บริษัท สัมมากร จำกัด (มหาชน) ร่วมกับ สถานคุ้มครองและพัฒนาคนพิการบ้านกึ่งวิถี (หญิง) จังหวัดปทุมธานี และบริษัท ชูใจ กะ กัลยาณมิตร ขับเคลื่อนสังคมด้วยพลังแห่ง “ความเข้าใจ” หวังเปลี่ยนมุมมองสู่การยอมรับและอยู่ร่วมกันอย่างเท่าเทียมของผู้ป่วยจิตเวช
รอยยิ้มที่สังคมอาจมองไม่เห็น
พันธิตร ทองสำราญ ประธานเจ้าหน้าที่บริหารการตลาด บริษัท สัมมากร จำกัด (มหาชน) กล่าวว่า “ปัจจุบัน มีผู้ป่วยจำนวนไม่น้อยที่อาการดีขึ้นจนสามารถดูแลตนเองได้ และบางรายก็มีบทบาทช่วยเหลือผู้อื่นในบ้านได้อีกด้วย แม้พวกเขาจะมีความพร้อมในระดับหนึ่ง แต่การกลับไปใช้ชีวิตในสังคมได้จริงยังเฉลี่ยเพียง 1 คนต่อปี ซึ่งตัวเลขดังกล่าวสะท้อนให้เห็นว่ายังมีหลายปัจจัยที่เราควรหันกลับมามอง ซึ่งหนึ่งในปัจจัยนั้น คือ “ความเข้าใจ” ไม่ใช่เฉพาะความเข้าใจในตัวผู้ป่วย แต่หมายความรวมถึงความเข้าใจจากสังคมว่ากระบวนการฟื้นตัวของผู้ป่วยแต่ละบุคคลล้วนแตกต่างกัน ซึ่งการป่วยทางจิตใจไม่ได้ลดทอนคุณค่าความเป็นมนุษย์ลงแต่อย่างใด และสังคมควรเปิดใจและมองเห็นคุณค่าอย่างเท่าเทียม”
Entertainment Value ทำให้คนเปิดใจและเข้าใจ
“การที่เราอยากให้ผู้ป่วยจิตเวชกลับเข้าสู่สังคมได้ เราต้องหาวิธีเข้าถึงสังคมก่อน เพื่อให้คนในสังคมเชื่อมั่น เปิดใจ และให้โอกาส แทนที่จะมองด้วยความสงสาร เราจึงเลือกสื่อสารผ่านคอนเทนต์บันเทิง(Entertainment Content)” ในช่วงแรก ทุกฝ่ายร่วมหารือและศึกษาข้อมูลอย่างละเอียด เพราะเป็นความท้าทายใหม่และต้องคำนึงถึงสภาวะจิตใจของผู้ป่วยเป็นสำคัญ “เราตัดสินใจใช้ Entertainment Value เป็นกุญแจสำคัญในการเปิดใจคนดู ให้พวกเขาเปิดรับสิ่งที่เราอยากจะบอก โดยเปลี่ยนจากการนำเสนอเนื้อหาที่อาจหนักใจ มาสู่การพิสูจน์ให้สังคมเห็น ผ่านการเต้น Cover Dance ตามเพลงดังของศิลปินชื่อดัง”
รอยยิ้มกับเสียงเพลงแห่งความสุข
การถ่ายทอดความรู้สึกผ่านเสียงเพลงและการเต้น Cover Dance เป็นอีกหนึ่งกิจกรรมที่นำมาใช้เพื่อสร้างความสนุกสนาน ออกกำลังกาย และยังช่วยฝึกสมาธิ การจับจังหวะควบคุมร่างกายและการทรงตัวที่ดี พร้อมทั้งช่วยให้ผู้ป่วยบ้านกึ่งวิถีหญิงมีความภาคภูมิใจและเห็นคุณค่าในตัวเอง นอกจากนี้ยังเป็นการสื่อสาร #WelcomeMeBack ที่อยากชวนทุกคนต้อนรับผู้ป่วยกลับสู่สังคม
“แคมเปญความร่วมมือครั้งนี้ อาจเป็นเพียงจุดเริ่มต้นในการพูดถึงเรื่องของ ‘ความเข้าใจ’ แต่สำหรับแบรนด์สัมมากร นั้นเป็นก้าวสำคัญในการขยับเข้าใกล้ภาพของสังคมที่เปิดกว้างและยั่งยืนมากขึ้น ซึ่ง “ความยั่งยืน” ไม่ได้จำกัดไว้เพียงเรื่องสิ่งแวดล้อมหรือที่อยู่อาศัย แต่รวมถึงการอยู่ร่วมกันโดยไม่แบ่งแยกและการมองเห็นคุณค่าของกันและกันอย่างเท่าเทียม”
ติดตามข่าวสารจาก Brand Inside ได้จาก Facebook ของเรา