หลายคนคงเคยได้ยินคำว่า Agile ไม่ว่าจะจากที่ทำงาน จากวงเพื่อนๆ จากสังคมรอบตัว จนแอบรู้สึกว่าการทำงานแบบ Agile นี่มันคือยังไง แล้วบริษัทเรานับเป็น Agile หรือยัง ถ้าอยากจะเริ่มทำงานแบบ Agile ต้องทำยังไง บทความนี้จะพาไปทำความรู้เรื่องของ Agile กัน
Agile คืออะไร
Agile คือแนวคิดการทำงานที่ให้ความสำคัญกับการปรับตัวและความคล่องตัวในการทำงาน เพื่อให้ทีม องค์กร สามารถทำงานได้อย่างรวดเร็ว ลดขั้นตอนที่ไม่สำคัญเพื่อเน้นผลลัพธ์ ลดการพูดคุยที่ไม่จำเป็น เพื่อตอบสนองความต้องการของลูกค้าที่เปลี่ยนไปได้อย่างทันท่วงที
Agile ถูกคิดค้นโดยกลุ่มนักพัฒนาซอฟท์แวร์กลุ่มหนึ่งที่เห็นถึงปัญหาของการทำงานเป็นลำดับขั้นมากเกินไป เปรียบเสมือนน้ำตก (Waterfall) ที่ไหลลงมาเป็นขั้นๆ กว่าน้ำจะไหลลงมาเพื่อเกิดเป็นน้ำตกก็ใช้เวลานาน เปรียบเสมือนกับการทำงานที่หากมีขั้นตอนที่ไม่จำเป็นมากเกินไปก็จะทำให้ผลลัพธ์ออกมาช้าและใช้เวลาในการทำงานนานเกินความจำเป็น สุดท้ายจึงเกิดแนวคิดการทำงานแบบ Agile ขึ้นมาเรียกว่า Agile Manifesto ซึ่งมีใจความสำคัญอยู่ 4 เรื่อง ได้แก่
- ให้ความสำคัญกับ การสื่อสาร มากกว่า ลำดับขั้นตอนและเครื่องมือ ที่ใช้ในการทำงาน เนื่องจากมองว่าการสื่อสารภายในทีมนั้นเป็นเรื่องที่สำคัญ การสื่อสารซึ่งกันและกันบ่อยๆ จะทำให้เกิดความร่วมมือ ทุกคนมองภาพตรงกัน ลดโอกาสที่จะเกิดความเข้าใจที่ไม่ตรงกัน ส่วนขั้นตอนการทำงานและเครื่องมือนั้นเป็นเพียงหนึ่งในองค์ประกอบที่จะช่วยให้ผลงานสำเร็จตามที่วางแผนเอาไว้ ซึ่งขั้นตอนการทำงานและเครื่องมือนั้นก็ต้องสัมพันธ์กับความสามารถของคนในทีม ไม่มีเครื่องมือใดที่เหมาะสมกับทุกทีม
- ให้ความสำคัญกับ ผลงานที่ใช้ได้จริง มากกว่าแค่ เอกสารที่ครบถ้วน เพราะแม้จะมีเอกสารที่ครบถ้วนสมบูรณ์แต่ไม่สามารถสร้างสรรค์ผลงานที่ใช้งานได้จริง ตอบโจทย์ลูกค้าอย่างเต็มประสิทธิภาพ เกิดประโยชน์ต่อผู้ใชงาน ก็ไม่มีประโยชน์ที่จะทำสิ่งนั้น
- ให้ความสำคัญกับ ความสัมพันธ์ การร่วมมือกันกับลูกค้า มากกว่า การต่อรองสัญญา เพราะแม้ว่าจะมีสัญญาอยู่แล้วระหว่างกันแต่การปรับตัวเพื่อตอบสนองความต้องการที่เปลี่ยนไปและความร่วมมือกันระหว่างลูกค้าและทีมคือสิ่งที่สำคัญกว่า หากไม่ปรับตัวและให้ความร่วมมือที่ดี ผลงานที่ออกมาก็ย่อมไม่เป็นไปตามที่คาดหวังและสุดท้ายจะกลายเป็นสิ่งที่ไม่มีประโยชน์
- ให้ความสำคัญกับ การเตรียมตัวรับมือความเปลี่ยนแปลง มากกว่า การทำตามแผนงาน เพียงอย่างเดียว เพราะทุกการทำงานล้วนเกิดความเปลี่ยนแปลงได้เสมอ ไม่ว่าจะเป็นปัจจัยภายในหรือภายนอก ดังนั้นการพร้อมรับความเปลี่ยนแปลงอยู่เสมอจึงเป็นเรื่องที่ควรให้ความสำคัญ นอกจากนี้ควรมีการกระจายอำนาจการตัดสินใจให้กับคนในทีมเพื่อให้สามารถปรับเปลี่ยนได้ตั้งแต่จุดที่เล็กที่สุดของงาน
ข้อดีของการทำงานแบบ Agile
- การทำงานมีความยืดหยุ่นสูง เตรียมพร้อมสำหรับการเปลี่ยนแปลงอยู่เสมอ ทำให้เมื่อมีการปรับปรุง เปลี่ยนแปลงทั้งจากปัจจัยภายในหรือภายนอกก็สามารถดำเนินงานต่อไปได้
- เนื่องจากมีการตัดขั้นตอนที่ไม่สำคัญออกไป ทำให้ความเร็วในการทำงานมีมากขึ้นและตอบสนองความต้องการของลูกค้าในตลาดได้อย่างทันท่วงที ไม่จำเป็นต้องรอคำสั่งลงมาเรื่อยๆ เหมือนการทำงานแบบ Waterfall
- การมองเห็นภาพตรงกันทั้งทีมหรือองค์กร ทำให้ลดปัญหาความเข้าใจไม่ตรงกัน ส่งผลให้การทำงานมีความสอดคล้อง หากพบปัญหาก็สามารถช่วยกันแก้ไขได้อย่างตรงจุด
- การทำงานแบบ Agile นั้นเป็นการทำงานแบบหลายทีมเข้ามาช่วยกัน ดังนั้นสมาชิกของทีมที่ร่วมงานกันจะมีปฏิสัมพันธ์ที่ดีกับทีมอื่นๆ รวมทั้งได้พัฒนาความสามารถของตัวเองได้อย่างหลากหลายมากขึ้น
- ทีมพึ่งพาการตัดสินใจจากผู้บริหารระดับสูงน้อยลง เนื่องจากสามารถให้ความเห็นและตัดสินกันเองภายในทีมย่อยเพื่อแก้ปัญหาหรือสร้างสรรค์ผลงานที่ดีขึ้นได้อย่างรวดเร็ว
การทำงานแบบ Agile แม้จะดูเป็นเรื่องที่ดีน่านำมาใช้แต่ไม่ได้เหมาะกับทุกงาน ทุกองค์กร เนื่องจากความแตกต่างของขนาดองค์กรก็เป็นหนึ่งในเงื่อนไขที่ Agile อาจจำนำไปประยุกต์ได้ยากขึ้น อาจจะต้องมีการลองใช้งานใน Business Unit เล็กๆ ก่อนแล้วค่อยลองขยายใหญ่ขึ้น เพื่อให้เกิดวัฒนธรรมองค์กรที่เอื้อต่อการทำงานแบบ Agile
Source : JobsDB ไทย, YourNextU , Bluebik
ติดตามข่าวสารจาก Brand Inside ได้จาก Facebook ของเรา