จากเดือนละเกือบ 600,000 คน เหลือแค่เดือนละ 300,000 คนเท่านั้น เรียกว่าปรากฎการณ์ ‘นักท่องเที่ยวจีน’ หายคราวนี้ร้ายแรงกว่าที่หลายคนคาด
อย่างแรกก่อนจะไปถึงคำถามว่า ทำไมถึงเป็นแบบนั้น เราอยากชวนทุกคนมาดูก่อนว่า ‘นักท่องเที่ยวจีน’ ที่บอกว่าวูบหาย หายไปมากน้อยแค่ไหนในช่วงที่ผ่านมา
- ปลายปีที่แล้ว ไทยมีนักท่องเที่ยวจีนประมาณ 560,000 คนต่อเดือน
- หลังตรุษจีนเดือนมกาคมของปีนี้ ไทยมีนักท่องเที่ยวจีนเหลือไม่ถึง 300,000 คนต่อเดือน
เรียกว่าจากที่ฟื้นตัวมาได้ 60-70% ของช่วงก่อนโควิด ตอนนี้จำนวนนักท่องเที่ยวจีนในไทยดิ่งกลับลงไปเหลือแค่ 30% ของช่วงก่อนโควิดเท่านั้น
นักท่องเที่ยวจีนหาย คาดดึงท่องเที่ยวไทยวูบ ทั้งจำนวนและรายได้
แล้วทำไมเรื่องนี้ถึงทำให้หลายคนตกใจนักหนา สาเหตุก็เพราะว่าก่อนโควิด-19 ในปี 2019 ประเทศไทยมีนักท่องเที่ยวจีนเดินทางเข้าสู่ประเทศไทยเกือบ 10 ล้านคน คิดเป็น 1 ใน 4 ของนักท่องเที่ยวต่างชาติที่เดินทางเข้าสู่ประเทศไทยทั้งหมด
ยิ่งไปกว่านั้นนักท่องเที่ยวจีนยังสร้างรายได้ทางการท่องเที่ยวให้ไทยราว 5 แสนล้านบาท คิดเป็นสัดส่วนเกือบ 30% ของรายได้ทางการท่องเที่ยวที่ไทยได้จากนักท่องเที่ยวต่างชาติ
เมื่อนักท่องเที่ยวจีนวูบหายไปกว่าครึ่ง พร้อมๆ กันกับนักท่องเที่ยวสัญชาติที่ติด TOP5 เที่ยวไทยเยอะที่สุด เช่นเดียวกันอย่าง ‘เกาหลีใต้’ และ ‘มาเลเซีย’ มาเที่ยวไทยน้อยลง
จึงเป็นครั้งแรกในรอบหลายปีที่ประเทศไทยมีจำนวนนักท่องเที่ยวลดลงเมื่อเทียบกับปีก่อนหน้า ถึงหลายคนรวมถึงรัฐมนตรีท่องเที่ยวฯ จะบอกว่าไม่เป็นไร ยังไงรายได้ทางการท่องเที่ยวเราก็ยังเติบโตอยู่ แต่จากการคาดการณ์ของ KResearch ระบุว่า จบปีนี้ ท่องเที่ยวไทย น่าจะเผชิญกับสถานการณ์ ‘ลดลง’ ทั้งจำนวนและรายได้
ดังนั้น ไม่ว่าจะชอบหรือไม่ชอบนักท่องเที่ยวจีนหรือคนจีนยังไงก็ไม่อาจปฏิเสธได้ว่า ‘นักท่องเที่ยวจีน’ เป็นอีกหนึ่งปัจจัยสำคัญที่มีผลต่อรายได้ทางการท่องเที่ยวไทย โดยเฉพาะอย่างยิ่งในห้วงเวลาที่เครื่องยนต์เศรษฐกิจสำคัญอย่างท่องเที่ยวไทยใกล้จะดับ…
เพื่อตอบคำถามว่า นักท่องเที่ยวจีนหายไปไหน ทำไมถึงไม่มาไทยแล้ว จะหายไปตลอดไปไหม หรือเป็นแค่เรื่องชั่วคราว Brand Inside จึงสรุปเหตุผลจากรายงานของ KKP Research มาให้อ่านกัน
อย่างแรก เศรษฐกิจไม่ดี รัฐบาลจีนหนุนเที่ยวในประเทศ
เหตุผลแรกเลยที่ทำให้นักท่องเที่ยวจีนหายไปจากไทย คือ จนถึงตอนนี้แล้วนักท่องเที่ยวจีนก็ยังไม่ฟื้นตัวเท่าก่อนโควิด เพราะเศรษฐกิจจีนชะลอตัวลง และรัฐบาลจีนก็หันไปส่งเสริมให้คนจีนเที่ยวภายในประเทศ เพื่อเป็นเครื่องยนต์เศรษฐกิจให้กับประเทศจีนเอง
ดูจากตัวเลขจะเห็นว่าตอนนี้นักท่องเที่ยวจีนที่ออกไปเที่ยวต่างประเทศฟื้นตัวแค่ 86.5% ของนักท่องเที่ยวก่อนโควิด สวนทางกับนักท่องเที่ยวที่เที่ยวในประเทศที่ฟื้นตัว 93.6% แล้ว
อย่างสอง เลิกเที่ยวเป็นทัวร์ หันเที่ยวเอง
อีกเหตุผล คือ นักท่องเที่ยวจีนเปลี่ยนจากเที่ยวแบบเป็น ‘กรุ๊ปทัวร์’ มาเป็นนักท่องเที่ยว ‘อิสระ’ มากขึ้น แถมกลุ่มที่เน้นเที่ยวแบบทัวร์ก็ยังคงไม่ฟื้น (กลับมาแค่ 33% จากก่อนโควิด) พอหันไปเที่ยวแบบอิสระมากขึ้นแล้ว ‘ราคา’ ที่เคยเป็นปัจจัยหลักในการตัดสินใจก็สำคัญน้อยลง
ทำให้ประเทศไทยที่ปกติแล้วมีนักท่องเที่ยวจีนเป็นกรุ๊ปทัวร์มากถึง 40% ของนักท่องเที่ยวจีนทั้งหมดได้รับผลกระทบจากการเปลี่ยนแปลงพฤติกรรมนี้
อย่างสามและสำคัญ ไทยดูไม่ปลอดภัย
เมื่อดูจากเหตุผลสองข้อแรก ประเทศที่ได้รับผลกระทบจากนักท่องเที่ยวจีนหายไปจะต้องไม่ใช่แค่ไทยรึเปล่า แต่ข้อมูลของ KKP Research บอกว่า เที่ยวบินขาออกจากจีนทยอยฟื้นตัวในเดือนมีนาคม แต่เที่ยวบินขาเข้ามาสู่ไทยกลับยังลดลงต่อเนื่อง สวนทางกับเที่ยวบินขาเข้าญี่ปุ่น เกาหลีใต้ เวียดนาม และมาเลเซียที่เพิ่มขึ้น
นั่นเป็นเพราะประเด็นเรื่อง ‘ความปลอดภัย’ ของประเทศไทยในสายตานักท่องเที่ยวจีน หลังเหตุการณ์ลักพาตัวดาราจีนในช่วงต้นปี การปราบปรามธุรกิจสีเทา บวกกับเหตุแผ่นดินไหว ที่ส่งผลต่อจิตใจนักท่องเที่ยวอย่างหนัก
ทำให้ผลโพลของ Dragon Trail International ระบุว่า นักท่องเที่ยวจีนเกินครึ่งมองว่าประเทศไทยไม่ปลอดภัย (จากปลายปีที่แล้วมีแค่ 38% ที่มองว่าไทยไม่ปลอดภัย)
และอีกหนึ่งเหตุผล คือ นักท่องเที่ยวจีนหลายคนเคยมาเที่ยวไทยแล้ว กลุ่มนักท่องเที่ยวอิสระเองก็ต้องเตรียมตัววางแผนเที่ยวเอง ทำให้การมาเที่ยวซ้ำอีกต้องใช้เวลา ส่วนที่เกิดเพราะเหตุนี้จึงเป็นไปได้ว่าจะปรับตัวดีขึ้นในช่วงครึ่งปีหลังก็ได้
ระยะสั้น = ไม่ ส่วนระยะยาว = ยาก
กลับมาสู่คำถามสำคัญที่ว่า “นักท่องเที่ยวจีนจะกลับมาเที่ยวไทยเร็วๆ นี้ไหม” ทาง KKP Research บอกว่า “ในระยะสั้นคงเป็นไปได้ยาก” ที่นักท่องเที่ยวจีนจะกลับมาเที่ยวไทยอย่างในอดีตอีก
ถ้าปัจจัยเชิงโครงสร้าง โดยเฉพาะ “ความปลอดภัย” ไม่ถูกแก้ไข ขณะที่จะบอกให้หวังพึ่งพานักท่องเที่ยวชาติอื่นแทนจีนให้ชดเชยในระยะสั้นก็เป็นไปได้ยากเหมือนกัน เพราะจำนวนและรายได้ต่างสูงมาก
แต่ระยะยาวอาจมี ‘บางประเทศ’ ที่มีโอกาสเติบโตขึ้นมาทดแทนได้บางส่วน อย่างนักท่องเที่ยวยุโรปและนักท่องเที่ยวเอเชียใต้ โดยเฉพาะอินเดียที่เศรษฐกิจเติบโตแกร่งในช่วงปลายปีหลัง เพราะนักท่องเที่ยวยุโรปและเอเชียใต้ในช่วง 4 เดือนแรกของปีนี้ฟื้นตัวมากถึง 120% ของช่วงเดียวกันในปี 2019 แถมยังคิดเป็น 1 ใน 3 นักท่องเที่ยวที่มาไทยในปีที่ผ่านมา
ถ้าอยากเปลี่ยนตลาด ไทยก็ต้องปรับเหมือนกัน
โดย KKP Research บอกว่า ฤดูกาลท่องเที่ยวของ 2 ภูมิภาคถือว่าชดเชยจีนได้พอสมควร แต่มีพฤติกรรมแตกต่างจากนักท่องเที่ยวจีนค่อนข้างมาก ในแง่ ‘พื้นที่’ คือ ยุโรปชอบเที่ยวภาคใต้ตามด้วยตะวันออก อินเดียชอบเที่ยวกรุงเทพตามด้วยตะวันออกและใต้
ในแง่ ‘การใช้จ่าย’ คือ ยุโรปและอินเดียเน้นใช้จ่ายกับ ‘ที่พัก’ มากกว่านักท่องเที่ยวจีน แต่เดินทางภายในประเทศต่ำกว่า เรียกว่าชอบเที่ยวไม่กี่สถานที่ เน้นพักในที่พักเป็นหลัก โดยฝั่งอินเดียจะชอบกิจกรรมบันเทิง ไนท์ไลฟ์ นวดและสปา มากกว่ายุโรป เพราะยุโรปจะชอบเที่ยวในแหล่งท่องเที่ยวประวัติศาสตร์ อาหารข้างทาง และช้อปปิ้งของที่ระลึก
ดังนั้น ถ้าอยากรับนักท่องเที่ยวสองกลุ่มนี้ รัฐอาจจะต้องเน้นลงทุนโครงสร้างพื้นฐานด้านการท่องเที่ยวในพื้นที่ที่เหมาะสม และดันธุรกิจท่องเที่ยวประเภทที่เหมาะกับสองกลุ่มนี้มากขึ้นด้วย
ถ้าอยากให้นักท่องเที่ยวจีนกลับมา ต้องแก้ภาพลักษณ์ความปลอดภัยให้ได้
ส่วนปัญหานักท่องเที่ยวจีนวูบหายนั้น โพลบอกว่าวิธีที่จะทำให้นักท่องเที่ยวจีนรู้สึกปลอดภัย คือ ‘ผลการประเมินความเสี่ยงในการเดินทางของรัฐบาลจีน’ เพราะประมาณครึ่งหนึ่งของผู้ตอบแบบสอบถามบอกว่า ทำให้รู้สึกปลอดภัย ตามด้วยข้อมูลจากครอบครัว เพื่อน และสื่อโซเชียล ขณะที่ข้อมูลจากเอเยนต์ทัวร์ไม่ช่วยให้รู้สึกปลอดภัยเพิ่มขึ้น
สุดท้ายคือ ถ้าปัญหาเชิงโครงสร้างทั้งหมดไม่หายไป แล้วปัญหา ‘ความปลอดภัย’ ที่เป็นทั้งปัญหาชั่วคราวและปัญหาเชิงโครงสร้างด้วยยังคงอยู่แบบนี้ นักท่องเที่ยวจีนที่หายไปก็อาจจะไม่ได้หายไปชั่วคราว แต่เป็นตลอดไปก็เป็นได้
- เศรษฐกิจของประเทศนี้มี ‘แผลเป็น’ เต็มตัว ธุรกิจเล็กๆ ไม่ฟื้น คนทั่วไปเงินไม่พอใช้จ่าย
- นักเศรษฐศาสตร์ เตือน ‘ไทย’ อาจกลายเป็นบทหนึ่งของหนังสือ Why Nations Fail
ติดตามข่าวสารจาก Brand Inside ได้จาก Facebook ของเรา