2-3 ปีก่อนหน้านี้ ธุรกิจธนาคารหันมารุกด้านดิจิตอลกันเต็มที่ โดยเฉพาะการปรับโครงสร้างพื้นฐาน ระบบ IT ระบบการทำงานภายในของแบงก์เพื่อสู้กับคู่แข่ง Non-Bank ล่าสุด Beacon VC หนึ่งในบริษัทด้าน IT ของธนาคารกสิกรไทยก็ทุ่มเงินลงทุนอีก 200 ล้านบาทให้กับสตาร์ทอัพสัญชาติไทยอย่าง Jitta
ทำไมแบงก์ต้องการ Startup มาช่วยในธุรกิจหลักล้านล้านของธนาคาร?
ทางออกธุรกิจแบงก์-จับมือพาร์ทเนอร์ IT มาโตด้วยกันดีกว่าสร้างคู่แข่งเพิ่ม
ธนพงษ์ ณ ระนอง กรรมการผู้จัดการ บริษัท บีคอน เวนเจอร์ แคปิทัล จำกัด (Beacon VC) บอกว่า ทางบริษัทเน้นลงทุนในบริษัทเทคโนโลยีที่มีศักยภาพ เพื่อสร้างบริการใหม่ๆให้ธนาคารกสิกรไทยสามารถตอบโจทย์ลูกค้ารายย่อยและลูกค้าธุรกิจ โดยล่าสุดลงทุน Pre-Series A ในสตาร์ทอัพ Jitta กว่า 200 ล้านบาท
ทั้งนี้ทาง Beacon VC ลงทุนใน Jitta เพื่อขยายงานในเทคโนโลยีการลงทุน (WealthTech) ทั้งในไทยและต่างประเทศโดย Jitta มีเทคโนโลยีอัลกอริทึมวิเคราะห์หุ้นเพื่อตอบสนองนักลงทุนที่ต้องการสร้างผลตอบแทนได้อย่างดี ขณะเดียวกันฐานผู้ใช้งานยังโตอย่างต่อเนื่อง
“โซลูชั่นของ Jitta ที่พัฒนาขึ้น นับเป็นสตาร์ทอัพจำนวนน้อยรายในประเทศไทย ที่มีศักยภาพในการสเกลหรือขยายการบริการไปในตลาดต่างประเทศทั่วโลกได้อย่างรวดเร็ว ทำให้เรามั่นใจว่า Jitta สามารถเป็นบริษัทเทคโนโลยีสัญชาติไทยที่จะก้าวขึ้นมาสร้างปรากฏการณ์ที่เป็นประโยชน์ต่อสังคมและผลักดันให้วงการสตาร์ทอัพไทยเป็นที่รู้จักและยอมรับในระดับสากล”
อย่างไรก็ตามที่ผ่านมา Beacon VC ลงทุนในสตาร์ทอัพททั้งไทยและต่างประเทศใน 5 บริษัท
Jitta ชูจุดเด่นลงทุนเน้นคุณค่า-รวมข้อมูลหุ้น 16 ประเทศ-กองทุน Jitta Wealth
ตราวุทธิ์ เหลืองสมบูรณ์ ประธานบริหารและผู้ร่วมก่อตั้ง Jitta บอกว่า วิสัยทัศน์ของ Jitta คือช่วยให้นักลงทุนได้ประโยชน์สูงสุด บริษัทจึงสร้างนวัตกรรมให้ผู้ใช้งานสามารถข้อมูลการลงทุนที่มีประสิทธิภาพ สร้างผลตอบแทนดี แต่ใช้งานได้ง่าย
ทั้งนี้การเป็นพันธมิตรกับ Beacon VC จะทำให้ Jitta พัฒนาและสร้างนวัตกรรม WealthTech ได้ดียิ่งขึ้น ผ่านการพัฒนาทีมงาน และนำเทคโนโลยีปัญญาประดิษฐ์ (AI) ต่อยอดสร้างนวัตกรรมอื่นๆ รวมถึงการเปิดข้อมูลวิเคราะห์หุ้นให้ครบ 16 ประเทศ (ซึ่งครอบคลุม 95% ของหุ้นทั่วโลก) ปีนี้จะเปิดบริการใหม่ อีกทั้งขยายงานไปในประเทศสิงคโปร์และอินเดีย
“เราเตรียมเปิดให้บริการ Jitta Wealth ซึ่งเป็นกองทุนที่บริหารจัดการด้วยเทคโนโลยี ลงทุนในหุ้นตามการวิเคราะห์จัดอันดับของ Jitta Ranking เน้นลงทุนระยะยาวที่ให้ผลตอบแทนสูงกว่าดัชนีตลาดหลักทรัพย์ ดำเนินการโดยบริษัทหลักทรัพย์จัดการกองทุน จิตตะ เวลธ์ จำกัด ซึ่งอยู่ในขั้นตอนการขอใบอนุญาตการจัดการกองทุนส่วนบุคคล จากสำนักงานคณะกรรมการกำกับหลักทรัพย์และตลาดหลักทรัพย์ (ก.ล.ต.) โดยจะเริ่มให้บริการอย่างเป็นทางการในไตรมาสที่สองของปีนี้
ซึ่งมั่นใจว่า Jitta Wealth จะเป็นทางเลือกใหม่ที่ได้รับความสนใจจากนักลงทุนรายย่อยอย่างมาก เพราะการใช้เทคโนโลยีทำให้สามารถบริหารกองทุนได้มีประสิทธิภาพสูงกว่า มีค่าบริหารจัดการต่ำกว่าเพียง 0.5% ต่อปี และเป็นธรรมแก่นักลงทุนมากที่สุด ด้วยการคิดค่าธรรมเนียมเพียง 10% ของกำไร อีกทั้งยังสร้างโอกาสและกระจายความเสี่ยงด้วยการลงทุนในประเทศไทย เวียดนาม และสหรัฐอเมริกา สะดวกสบายตอบโจทย์ความต้องการของนักลงทุนอย่างดีที่สุดด้วยบริการออนไลน์”
สรุป
ธนาคารเร่งเครื่องพัฒนาด้าน IT มาหลายปี แต่เมื่อเป็นแบงก์ใหญ่จะขยับตัวทีก็ยาก การร่วมมือกับสตาร์ทอัพที่มีเทคโนโลยีใหม่ๆ แถมปรับตัวได้ไว กลายเป็นสิ่งที่แบงก์เริ่มมองหาและผูกสัมพันธ์ไว้ เพราะถ้าไม่จับมือด้วยตอนนี้ต่อไปอาจจะกลายเป็นคู่แข่งมาแย่งลูกค้าก็ได้ แม้หลายคนคิดว่าสตาร์ทอัพเจ้าเล็กจะมาแย่งธุรกิจแบงก์ทั้งหมดไม่ได้ แต่อนาคตที่ไม่แน่นอนอยู่ดี
ติดตามข่าวสารจาก Brand Inside ได้จาก Facebook ของเรา
Related