ภาคต่อค้าปลีกอเมริกาล่มสลาย “ผู้หญิง” คือแรงงานที่ตกงานมากที่สุด

ปี 2017 เป็นอีกหนึ่งปีมหาโหดของวงการค้าปลีก หลายแบรนด์ทยอยปิดตัวลงไปอย่างต่อเนื่อง และเมื่อเปิดดูสถิติการตกงาน พบว่า ผู้หญิงตกงานมากกว่าผู้ชาย ทั้งๆ ที่ก่อนหน้านี้เทรนด์จะกลับกันคือ ฝ่ายได้รับผลกระทบก่อนจะเป็นผู้ชาย

Shutterstock.com

ค้าปลีกปิดตัว ทำผู้หญิงตกงานมากกว่าผู้ชาย

ท่ามกลางกระแสการทยอยปิดตัวของค้าปลีกในสหรัฐอเมริกาตลอดปี 2017 หน้าร้านที่ปิดตัวลงไปหลักพันในห้างสรรพสินค้าของแบรนด์ต่างๆ ทั่วประเทศ ส่งผลให้พนักงานย่อยตกงานไปโดยปริยาย

ถ้านับตามสำนักงานสถิติแรงงานของสหรัฐอเมริกา ตั้งแต่เดือนตุลาคมปี 2016 จนถึงปี 2017 มีพนักงานในอุตสาหกรรมค้าปลีกของสหรัฐอเมริกาตกงานไปแล้วทั้งหมด 54,300 งาน (แต่ละงานมีหลายตำแหน่ง) แต่ถ้านับเป็นรายคนแบ่งตามเพศ (Sexuality) ปรากฏว่าผู้หญิงตกงานมากกว่าผู้ชาย เนื่องจากผู้หญิงตกงานทั้งหมด 160,300 คน ส่วนผู้ชายตกงานทั้งหมดประมาณ 106,000 คน

ประเด็นก็คือ ถ้าย้อนกลับดูก่อนหน้านี้ เทรนด์การตกงานในอุตสาหกรรมค้าปลีก ผู้ชายจะเป็นฝ่ายตกงานก่อนผู้หญิง ไม่ว่าจะย้อนไป 10 ปีให้หลังอย่างในปี 2007 หรือขยับเข้ามาในปี 2010 เทรนด์การตกงานในอุตสาหกรรมนี้ ผู้ชายจะไปก่อน แต่ในปัจจุบันช่วงปี 2016 – 2017 เทรนด์กลับกลายเป็นว่าผู้หญิงเป็นฝ่ายตกงานก่อน และที่สำคัญยังตกงานในจำนวนที่มากกว่าเสียด้วย คำถามคือ อะไรทำให้เป็นเช่นนี้?

Shutterstock.com

ภูมิทัศน์โลกค้าปลีกที่เปลี่ยนไป ทำผู้หญิงตกที่นั่งลำบาก

คำตอบแรกคือ ร้านค้าในสหรัฐอเมริกายุคหลังมานี้ นิยมขายสินค้าประเภททนทาน (durable goods) มากขึ้น เช่น เครื่องใช้ภายในบ้านและอุปกรณ์ซ่อมแซมบ้าน ส่วนสินค้าจำพวกเสื้อผ้าและเครื่องสำอางก็ลดปริมาณลง เพราะเอาไปขายอยู่บนออนไลน์ที่ซื้อง่าย-ขายคล่องมากกว่า การเปลี่ยนประเภทสินค้า ทำให้ผู้ประกอบการมองว่าต้องจ้างผู้ชายมาทำงานมากกว่าผู้หญิง

คำตอบที่สองคือ โดยปกติผู้หญิงมักจะมีสัดส่วนที่ทำงานในห้างค้าปลีกแบบพาร์ทไทม์มากกว่าผู้ชาย ด้วยเหตุผลหลักๆ คือต้องแบ่งเวลาส่วนหนึ่งไว้ดูแลครอบครัวและกิจการในบ้าน เพราะฉะนั้น ผู้หญิงส่วนใหญ่จึงรับงานที่ยืดหยุ่นได้ ไม่ต้องดูแลทั้งวัน เช่น งานแคชเชียร์ที่คิดเงินลูกค้าเป็นช่วงเวลาไป แต่ปัญหาคือ สมัยนี้เครื่องคิดเงินด้วยตนเอง (self-checkout register) ถูกนำมาใช้ในห้างร้านค้าปลีกจำนวนมากขึ้นเรื่อยๆ ดังนั้น ผู้หญิงที่ทำงานในข่ายนี้ก็ต้องตกงานไปอย่างหลีกเลี่ยงไม่ได้

  • ความแตกต่างทางเพศยังคงเป็นปัญหาใหญ่ในทุกสังคม ไม่ใช่เฉพาะในสหรัฐอเมริกา เพราะหลายประเทศ เมื่อมีการสำรวจว่าใครคือคนที่คุมปริมาณการใช้จ่ายในครัวเรือนได้ดีกว่ากัน ผู้หญิงมักเป็นฝ่ายที่ทำได้ดีกว่าเสมอ และในท้ายที่สุดแล้ว กระแสการตกงานของเพศหญิงที่สูงกว่าเพศชายจึงเป็นผลร้ายต่อทั้งสังคม

ที่มา – QUARTZ

ติดตามข่าวสารจาก Brand Inside ได้จาก Facebook ของเรา