการทำอาหาร
“Wongnai ต้องการยกระดับทุกบริการให้ลึกขึ้น ซึ่งการทำ O2O คือคำตอบ เพราะก่อนหน้านี้คนที่ใช้เราก็จะได้แต่ข้อมูล พอมีอะไรที่เชื่อมต่อระหว่าง Online กับ Offline ได้มันก็สร้างประโยชน์ให้กับผู้ใช้อีกขั้น ซึ่ง Co-Cooking Space ของเราก็เป็นอีกตัวที่ทำให้มันเกิดขึ้นได้” ยอด ชินสุภัคกุล ประธานเจ้าหน้าที่บริหาร Wongnai กล่าว
ตอบโจทย์ยุคที่การทำอาหารเป็น New Hobby
สำหรับ Co-Cooking Space ของ Wongnai ตั้งอยู่ที่ True Digital Park เปิดให้ผู้สนใจเข้ามาใช้งานเครื่องครัวต่างๆ เพื่อประกอบอาหาร รวมถึงนำสูตรอาหารกว่า 15,000 สูตรบน Wongnai Cooking มาสอนโดยเชฟผู้เชี่ยวชาญทุกวัน ถือเป็นการเชื่อมต่อเนื่องหาระหว่างโลก Online กับ Offline ได้จริง
ขณะเดียวกันด้วยการทำอาหารนั้นยกระดับจากสิ่งที่ใครๆ ก็ไม่อยากยุ่ง มาเป็นงานอดิเรกของคนรุ่นใหม่ สังเกตจากสื่อต่างๆ ที่เริ่มเผยแพร่การทำอาหารในลักษณะรายการบันเทิง หรือการถ่ายรูปอาหารที่ทำแล้วโพสต์ลงใน Social Media ก็กลายเป็นความภูมิใจของพวกเขา
“การทำอาหารกลายเป็น New Hobby ของหลายคนในตอนนี้ แต่จะให้ซื้อเตาอบ หรืออุปกรณ์ทำครัวแพงๆ มาใช้ก็คงไม่ใช่เรื่องดีนัก ยิ่งการใช้ชีวิตคนเมืองในตอนนี้ที่เริ่มอยู่ในพื้นที่จำกัดของคอนโดมิเนียม การมีพื้นที่ทำครัวที่มีอุปกรณ์ครบให้พวกเขาได้ใช้ก็น่าจะเป็นอีกโอกาสธุรกิจที่ทำได้” ยอด เสริม
อนาคตของ Wongnai ที่เติบโตด้วย O2O
ทั้งนี้ทาง Wongnai วางเป้าหมายของ Co-Cooking Space ไว้ที่การมีผู้ใช้งานหลักพันคน/เดือนในเบื้องต้น เพราะตัวอุปกรณ์ทำครัวนั้นรองรับสูงสุดแค่ 32 คน/ครั้งเท่านั้น และมีแนวโน้มที่จะเปิด Co-Cooking Space แห่งใหม่เช่นกันหากผลตอบรับของที่แรกไปในทิศทางที่ดี
ในทางกลับกันเมื่อมองไปที่กลยุทธ์ O2O นั้น Wongnai มีเป้าหมายเพิ่มรายได้ฝั่ง O2O ให้เป็น 60% และที่เหลือเป็นรายได้จากโฆษณา จากปัจจุบันที่รายได้จากโฆษณาคิดเป็น 80% ของทั้งหมด แต่ถึงสัดส่วนรายได้โฆษณาจะลดลง ตัวภาพรวมเม็ดเงินก็ยังเติบโตขึ้นตลอด เพียงแต่ฝั่ง O2O มีมูลค่าที่มากกว่า
“ตอนนี้ Wongnai มีผู้ใช้งานทั้งหมด 10 ล้านคน/เดือน เติบโต 50% จากปีก่อน และนอกจากจะคงการเติบโตของผู้ใช้ เราก็จะเพิ่มอะไรให้พวกเขาใช้งานถี่ขึ้นกว่าเดิมด้วย ซึ่ง O2O หรือการทำให้เกิด Transaction อะไรบางอย่างมันช่วยให้ธุรกิจเติบโตได้มาก และพิสูจน์แล้วว่ามันสำเร็จได้จริงจากบริษัทอื่นๆ ในระดับโลก” ยอด ทิ้งท้าย
สรุป
O2O เป็นคำตอบของบริษัทเทคโนโลยี เพราะการเชื่อมต่อผู้บริโภคจาก Online ไป Offline ทำให้เกิดสิ่งใหม่ๆ ได้มหาศาล ซึ่ง Wongnai ก็เดินทางนี้มาระยะหนึ่งแล้ว และเชื่อว่าหลังจากนี้จะเข้มข้นมากขึ้น เพราะการแข่งขันของธุรกิจออนไลน์นั้นไม่หยุดนิ่ง และมีผู้เล่นรายใหม่เกิดขึ้นตลอดเวลา
ติดตามข่าวสารจาก Brand Inside ได้จาก Facebook ของเรา