สิ้นสุดการรอคอย เพราะวันนี้ประเทศไทยมี ‘Wingstop’ เป็นของตัวเองแล้ว!

Wingstop คือแบรนด์ไก่ทอดจุ่มซอสชื่อดังที่มีสาขาทั่วโลกมากกว่า 3,000 แห่งใน 18 ประเทศ โดยมีจุดกำเนิดที่สหรัฐอเมริกาในปี 1994
จุดเด่นของ Wingstop คือรสชาติและซอสดิป เพราะมีให้เลือกหลากหลาย แถมคอนเทนต์คนกินไก่ทอดแบรนด์นี้ยังกลายเป็นไวรัลหลายต่อหลายครั้ง จนคนรุ่นใหม่ในไทยอดเรียกร้องไม่ได้ว่า “เมื่อไรจะมาเปิดที่ไทยเสียที?”
ในที่สุด คำขอนี้ก็ถูกตอบรับแล้ว เพราะ ‘บริษัท เอส แอนด์ พี วิงส์’ ซึ่งเป็นบริษัทย่อยในเครือ ‘S&P’ เป็นคนติดต่อซื้อแฟรนไชส์ Wingstop มาเปิดในไทยอย่างเป็นทางการ โดยมี ‘เนม-ปราการ ไรวา’ หรือ ‘เนม Getsunova’ ผู้เป็นทายาทนำทัพบริหารแบรนด์
เอาจริงๆ แค่ Wingstop ประกาศเปิดตัวในไทย ก็สร้างกระแสในหมู่คนรุ่นใหม่ไม่น้อยแล้ว แต่ข่าวดีกว่านั้นคือ ‘เนม’ เผยว่า ภายในปี 2026 บริษัทจะเปิดสาขาเพิ่มอีก 5-6 แห่ง รวมเป็น 7 สาขา โดยอยากโฟกัสในกรุงเทพมหานครก่อน และตั้งเป้าว่าจะทำรายได้ถึง 100 ล้านบาทในปีหน้า
สำหรับสาขาแรกที่เปิดไปเมื่อวันที่ 13 ธันวาคม 2025 ที่ MBK Center ก็มาพร้อมกับไก่ทอด 9 รสชาติ ไล่ไปตามระดับความเผ็ด โดยให้บริการตั้งแต่ 10:00 น. – 02:00 น. เอาใจคนรุ่นใหม่สายกินดึก
เพราะอะไร Wingstop ถึงเป็นที่ต้องการในหมู่คนรุ่นใหม่ และ S&P คิดอะไรอยู่ถึงเลือกแบรนด์นี้มาขายในไทย? มาดูกัน
เป็นแบรนด์วัยรุ่นในแบบที่ไทยยังไม่เคยมีมาก่อน

ในบรรดา 18 ประเทศนั้น ไทยถือเป็นประเทศที่ 5 ของเอเชียที่นำแบรนด์นี้เข้ามา ซึ่งเนมเล่าว่า หลักๆ แล้ว บริษัทเลือกซื้อแฟรนไชส์ Wingstop ก็เพราะ 5 เหตุผลคือ
- คาแรกเตอร์น่าสนใจ: Wingstop เป็นแบรนด์ที่วัยรุ่นมากๆ และเนมมองว่า ในไทยยังไม่มีแบรนด์ที่เป็นของคนรุ่นใหม่อย่างแท้จริงเช่นนี้เลย
- เป็นแบรนด์ที่ประสบความสำเร็จและไวรัลทั่วโลก: Wingstop เคยไปสร้างความไวรัลในหลายประเทศที่เปิดสาขาใหม่มาแล้ว อย่างที่ซิดนีย์ ออสเตรเลีย ก็มีคนมาต่อคิว 1,000 คิวทุกวันติดต่อกันเป็นเวลา 1 เดือน
- ปรัชญาแบรนด์ลึกซึ้ง: Wingstop ยึดถือในแนวคิดที่ว่า “We’re not in the wings business. We’re in the flavor business.” หรือ “เราไม่ใช่ธุรกิจไก่ทอด แต่เป็นธุรกิจแห่งรสชาติ” และคำว่ารสชาติในที่นี้ ไม่ใช่แค่ของอาหารเท่านั้น แต่รวมถึงรสชาติ ‘ชีวิต’ ที่แตกต่างกันไป เหมือนกับความหลากหลายของรสชาติไก่ทอด
- เป้าหมายแบรนด์ที่ยิ่งใหญ่: เป้าหมายของ Wingstop ทั่วโลกคืออยากให้ชีวิตประจำวันของทุกคนมีเรื่องพิเศษเสมอ ซึ่งทางแบรนด์ก็ขอเป็นส่วนหนึ่ง ด้วยการส่งเสริมประสบการณ์ลูกค้าที่เข้ามาทานในร้าน ผ่านสไตล์การตกแต่งและบรรยากาศที่ไม่เหมือนร้านอาหารบริการด่วน (QSR) ทั่วไป
- การสร้างสรรค์รสชาติที่เชื่อมกับวัฒนธรรม: Wingstop ไม่ใช่แค่แบรนด์ไก่ทอด แต่เป็นตัวตนที่สามารถนำไปเชื่อมต่อกับวัฒนธรรมของคนรุ่นใหม่ได้อย่างหลากหลาย อาทิ กีฬา เกม ภาพยนตร์ และแฟชั่น
ตลาดไก่ทอดคึกคัก เชื่อว่า Wingstop มีจุดขายสู้ในตลาดได้

ขณะเดียวกัน หากมองในภาพรวมตลาด ปัจจุบัน มูลค่า ‘ตลาดไก่ทอด’ ในไทยอยู่ที่ประมาณ 3 หมื่นล้านบาท แถมยังมีเจ้าใหญ่อยู่ด้วย ทำให้อดสงสัยไม่ได้ว่า S&P คิดอะไรอยู่ถึงลงมาเล่นในตลาดนี้?
เนมกล่าวว่า S&P เป็นบริษัทที่อยู่มานานถึง 50 ปี และมีทีมงานที่เหนียวแน่น แต่สิ่งที่บริษัทต้องการคือกลุ่มลูกค้าใหม่ๆ ซึ่งเขามองว่า Wingstop เป็นแบรนด์ที่แข็งแรงมาก พร้อมขยายฐานลูกค้าให้องค์กร
นอกจากนี้ Wingstop ก็ไม่ใช่แค่แบรนด์ไก่ทอดทั่วไปที่คนไทยคุ้นเคย แต่มีเอกลักษณ์เป็นของตัวเอง โดยฝั่งสหรัฐฯ ยังเคลมว่าเป็นแบรนด์ไก่ทอดจุ่มซอสเจ้าแรกของโลกด้วย
“ตลาดเราควบคุมไม่ได้อยู่แล้วว่าตลาดมันจะเป็นยังไง แต่ตลาดไก่ทอด ผมเชื่อว่าในเมืองไทยมันคึกคักมากๆ อยู่แล้ว แต่สิ่งที่เรามองว่า Wingstop แตกต่างจากคนอื่นคือ เรา Made-to-Order คือทำแบบสดใหม่ มันเป็น Quick Service Restaurant ก็จริง แต่เป็นเซอร์วิสที่ Cook for You ไม่ได้ทำไว้ก่อน คือเราเฟรชสำหรับทุกคน ซึ่งอันนี้คือจุดแตกต่าง แล้วอีกอย่างนึงคือ ซอสที่มันยกระดับความอร่อย ความนัวของไก่ในแต่ละรสชาติที่ไม่เหมือนใครอยู่แล้ว บวกกับแบรนด์ดิ้งที่แข็งแรงมากๆ” เนมกล่าว
เจาะตลาดคนไทย โดยเฉพาะ Gen Z

แม้ว่า Wingstop จะเป็นแบรนด์ระดับโลกที่มีฐานลูกค้าหลากหลายเชื้อชาติ แต่ ‘แก๊ป-ศิวกร เบญจราชจารุนันท์’ ผู้จัดการทั่วไปของ Wingstop ประเทศไทย เผยว่า ทางบริษัทต้องการสัดส่วนลูกค้าคนไทย 70% ขณะที่นักท่องเที่ยวอยู่ที่ 30% โดยอาจต้องขึ้นอยู่กับโลเคชันด้วยว่าละแวกไหน มีลูกค้ากลุ่มใดมากกว่า
นอกจากนั้น เนมยังบอกอีกว่า บริษัทแม่ของ Wingstop ก็ให้ความสำคัญกับการ ‘Localization’ เช่นกัน ส่งผลให้เกิดเป็น 4 กลยุทธ์สำหรับสาขาในไทย ได้แก่
- ทำความเข้าใจคนรุ่นใหม่
เนื่องจากกลุ่มเป้าหมายหลักของ Wingstop คือ Gen Z ทางแบรนด์จึงเข้าไปศึกษาผู้บริโภคกลุ่มนี้อย่างจริงจัง ตั้งแต่ก่อนเปิดตัว ผ่านการร่วมมือกับนักศึกษามหาวิทยาลัยธรรมศาสตร์ คณะสถาปัตยกรรมศาสตร์และการผังเมือง เพื่อเรียนรู้พฤติกรรม รวมถึงความคิด ไปจนถึงวัฒนธรรมของคนรุ่นใหม่
- รสชาติหลากหลาย เอาใจคนไทย
ปกติแล้ว Wingstop จะมีรสชาติหลักประจำแบรนด์อยู่ 6 รสชาติ โดยแต่ละประเทศสามารถเลือกสรรรสอื่นๆ เข้ามาขายเพิ่มตามรสนิยมคนในพื้นที่ได้ ซึ่งอย่างของไทยเองก็มีรสชาติเพิ่มเข้ามาอีก 3 รส คือ Atomic Blast, Inferno กับ Hot Honey Rub ที่การันตีความเผ็ดร้อน ถูกปากคนไทย
- ระบบที่ได้มาตรฐานเหมือนกันทั่วโลก
‘แก๊ป’ เชื่อว่า ระบบหลังบ้านก็สำคัญไม่แพ้หน้าบ้านเลย ส่งผลให้พนักงานทุกคนได้รับการเทรนโดยทีมงาน Wingstop จากสหรัฐฯ และสิงคโปร์นานถึง 2 เดือน ซึ่งบุคลากรที่ผ่านการอบรมแต่ละกระบวนการ จะมีเข็มกลัดการันตีติดตัวไว้ด้วย
- ทำแบรนด์และการตลาดเจาะใจ Gen Z
เพื่อให้ Wingstop เติบโตเป็นส่วนหนึ่งของคนรุ่นใหม่ แบรนด์จึงตั้งใจทำการตลาดที่โดดเด่นให้ตรงกับวัฒนธรรมของคนกลุ่มนี้โดยเฉพาะ ซึ่งแก๊ปเผยว่า Gen Z ไม่ใช่แค่อายุ แต่หมายถึงความเป็นตัวของตัวเอง ที่ไม่จำเป็นต้องเหมือนกัน และแบรนด์ก็ต้องทำความเข้าใจพวกเขาให้ได้
ในส่วนของกลยุทธ์การเลือกทำเลที่ตั้งสาขานั้น แก๊ปบอกว่า ต้องเป็นโลเคชันที่มีคนสัญจรผ่านไปมาเยอะ มองเห็นได้ง่าย มีขนาดพื้นที่รองรับกับการดำเนินงานราวๆ 150-250 ตารางเมตร และที่สำคัญคือต้องเป็นสถานที่ที่เหมาะกับ Gen Z
สำหรับอนาคต เนมมีเป้าหมายว่าอยากให้ Wingstop เป็นแบรนด์ที่อยู่ใน “Top of Mind” ของ Gen Z หรือเอาง่ายๆ คือ หากนึกถึงร้านอาหารบริการด่วน พวกเขาก็ต้องคิดถึง Wingstop เป็นเจ้าแรก
Brand Inside มองว่า การที่ S&P ตัดสินใจลงมาเล่นในตลาดไก่ทอดและตั้งใจเจาะตลาดคนไทยรุ่นใหม่โดยเฉพาะ ถือเป็นกลยุทธ์ที่น่าสนใจมากทีเดียว เพราะปกติแล้ว หากพูดถึงบริษัทนี้ คนอาจมีภาพจำร้านอาหารครอบครัวมากกว่าการเป็นแหล่งแฮงเอาท์ของ Gen Z
ดังนั้น ในอนาคต Wingstop จะสามารถครองใจคนไทยรุ่นใหม่ไปได้ในระยะยาวหรือไม่? คงต้องติดตามกันต่อไป
- ย้อนประวัติ S&P จากร้านไอศกรีมเล็ก ๆ สู่ธุรกิจร้านอาหารอายุ 50 ปี รายได้กว่า 6,290 ล้านบาท
- เจ้าแห่งสลัดผัก ‘โอ้กะจู๋’ กำลังจะเปิดแบรนด์ใหม่ ขายไก่ทอดชื่อ JOE WINGS
ติดตามข่าวสารจาก Brand Inside ได้จาก Facebook ของเรา