อีกหนึ่งโดมิโน่ค้าปลีก Winn-Dixie เตรียมปิด 200 สาขา เซ่น Amazon บุก Grocery

วงการค้าปลีกในสหรัฐฯ ช่วงไม่กี่ปีที่ผ่านมาเปลี่ยนแปลงเร็วมาก ใครตามพฤติกรรมผู้บริโภคไม่ทันก็ต้องหายไป ยิ่ง Amazon เข้ามาลุยด้วยก็ยิ่งไปกันใหญ่ ซึ่งเหยื่อรายต่อไปก็คือ Winn-Dixie ที่เป็นค้าปลีกเบอร์ต้นๆ ในภาคใต้

ภาพจาก Facebook ของ Winn-Dixie

ปิด 200 สาขา หลังบริษัทแม่ยื่นล้มละลาย

ร้าน Winn-Dixie เป็นอีกค้าปลีกที่เก่าแก่ของสหรัฐอเมริกา เพราะเปิดมาตั้งแต่ปี 2468 หรือกว่า 90 ปีมาแล้ว โดยแข็งแกร่งในภาคใต้ของที่นั้น ผ่านสาขากว่า 500 แห่ง และมากที่สุดจะอยู่ในรัฐฟลอริดา แต่ถึงจะเปิดมานาน และมีมาก ก็ใช่ว่าจะประสบความสำเร็จในระยะยาว

เพราะเมื่อปี 2548 และ 2552 ทางร้าน Winn-Dixie ได้ยื่นขอล้มละลายมาแล้ว เพราะไม่สามารถแข่งกับผู้เล่นรายใหญ่ๆ ในตลาดได้ จนต้องถูกบริษัท Bi-Lo ซื้อกิจการไปเมื่อปี 2555 และก็เหมือนเคราะห์ซ้ำ เนื่องจากปัจจุบันมีผู้เล่นรายใหม่เข้ามานั่นคือ Amazon ทำให้บริษัทแม่ที่ซื้อกิจการไปต้องยื่นล้มละลายอีกรอบในเดือนมี.ค.

เหตุการณ์นี้ส่งผลให้ Winn-Dixie เตรียมทยอยปิดสาขา 200 แห่งไล่ตั้งแต่ตอนนี้จนถึงการยื่นล้มละลายของบริษัทแม่เสร็จสิ้นถือว่าเป็นเหตุการณ์เขย่าวงการค้าปลีกอีกรอบ หลัง Amazon เข้าซื้อกิจการ Whole Foods Market ในปี 2560 จนทำให้อุตสาหกรรมค้าปลีกไม่เหมือนเดิมอีกต่อไป

ทั้งนี้เหตุที่ Winn-Dixie ไม่สามารถแข่งขันในตลาดได้ก็คือการเข้ามาของคู่แข่งต่างประเทศเช่น Aldi และ Lidl ที่ทำตลาดร้านขายสิินค้าในราคาถูกเป็นพิเศษ นอกจากนี้ Winn-Dixie ไม่ได้มีงบประมาณในการลงทุนบุก E-Commerce เหมือนกับ Walmart จึงไม่แปลกที่ต้องลดขนาดของธุรกิจลง

สรุป

เชื่อว่าค้าปลีกในสหรัฐฯ หลังจากนี้น่าจะมีความดุเดือดมากกว่าเดิม และคงเหลือผู้เล่นเพียงไม่กี่รายที่จะอยู่ในตลาดนี้ได้อย่างยั่งยืน เพราะถึงจะปรับตัวขนาดไหนก็คงสู้แรงทุน Amazon กับยักษ์ใหญ่ในตลาดนี้รายเดิมได้ ส่วนเรื่องนี้จะเข้ามาเกิดขึ้นในไทยเมื่อไรนั้น คงต้องรออีกสักพัก

อ้างอิง // Business Insider

ติดตามข่าวสารจาก Brand Inside ได้จาก Facebook ของเรา