4 ล้านบาทกับบั้นปลายชีวิตคุณภาพ และตลาดศูนย์ดูแลผู้สูงอายุที่โตเร็วจนทุกโรงพยาบาลต้องจับตา

ไทยกำลังเข้าสู่สังคมผู้สูงอายุเต็มตัว หลังในปี 2565 จะมีคนกลุ่มนี้ถึง 20% ของประชากร หรือราว 13 ล้านคน แต่ทั้งรัฐบาล กับหน่วยงานเอกชนกลับไม่ได้ทำบริการมารองรับเท่าที่ควร และจุดนี้เองจึงกลายเป็นอีกโอกาสธุรกิจสำคัญของโรงพยาบาล

Jin Wellbeing County โครงการที่พักอาศัยเพื่อวัยเกษียณของกลุ่มโรงพยาบาลธนบุรี

ต้นทุนเพิ่ม ทำกำไรลำบาก

ช่วงนี้ไม่ใช่เศรษฐกิจไม่ดีอย่างเดียว แต่เรื่องต้นทุนธุรกิจไม่ว่าจะเป็นค่าจ้างแรงงาน, อุปกรณ์ รวมถึงสาธารณูปโภคต่างปรับตัวขึ้นหมด และธุรกิจโรงพยาบาลที่สภาวะนี้เหมือนจะมีโอกาสทำรายได้เพิ่มจากภาวะเครียดของประชากร แต่สุดท้ายแล้วปัจจัยข้างต้นก็ทำให้ธุรกิจนี้เริ่มทำกำไรได้ลำบาก

บุญ วนาสิน ประธานกรรมการ บมจ.ธนบุรี เฉลท์แคร์ กรุ๊ป ยอมรับว่า กลุ่มโรงพยาบาลธนบุรีก็ต้องควบคุมค่าใช้จ่าย และหารูปแบบการรักษาต่างๆ เพื่อสร้างช่องทางรายได้ใหม่ ไม่ใช่จมอยู่กับการไม่เปลี่ยนแปลง เพราะการอยู่นิ่งๆ นอกจากไม่ทำให้ธุรกิจเติบโตแล้ว ยังส่งผลให้ภาพรวมของการแข่งขันในอุตสาหกรรมนี้ทำได้ไม่ดีด้วย

บุญ วนาสิน ประธานกรรมการ บมจ.ธนบุรี เฉลท์แคร์ กรุ๊ป

“เมื่อต้นทุนเพิ่ม กลุ่มธนบุรีจะเพิ่มเพื่อคงอัตรากำไรเอาไว้ก็คงลำบาก และมีเพียงโรงพยาบาลบำรุงราษฎร์ที่ผลักภาระค่าใช้จ่ายไปยังผู้ป่วยได้ ดังนั้นเราจึงเลือกหาช่องทางใหม่ๆ มากกว่า และหนึ่งในนั้นคือการลงทุนกว่า 4,400 ล้านบาท เพื่อสร้างโครงการที่พักอาศัยที่ตอบโจทย์ผู้สูงอายุครบวงจรแห่งแรกในอาเซียน และสร้างรายได้ระยะยาวให้กับทางกลุ่ม ผ่านกลุ่มลูกค้าไทย-เทศ”

Jin Wellbeing กับอนาคตใหม่

สำหรับโครงการที่พักอาศัยที่ตอบโจทย์ผู้สูงอายุจะอยู่ภายใต้ชื่อโครงการ Jin Wellbeing County ตั้งอยู่บริเวณริมถนนพหลโยธิน ใกล้กับมหาวิทยาลัยกรุงเทพ มีพื้นที่ 140 ไร่ ประกอบด้วยตัวอาคารที่พักอาศัยแบบ Low-Rise 7 ชั้น 13 อาคาร รวม 1,300 ยูนิต, อาคาร Aged Care Center ที่ใช้ดูแลผู้สูงอายุแบบพิเศษ และ Clubhouse ที่รวมกิจกรรมต่างๆ ไว้ รวมถึงบริการครบวงจรตั้งแต่รับทำประกันชีวิต, ดูแลพินัยกรรม และมรดก รวมถึงการรับซื้อที่พักคืนเมื่อเสียชีวิต

รูปแบบโครงการ Jin Wellbeing County ที่ด้านหน้าติดถนนพหลโยธิน

ส่วนเรื่องราคาจะอยู่ราว 3.6 ล้านบาทในช่วง Pre-Sale และหลังจากนั้นจะปรับเป็น 3.8 ล้านบาท ไม่รวมค่าบริการอื่นๆ เช่นค่าพยาบาล และค่าร่วมกิจกรรมต่างๆ ซึ่งตอนนี้จำหน่ายไปทั้งหมด 100 ยูนิตแล้ว ได้รับความสนใจจากชาวญี่ปุ่น และกลุ่มสแกนดิเนเวียนเป็นอย่างมาก คาดว่าก่อนเปิดขายปกติในเดือนต.ค. จะขายได้ 300 ยูนิต และกลางปี 2561 น่าจะปิดการขาย

อย่างไรก็ตามมูลค่าลงทุน 4,400 ล้านบาทเป็นแค่ Phase แรกของโครงการเท่านั้น เพราะหลังจากนี้จะมีสถานพยาบาล และศูนย์พักฟื้นครบวงจร ทำให้รวมมูลค่าทั้งโครงการกว่า 30,000 ล้านบาท ซึ่งช่วง Phase แรกจะเริ่มก่อสร้างไตรมาสที่ 3 ปี 2560 และแล้วเสร็จไม่เกินปี 2562 โดยรูปแบบขายจะมีเพียงขายขาดให้กับผู้ที่สนใจเท่านั้น

ภาพ freestockphotos.biz

ไม่มีลูกหลานก็เตรียมเงินล้านได้เลย

จากที่กล่าวมาข้างต้น ตัว Jin Wellbeing County อาจเป็นที่พักพิงสำหรับผู้สูงอายุในวัยเกษียณ แต่ต้องเป็นคนที่มีเงินเก็บ หรือบ้านมีฐานะประมาณหนึ่ง เพราะจะเข้าไปพักที่นี่ได้ต้องมีเงินเก็บมากกว่า 4 ล้านเพื่อใช้บั้นปลายชีวิตอย่างมีประสิทธิภาพ แต่ในไทยก็ไม่ได้มีแค่ที่นี่ ยังมีสวางคนิเวศ และที่พักอาศัยในต่างจังหวัดที่มีราคาต่ำกว่าเล็กน้อย ผ่านกิจกรรมไม่ครอบคลุมเท่า

ส่วนถ้าใครที่กำลังทรัพย์ไม่เพียงพอ บ้านบางแค ก็ยังเป็นคำตอบ เพราะด้วยราคาหลักพันบาททำให้ใครๆ ก็เข้าไปได้ แต่ด้วยคิวที่ยาว และผู้สูงอายุเพิ่มขึ้นทุกวัน ดังนั้นจะเข้าไปพักอาศัยก็คงไม่ง่าย จึงเป็นอีกโอกาสของโรงพยาบาล รวมถึงเอกชนรายอื่นที่จะโดดเข้ามาทำธุรกิจนี้ เพื่อรองรับความต้องการของประเทศที่มีผู้สูงอายุ 20% ของประชากร

บ้านบางแค // ภาพจากเว็บ banbangkhae.go.th

แต่ใช่ว่าการโดดเข้ามาในอุตสาหกรรมนี้จะง่ายๆ เพราะเรื่องความเชี่ยวชาญของการแพทย์ ทำให้ฝั่งโรงพยาบาลน่าจะได้เปรียบกว่า และหากจะทำธุรกิจนี้ ต้องลงทุนอย่างเต็มที่ เพราะเมื่อเปรียบเทียบราคาศูนย์พักพิงประเภทนี้กับต่างประเทศ ในไทยถือว่ามีราคาถูก ดังนั้นหากทำตลาดดีๆ ก็มีโอกาสดึงชาวต่างชาติเข้ามาพักพิงได้ในระยะยาว

สรุป

ตอนนี้อะไรที่ตอบโจทย์กลุ่มผู้สูงอายุน่าจะเป็นธุรกิจที่มีโอกาสเติบโตได้เยอะ แต่เรื่องสถานพักพิงนั้นมีปัจจัยเรื่องความเชี่ยวชาญในวิชาชีพการแพทย์ ทำให้คนทั่วไปอาจเข้ามาทำไม่ได้ และมองว่าเป็นอีกโอกาสสำคัญของธุรกิจโรงพยาบาลที่จะมาสร้างรายได้ใหม่ เพื่อเพิ่มความยั่งยืนให้กับธุรกิจ แต่ต้องอย่าลืมว่า ราคาก็ยังเป็นปัจจัยสำคัญในสภาวะเศรษฐกิจแบบนี้

ติดตามข่าวสารจาก Brand Inside ได้จาก Facebook ของเรา