ดับบลิวเอชเอ กรุ๊ป หวังปิดปีทำสถิติใหม่มีรายได้แตะ 15,000 ล้านบาท ปรับเป้าขายที่ดินเป็น 2,500 ไร่

บมจ. ดับบลิวเอชเอ กรุ๊ป หรือ WHA ยืนยันปี 2024 มีรายได้รวมแตะ 15,000 ล้านบาท ทำสถิติใหม่อีกปี เหตุหลากหลายธุรกิจต่างชาติเตรียมย้ายฐานการผลิตมาไทย ส่งผลปรับเป้าขายที่ดินเป็น 2,500 ไร่ พร้อมเดินหน้าสู่ Tech Company เช่นเดิม

WHA

WHA รายได้แตะ 15,000 ล้านบาท

จรีพร จารุกรสกุล ประธานคณะกรรมการบริหาร และประธานเจ้าหน้าที่บริหารกลุ่ม บมจ. ดับบลิวเอชเอ คอร์ปอเรชั่น หรือ WHA เล่าให้ฟังว่า ทิศทางธุรกิจในไตรมาส 4 และครึ่งหลังของปี 2024 แสดงให้เห็นถึงแนวโน้มการเติบโตที่แข็งแกร่ง จนปี 2024 จะปิดรายได้กว่า 15,000 ล้านบาท โดยครึ่งแรกของปี 2024 ทำได้ 7,273 ล้านบาท

WHA

การไปถึงเป้าหมายดังกล่าว WHA เตรียมเดินหน้าด้วย 4 กลุ่มธุรกิจประกอบด้วย

ธุรกิจโลจิสติกส์ ที่เน้นการขยายธุรกิจทั้งในประเทศ และต่างประเทศ โดยเฉพาะในเวียดนาม ตั้งเป้าหมายพื้นที่ให้เช่าใหม่รวม 2 แสน ตร.ม. โดยเน้นคลังสินค้าแบบ Built-to-Suit และเตรียมเปิดตัวบริการใหม่ โมบิลิกส์ (Mobilix) โซลูชันกรีนโลจิสติกส์ครบวงจร ซึ่งเป็นครั้งแรกในประเทศไทย

ธุรกิจนิคมอุตสาหกรรม ที่ปรับเป้าหมายการขายที่ดินเป็น 2,500 ไร่ โดยมียอดขายหลักมาจากประเทศไทย พร้อมขยายโครงการนิคมอุตสาหกรรมใหม่ทั้งในไทยและเวียดนาม ซึ่งคาดว่าจะได้รับการอนุมัติใบอนุญาตเฟส 1 ในปีนี้ ผ่านเหตุผลหลักที่มีหลากหลายธุรกิจจากต่างชาติขยายโรงงานมาที่ประเทศไทย

WHA

ธุรกิจสาธารณูปโภค (น้ำ และไฟฟ้า) ที่ตั้งเป้ายอดขายน้ำรวมที่ 178 ล้านลูกบาศก์เมตร โดยเน้นขยายธุรกิจน้ำมูลค่าเพิ่ม (Value-added Water) และลงทุนในโรงผลิตน้ำ และโรงบำบัดน้ำเสียแห่งใหม่ในเวียดนาม ส่วนไฟฟ้าจะขยายกำลังขยายกำลังการผลิตไฟฟ้าสะสมที่ลงนามแล้วเป็น 1,000 เมกะวัตต์

สุดท้ายที่ ธุรกิจดิจิทัล ที่ต่อยอดความสำเร็จขององค์กร ด้วยการยกระดับประสิทธิภาพองค์กรด้วย AI และแพลตฟอร์มดิจิทัลใหม่ ๆ เพื่อสร้างรายได้และลดต้นทุน โดยการใช้เทคโนโลยีในการจัดการรถยนต์ไฟฟ้า และพลังงานแบบครบวงจร

WHA

“ปี 2567 เป็นปีที่ WHA Group ได้พิสูจน์ให้เห็นถึงความสำเร็จในการนำเทคโนโลยีมาใช้ในทุกมิติของการดำเนินงาน พร้อมก้าวสู่การเป็นองค์กรที่ขับเคลื่อนด้วยเทคโนโลยีอย่างเต็มรูปแบบในปีหน้า เพื่อสร้างความยั่งยืนให้กับเศรษฐกิจ สังคม และสิ่งแวดล้อมของประเทศไทย และภูมิภาค” จรีพร กล่าว

ติดตามข่าวสารจาก Brand Inside ได้จาก Facebook ของเรา