เปิดเคล็ดลับความดัง #WHYRUtheseries อีกหนึ่งซีรีส์ Y ความสำเร็จจากนามปากกา Candy On

ซีรีส์ Y เรื่อง “Why R U The Series เพราะรักใช่เปล่า” เป็นซีรีส์ Y อีกหนึ่งเรื่องที่ได้รับความนิยมสูงในช่วงเดือนที่ผ่านมา ด้วยยอดการรับชมบนเว็บไซต์ LINE TV รวมกว่า 55 ล้านครั้ง เป็นกระแสทั้งในไทยและต่างประเทศ จนติดเทรนด์ในเว็บไซต์ Twitter อยู่ทุกสัปดาห์ที่ซีรีส์ออกอากาศ

ตามปกติซีรีส์ Y จะหยิบนิยายที่ได้รับความนิยมมาพัฒนาต่อยอด เพื่อให้แน่ใจระดับหนึ่งว่าจะได้รับความนิยม แต่สำหรับเรื่องนี้ คนที่ไม่ใช่สาวกซีรีส์ Y โดยตรงอาจจะไม่รู้ว่า Why R U The Series ทำเป็นซีรีส์และนิยาย ออกมาพร้อมๆ กันแต่แรก

Brand Inside ได้มีโอกาสคุยกับคุณอร เจ้าของนามปากกา Candy On ผู้เขียนนิยาย และบทให้กับซีรีส์ Y เรื่อง Why R U The Series เพื่อแบ่งปันประสบการณ์ แรงบันดาลใจต่างๆ กว่าจะกลายเป็นซีรีส์ Y ที่ครองใจผู้ชมได้เป็นอย่างดี

จิ้นศิลปินชาย คือจุดเริ่มต้นของการเขียน

คุณอรเล่าว่า ส่วนตัวยอมรับว่าเป็น สาว Y อยู่แล้ว ดังนั้นจุดเร่ิมต้นของการเป็นนักเขียนนิยาย Y จึงมาจากการ จิ้นศิลปินชายที่มีชื่อเสียง คู่หนึ่งจากนั้นก็นำเอาการจิ้น หรือ จินตนาการมาพัฒนาเป็นงานเขียนในช่วงปี 2012 จากงานอดิเรกที่ทำด้วยความสุข เผยแพร่ทางเว็บไซต์ Dek-D จนเริ่มมีคนรู้จัก และเขียนมาตลอด 8-9 ปีที่ผ่านมา

ผลงานที่มีชื่อเสียงทำให้นามปากกา Candy On กลายเป็นที่รู้จัก คือนิยายเรื่อง “My Shipper รักฟินๆ กับนายคู่จิ้นของผม” ซึ่งมียอดการอ่านกว่า 1 แสนครั้งบนเว็บไซต์อ่านนิยายออนไลน์ จากที่ก่อนหน้านี้ใช้นามปากกาเก่าแต่ยังไม่ค่อยมีผู้ติดตามมากเท่าไหร่

ส่วนผลงานล่าสุดที่กำลังได้รับความนิยมคงหนีไม่พ้นซีรีส์เรื่อง Why R U The Series ซึ่งจุดเด่น ดังที่กล่าวไปแล้วว่า เป็นซีรีส์​ Y ที่เริ่มจากการเขียนบทเพื่อนำไปทำเป็นซีรีส์ออกอากาศทางทีวี พร้อมๆ กับการเขียนนิยาย

สำหรับ Why R U The Series ได้มีส่วนร่วมในฐานะนักเขียนบท ได้แสดงความคิดเห็นในจุดต่างๆ เช่น การคัดเลือกนักแสดง เพื่อให้ผลงานออกมาใกล้เคียงกับภาพที่จินตนาการไว้ และได้คุยกับทางผู้ผลิตซีรีส์ เพื่อขอนำมาปรับปรุงเป็นนิยายด้วย

หลายคนอาจสงสัยว่านักเขียนนิยาย Y ได้แรงบันดาลใจการเขียนมาจากไหน ซึ่งคุณอรเล่าว่า ส่วนใหญ่แล้วใช้ทั้งจินตนาการของตัวเอง เรื่องราวของตัวเองและคนรอบข้าง มาเป็นแรงบันดาลใจในการเขียน โดยเฉพาะเรื่องราวความรักที่ดูน่ารัก กุ๊กกิ๊ก มีความดราม่า ก็จะหยิบมาเขียน และนำไปต่อยอด

เขียนนิยายเป็นงานอดิเรกที่ได้เงิน

คุณอรเล่าว่าตัวเองมีงานประจำเป็นพนักงานออฟฟิศที่เขียนนิยาย Y เป็นงานอดิเรกเท่านั้นไม่ได้ทำเป็นงานประจำแต่อย่างใด เท่ากับว่าการเขียนเป็น Passion ส่วนตัวล้วนๆ

และเมื่อสามารถเขียนนิยายจนได้รับความนิยม ก็เป็นโอกาสในการสร้างรายได้ไม่น้อย (รวมถึงโอกาสที่จะพัฒนาไปทำเป็นซีรีส์ และการออกไปทำตลาดต่างประเทศ) คุณอร บอกว่า รายได้อาจสูงจนสามารถทำเป็นอาชีพหลักได้

หากเขียนนิยายเพียงอย่างเดียว จะได้ส่วนแบ่งรายได้จากสำนักพิมพ์ ทั้งแบบเล่มและแบบ E-Book ซึ่งจะขึ้นกับจำนวนการตีพิมพ์และจำนวนที่ขายได้

ถ้าได้รับความนิยมมากจนมีการซื้อลิขสิทธิ์ไปทำซีรีส์ ก็มีโอกาสได้รายได้เพิ่มขึ้น อย่างการเขียนบทซีรีส์เรื่อง Why R U The Series เธอจะได้ค่าตอบแทนหลักแสนบาท ซึ่งในกรณีนี้เป็นการเขียนทั้งบท และตัวนิยายไปพร้อมๆ กัน

แน่นอนว่าถ้านิยาย Y เรื่องไหนได้รับความนิยมจนมีการหยิบไปแปลเป็นภาษาต่างประเทศ ก็มีโอกาสสร้างรายได้มากขึ้นอีก โดยภาษาที่มีการแปลมาก ได้แก่ จีน และ อังกฤษ

แต่การเขียนนิยาย Y ใช่ว่าจะได้รับความสนใจจนถูกผู้จัดซื้อไปทำเป็นซีรีส์ทุกเรื่อง เรื่องที่ได้รับความนิยม มีคนอ่านจำนวนมาก ก็มีโอกาสถูกซื้อลิขสิทธิ์ไปทำซีรีส์มากกว่า ซึ่งส่วนใหญ่จะเป็นนิยาย Feel Good ดูแล้วรู้สึกดี มีความสุข แต่ระยะหลังนิยาย Y ก็เริ่มสอดแทรกเนื้อหาดราม่า ความสัมพันธ์ในครอบครัวและสังคมมากขึ้น

กว่าจะเป็นนักเขียนที่ประสบความสำเร็จไม่ใช่เรื่องง่าย

เห็นตัวเลขรายได้สูงหลักแสนบาท แต่ไม่ได้หมายความว่าจะประสบความสำเร็จกันได้ง่ายๆ คุณอร เล่าว่า จุดเร่ิมต้นของการเขียนนิยาย Y ก็มีทั้งที่คนอ่านน้อยมาก เปิดพรีออเดอร์เพื่อพิมพ์นิยายเป็นเล่มมียอดไม่ถึง 20 เล่ม ขณะที่นักเขียนคนอื่นๆ อาจมียอดพรีออเดอร์หลักร้อยเล่ม

“หลายครั้งเราก็ถามตัวเองว่า เราควรเขียนต่อดีไหม รู้สึกเฟลเวลามีคนอ่านน้อย แต่สิ่งที่ทำให้ยังคงเขียนนิยาย Y ต่อมาจนประสบความสำเร็จในระดับหนึ่งได้ เพราะเราถามตัวเองว่า เราชอบมันแค่ไหน รักมันแค่ไหน”

หลายครั้งคุณอร ต้องต่อสู้กับความรู้สึกของตัวเองในการที่จะเขียนเรื่องราวใหม่ๆ หรือแม้แต่เขียนเรื่องเดิมที่ค้างอยู่ให้จบ ซึ่งเธอบอกว่า ใครที่อยากเป็นนักเขียนนิยาย Y ต้องมีความมุ่งมั่น ตั้งใจ ให้ความสนใจกับสิ่งที่รัก เดินหน้าต่อไปอย่าท้อถอย วันหนึ่งจะประสบความสำเร็จในเส้นทางของตัวเอง

ส่วนการจะวัดความสำเร็จของนิยาย Y อยู่ที่ยอดการอ่าน แต่ต้องไม่ลืมวัดความสำเร็จภายในตัวเองด้วย นี่คือผลงานที่ภาคภูมิใจ แต่ก็ต้องไม่ลืมว่าต้องเรียนรู้ ปรับปรุงให้ผลงานดียิ่งขึ้นไปเรื่อยๆ เพื่อยกระดับความสำเร็จขึ้นไปตามลำดับ

อีกส่วนสำคัญที่อยากบอกนักเขียนนิยายทุกคนคือ ให้ความสำคัญกับแฟนคลับที่ติดตามอ่านให้มากๆ กรณีส่วนตัวมีนิยาย Y ที่มีผู้ผลิตติดต่อขอซื้อลิขสิทธิ์จะทำซีรีส์ แต่สุดท้ายก็ไม่ได้ขายให้ เพราะทั้งตัวเองและแฟนคลับอยากเก็บนิยายไว้แบบนั้นมากกว่า ให้เป็นพื้นที่ของจินตนาการต่อไป

ภาพจาก Facebook: Why R U The Series TH

ความสำเร็จของ Why R U The Series

คุณอรเล่าว่า รู้สึกดีใจกับความสำเร็จของ Why R U The Series เพราะจุดเริ่มต้นของซีรีส์เรื่องนี้เริ่มจากติดลบ ไม่ค่อยมีคนสนใจมากสักเท่าไหร่ในระยะแรก แต่ทั้งตัวคุณอรเองทุ่มเทให้กับการเขียนบท รวมถึงผู้จัด นักแสดง และทีมงานทุกคน ช่วยกันทำอย่างดีที่สุด จนทำให้นิยายที่ติดลบกลายเป็นที่รู้จัก เธอจึงรู้สึกภูมิใจมากๆ ที่ได้เป็นส่วนสำคัญร่วมกับทีมงานในการสร้างซีรีส์เรื่องนี้ให้เกิดขึ้น

ยิ่งซีรีส์เรื่องนี้ได้รับความสนใจจากต่างชาติ จนมีการแปลเป็นภาษาต่างๆ เธอเล่าว่าซีรีส์ Y ของไทยเป็นเหมือนศูนย์กลางของโลก เพราะไทยเป็นประเทศที่เปิดกว้าง โดยเฉพาะที่ประเทศจีนที่อาจยังไม่เปิดรับซีรีส์ Y มากขนาดนั้น

อนาคตของวงการ Y ยังไปได้อีกไกล

พอถามอนาคตของวงการ Y ทั้งซีรีส์และนิยาย คุณอรยืนยันอย่างหนักแน่นว่า น่าจะไปได้ไกลกว่านี้ โดยเฉพาะหากเทียบกับเมื่อสิบกว่าปีก่อน ที่นิยาย Y ซีรีส์ Y และการ์ตูน Y ต้องหลบๆ ซ่อนๆ ไม่สามารถวางขายอย่างเปิดเผยเหมือนในปัจจุบัน

ตั้งแต่ปี 2015 เป็นต้นมา คนเปิดกว้างมากขึ้น สามารถหาซื้อหนังสือนิยาย Y ได้จากร้านหนังสือทั่วไป มีซีรีส์ Y ออกอากาศทางทีวี กระแส Y จะไปได้ไกลกว่านี้ รวมถึงเป็นการแสดงถึงความหลากหลายทางเพศ ดังนั้นอนาคตซีรีส์ Y จะเหมือนซีรีส์ชาย-หญิงเรื่องอื่นๆ เป็นเรื่องราวที่บอกเล่าเกี่ยวกับความรัก สอดแทรกเนื้อหาสาระโดยไม่จำเป็นต้องแยกความเป็น Y หรือชาย-หญิง อีกต่อไป

ติดตามข่าวสารจาก Brand Inside ได้จาก Facebook ของเรา