เจ้าของธุรกิจ SME รวมถึง Startup ล้วนแล้วแต่มีภาษีหลายรายการที่ต้องจัดการ หนึ่งในนั้นก็คือ ภาษีนิติบุคคล บทความนี้จะพามาทำความเข้าใจ ตัวอย่างการคำนวณ และขั้นตอนการยื่นภาษีนิติบุคคลอย่างละเอียด
ภาษีนิติบุคคล คืออะไร
ภาษีนิติบุคคล มีชื่อเต็มว่า ภาษีเงินได้นิติบุคคล หมายถึงภาษีที่เรียกเก็บจากบริษัท ห้างหุ้นส่วนจำกัดที่จดทะเบียนตามประมวลกฎหมายแพ่ง และพาณิชย์ มีระยะเวลาในการยื่นแบบภาษีตั้งแต่เดือนมกราคม – มีนาคมในปีถัดไป ในบางกรณีสามารถยื่นแบบภาษีครึ่งปีได้เพื่อเป็นการลดภาระการชำระภาษีของนิติบุคคล
บริษัทและห้างหุ้นส่วนจำกัดที่มีหน้าที่เสียภาษีนิติบุคคล มีดังนี้
- บริษัทหรือห้างหุ้นส่วนนิติบุคคลที่ตั้งขึ้นตามกฎหมายไทย
- บริษัทหรือห้างหุ้นส่วนนิติบุคคลที่ตั้งขึ้นตามกฎหมายต่างประเทศ
- กิจการซึ่งดำเนินการเป็นทางค้า หรือหากำไร
- กิจการร่วมค้า (Joint Venture)
- มูลนิธิหรือสมาคมที่ประกอบกิจการซึ่งมีรายได้แต่ไม่รวมถึงมูลนิธิหรือสมาคมที่รัฐมนตรีประกาศกำหนดให้เป็นองค์การหรือสถานสาธารณกุศล
- นิติบุคคลที่อธิบดีกำหนดโดยอนุมัติรัฐมนตรีและประกาศในราชกิจจานุเบกษาให้เป็นบริษัทหรือห้างหุ้นส่วนนิติบุคคลตามประมวลรัษฎากร
นิติบุคคลที่ไม่ต้องเสียภาษีนิติบุคคล มีดังนี้
- บริษัทหรือห้างหุ้นส่วนนิติบุคคลตามข้อผูกพันที่ประเทศไทยมีอยู่ตามสัญญาว่าด้วยความร่วมมือทางเศรษฐกิจ หรือทางเทคนิคระหว่างรัฐบาลไทยกับรัฐบาลต่างประเทศ
- บริษัทจำกัดที่ได้รับการยกเว้นภาษีเงินได้ตามกฎหมายว่าด้วยการส่งเสริมการลงทุน
- บริษัทจำกัดและนิติบุคคลที่มีสภาพเช่นเดียวกับบริษัทจำกัดซึ่งตั้งขึ้นตามกฎหมายไทยหรือกฎหมายต่าง ประเทศได้รับการยกเว้นภาษีเงินได้นิติบุคคลตามพระราชบัญญัติภาษีเงินได้ปิโตรเลียม
- บริษัทหรือห้างหุ้นส่วนนิติบุคคลที่อยู่ในประเทศที่มีอนุสัญญาว่าด้วยการเว้นการเก็บภาษีซ้อนกับประเทศไทย ตามเงื่อนไขที่กำหนดในอนุสัญญา
การคำนวณภาษีนิติบุคคล
เนื่องจากภาษีนิติบุคคลมีอยู่หลายแบบเราจะมาอธิบายกันทีละแบบอย่างละเอียด โดยเริ่มจากฐานภาษีที่จะนำมาคำนวณภาษีนิติบุคคลจะมีที่มาได้จาก 4 อย่างดังนี้
- กำไรสุทธิ
- ยอดรายได้ก่อนหักรายจ่าย
- เงินได้ที่จ่ายจากหรือในประเทศไทย
- การจำหน่ายเงินกำไรออกไปจากประเทศไทย
อัตราภาษีนิติบุคคล
กำไรสุทธิไม่เกิน 300,000 บาท : ยกเว้นภาษีนิติบุคคล
กำไรสุทธิเกิน 300,000 บาท แต่ไม่เกิน 3,000,000 บาท : 15%
กำไรสุทธิเกิน 3,000,000 บาท ขึ้นไป : 20%
การคำนวณภาษีนิติบุคคล สำหรับรอบระยะเวลาบัญชี (ภ.ง.ด.50)
รายได้และรายจ่าย
- รายได้และรายจ่ายที่เกิดขึ้นในรอบระยะเวลาบัญชี
- ใช้เกณฑ์สิทธิในการรับรู้รายได้และรายจ่าย
วิธีคำนวณภาษี
- กำไรสุทธิ บริษัทหรือห้างหุ้นส่วนนิติบุคคลต้องนำรายได้ และรายจ่ายที่เกิดขึ้นในรอบระยะเวลาบัญชีมาคำนวณ หากำไรสุทธิ เมื่อได้กำไรสุทธิแล้ว ให้นำไปคำนวณภาษี ตามบัญชีอัตราภาษีเงินได้นิติบุคคล จะได้ภาษีเงินได้นิติบุคคลที่ต้องชำระ สำหรับรอบระยะเวลาบัญชี
หมายเหตุ
- แนบงบการเงิน พร้อมกับแบบ ภ.ง.ด.50
- ขาดทุนสุทธิหรือไม่มีรายได้ก็ ต้องยื่นแบบ
- สามารถนำภาษีที่ชำระแล้ว ตามแบบ ภ.ง.ด.51 และภาษีที่ถูกหัก ณ ที่จ่าย มาหักออกจากภาษีที่ต้องชำระได้
- ยื่นแบบภายใน 150 วัน นับแต่วันสุดท้ายของรอบระยะเวลาบัญชี
การคำนวณภาษีนิติบุคคล ครึ่งรอบระยะเวลาบัญชีแรก (ภ.ง.ด.51)
รายได้และรายจ่าย
- รายได้และรายจ่ายในรอบ 6 เดือนแรก นับแต่วันเริ่มต้นของรอบระยะเวลาบัญชี
- ใช้เกณฑ์สิทธิในการรับรู้รายได้และรายจ่าย
วิธีคำนวณภาษี
- ประมาณการกำไรสุทธิ บริษัทหรือห้างหุ้นส่วนนิติบุคคลต้องประมาณการกำไรสุทธิจากรายได้ และรายจ่ายที่เกิดขึ้นในรอบระยะเวลาบัญชี
แล้วนำกึ่งหนึ่งของประมาณการกำไรสุทธิที่ได้ ไปคำนวณภาษีตามบัญชีอัตราภาษีเงินได้นิติบุคคล
จะได้ภาษีเงินได้นิติบุคคลที่ต้องชำระครึ่งปี - กำไรสุทธิ ธนาคารพาณิชย์ บริษัทเงินทุน บริษัทหลักทรัพย์ บริษัทเครดิตฟองซิเอร์ หรือบริษัทที่อธิบดีกรมสรรพากรประกาศกำหนดให้นำรายได้และรายจ่ายที่เกิดขึ้นจริงในครึ่งรอบระยะเวลาบัญชีแรกมาคำนวณหากำไรสุทธิ เมื่อได้กำไรสุทธิแล้วให้นำไปคำนวณภาษีตามบัญชีอัตราภาษีเงินได้นิติบุคคล
จะได้ภาษีเงินได้นิติบุคคลที่ต้องชำระครึ่งปี
หมายเหตุ
- ประมาณการกำไรสุทธิขาดไป เกินกว่าร้อยละ 25 จะต้องเสียเงินเพิ่มร้อยละ 20 ของภาษีจากกำไรสุทธิที่ประมาณการขาดไป แต่เงินเพิ่มอาจลดลง เสียสูงสุดไม่เกินร้อยละ 1.5 ต่อเดือนของภาษี
ที่ชำระขาดไปได้ (ท.ป.81/2542) - ขาดทุนสุทธิหรือไม่มีรายได้ก็ต้องยื่นแบบฯ
- บริษัทหรือห้างหุ้นส่วนนิติบุคคลที่ตั้งขึ้นใหม่และมีรอบระยะเวลาบัญชีแรกน้อยกว่า 12 เดือน ไม่ต้องยื่นแบบ ภ.ง.ด.51 สำหรับรอบระยะเวลา บัญชีนั้น ตามมาตรา 67 ทวิ แห่งประมวลรัษฎากร
- ยื่นแบบฯ ภายใน 2 เดือน นับแต่วันสุดท้ายของรอบระยะเวลา 6 เดือน นับแต่วันแรกของรอบระยะเวลาบัญชี
การคำนวณภาษีนิติบุคคล สำหรับรอบระยะเวลาบัญชี (ภ.ง.ด.52)
ผู้ที่ต้องเสียภาษีประเภทนี้
บริษัทหรือห้างหุ้นส่วนนิติบุคคลที่ตั้งขึ้นตามกฎหมายต่างประเทศที่ประกอบการขนส่งผ่านประเทศต่างๆ รวมทั้งประเทศไทย
รายได้และรายจ่าย
- รายได้ก่อนหักรายจ่ายใด ๆ ที่เกิดขึ้นในรอบระยะเวลาบัญชี
- ใช้เกณฑ์สิทธิในการรับรู้รายได้และรายจ่าย
วิธีคำนวณภาษี
- นำรายได้ก่อนหักรายจ่ายใด ๆ ที่เกิดขึ้นในรอบระยะเวลาบัญชีมาคำนวณภาษีในอัตราร้อยละ 3 จะได้ภาษีที่ต้องชำระ
หมายเหตุ
- รายได้ที่นำมาคำนวณภาษี
- รายได้จากค่าโดยสาร ค่าธรรมเนียม และประโยชน์อื่นใด ที่เรียกเก็บในประเทศไทยเนื่องในการรับขนคนโดยสาร
- รายได้จากค่าระวาง ค่าธรรมเนียม และประโยชน์อื่นใด ที่เรียกเก็บไม่ว่าในหรือนอกประเทศไทย เนื่องในการรับขนของออกจากประเทศไทย
- รายได้อาจได้รับการยกเว้นภาษีหรือลดอัตราภาษี ตามอนุสัญญาภาษีซ้อน
- ไม่มีรายได้ก็ต้องยื่นแบบ ภ.ง.ด.52
- ยื่นแบบภายใน 150 วัน นับแต่วันสุดท้ายของรอบระยะเวลาบัญชี
การคำนวณภาษีนิติบุคคล สำหรับรอบระยะเวลาบัญชี (ภ.ง.ด.55)
ผู้ที่ต้องเสียภาษีประเภทนี้
มูลนิธิหรือสมาคมที่เป็นนิติบุคคลซึ่งมีรายได้
รายได้และรายจ่าย
- รายได้ก่อนหักรายจ่ายใด ๆ ที่เกิดขึ้นในรอบระยะเวลาบัญชี
- ใช้เกณฑ์สิทธิในการรับรู้รายได้และรายจ่าย
วิธีคำนวณภาษี
- นำรายได้ก่อนหักรายจ่ายใด ๆ ที่เกิดขึ้นในรอบระยะเวลาบัญชีมาคำนวณภาษีอัตราร้อยละ 10 เว้นเงินได้ตามมาตรา 40(8) แห่งประมวลรัษฎากรให้คำนวณภาษีอัตราร้อยละ 2 จะได้ภาษีที่ต้องชำระ
หมายเหตุ
- มูลนิธิหรือสมาคมที่รัฐมนตรีว่าการกระทรวงการคลัง ประกาศให้เป็นองค์กรสาธารณะกุศลส่งรายงาน การประชุมใหญ่ งบดุล และบัญชีรายได้รายจ่าย ให้กรมสรรพากรทราบภายใน 150 วัน นับแต่วันสุดท้าย ของรอบระยะเวลาบัญชี และไม่ต้องยื่นแบบ ภ.ง.ด.55
- รายได้บริจาค ค่าลงทะเบียน และค่าบำรุงที่ได้จากสมาชิก ได้รับการยกเว้นภาษี
- ไม่มีรายได้ก็ต้องยื่นแบบ ภ.ง.ด.55
- ยื่นแบบภายใน 150 วัน นับแต่วันสุดท้ายของรอบระยะเวลาบัญชี
- หากมีภาษีหัก ณ ที่จ่าย สามารถนำมาหักออกจากภาษีที่ต้องชำระได้
สถานที่ยื่นแบบแสดงรายการภาษีเงินได้นิติบุคคล
ในเขตกรุงเทพมหานคร ให้ยื่น ณ สำนักงานสรรพากรพื้นที่สาขา (สรรพากรเขต/อำเภอ เดิม) ในท้องที่ที่สำนักงานใหญ่ตั้งอยู่
ในเขตต่างจังหวัด ให้ยื่น ณ ที่ว่าการอำเภอหรือกิ่งอำเภอท้องที่ที่สำนักงานใหญ่ตั้งอยู่ ในกรณีสำนักงานสรรพากรอำเภอมิได้ตั้งอยู่ ณ ที่ว่าการอำเภอให้ยื่น ณ สำนักงานสรรพากรอำเภอ
หมายเหตุ
การยื่นแบบแสดงรายการภาษี ภ.ง.ด.50 , ภ.ง.ด.51 , ภ.ง.ด.53 และ ภ.ง.ด.54 สามารถยื่นผ่านเว็บไซต์ของกรมสรรพากรก็ได้
หากวันสุดท้ายตรงกับวันหยุดราชการ ให้ขยายเวลายื่นแบบและชำระภาษีออกไปอีก 1 วัน
Source : iTAX, กรมสรรพากร
ติดตามข่าวสารจาก Brand Inside ได้จาก Facebook ของเรา