ถอดรหัสความนิยม Y Series อีกหนึ่งความสำเร็จของ GMMTV กับ #คั่นกู เพราะเราคู่กัน

ตอนนี้ซีรีส์ Y ที่น่าจะได้รับความนิยมสูงที่สุดในไทย และยังสร้างกระแสโด่งดังไปอีกหลายประเทศ หนีไม่พ้นเรื่อง เพราะเราคู่กัน ซึ่งก่อนหน้านี้เป็นนิยาย Y มาก่อน ก็เป็นที่นิยมจนเกิดเป็น #คั่นกู

ดังนั้น Brand Inside จึงนัดสัมภาษณ์ พี่ออฟ-นพณัช ชัยวิมล ผู้อำนวยการฝ่าย Content Production ของ GMMTV เพื่อพูดคุยถึงมุมมอง ความคิด ต่อซีรีส์ Y และความสำเร็จก้าวสำคัญของ GMMTV

 

#คั่นกู เปิดตลาดซีรี่ส์Y ไทยไปไกลถึงยุโรป

พี่ออฟ เริ่มต้นการพูดคุยเรื่องซีรีส์​ Y ในไทยด้วยคำถามง่ายๆ ว่า GMMTV อยากทำซีรีส์ Y ที่ไม่มีวันวาย ซึ่ง #คั่นกู สามารถตอบโจทย์นี้ได้อย่างดี สร้าง Rating การรับชมอยู่ที่ 0.8 ถือว่าสูงมากสำหรับซีรีส์ Y และมียอดวิวรวม มากกว่า 300 ล้านวิว ทั้งไทยและต่างประเทศ (30 เม.ย.63) 

นอกจากนั้น ยังเป็นการเปิดตลาดไปต่างประเทศ​ นอกจากในเอเชียที่ได้รับความสนใจแล้ว ยังโด่งดังไปถึงยุโรป เช่น สเปน,​ ฝรั่งเศส และกลุ่มละตินอเมริกา ซึ่งเชื่อว่า นี่เป็นซีรีส์ Boy Love รูปแบบที่ตะวันตกไม่คุ้นเคย

“ทางตะวันตก ถ้าเป็นซีรีส์ LGBT จะมีความหนัก ชัดเจน เรียกร้องบางสิ่งบางอย่างกับสังคม นี่คือสิ่งที่เขาคุ้นเคย แต่พอสไตล์ตะวันออก หรือซีรีส์ Y แบบไทย จะมีลักษณะพาฝัน ชวนให้จินตนาการ มีเรื่องของความโรแมนติกมากกว่า แต่ก็สอดแทรกสิ่งที่ต้องการบอกเล่ากับสังคมเข้าไปด้วย”

ส่วนผสมที่ลงตัว ดัน #คั่นกู ฉุดไม่อยู่

พอถามว่า อะไรที่ทำให้ เพราะเราคู่กัน เป็นซีรีส์ Y ที่ประสบความสำเร็จระดับนี้ พี่ออฟ บอกว่า อันดับแรกต้องยอมรับว่า เพราะเราคู่กัน เป็นนิยาย Y ที่ได้รับความนิยมอยู่แล้ว เป็นหนึ่งในเรื่องที่ผู้อ่านรอคอยอยากให้หยิบมาทำเป็นซีรีส์มากที่สุด

ประเด็นต่อมาคือ การคัดเลือกนักแสดงที่ลงตัวสุดๆ เคมีของนักแสดงเข้ากันได้ดี รวมถึงตัวนักแสดงเอง #ไบร์ทวิน ที่ตอบจินตนาการของคนดูได้เป็นอย่างดี

อีกส่วนที่สำคัญคือ เพราะเราคู่กัน เป็น Romantic Comedy ที่ย่อยง่าย แต่มีเนื้อเรื่องน่าติดตาม บวกกับการเล่าเรื่องราวผ่านบทเพลงของวง Scrubb ซึ่งเป็นที่รู้จักอยู่แล้วในกลุ่มวัยรุ่น

ซีรีส์ Y หนึ่งในความสำเร็จครั้งสำคัญของ GMMTV

พูดถึงกระแส Y ในไทยจริงๆ สำหรับผมเริ่มต้นมาตั้งแต่สมัยภาพยนตร์เรื่องรักแห่งสยาม จากนั้นก็มีออกมาบ้างแต่ยังมีความเฉพาะกลุ่มอยู่พอสมควร GMMTV เริ่มใส่นักแสดงคู่รองที่เป็นคู่ชายชาย เข้าไปในซีรีส์ ปรากฎว่าได้รับความสนใจอย่างมาก

จนกระทั่งมาถึงเรื่อง SOTUS: The Series ที่เริ่มจุดกระแสกลุ่มคนดูในวงกว้าง นำมาสู่ซีรีส์เรื่องถัดไปคือ ทฤษฎีจีบเธอ, Dark Blue Kiss หรือ ซีรีส์นอกกระแสอย่าง เขามาเชงเม้งข้างๆ หลุมผมครับ จนมาถึง คั่นกู เพราะเราคู่กัน ที่เป็นปรากฎการณ์ในหลายๆสื่อ และเชื่อว่าจะส่งต่อไปยังซีรีส์ Y เรื่องถัดไป คือ นิทานพันดาว ที่จะฉายในอนาคต

พี่ออฟ บอกว่า ถ้าว่ากันตามจริงซีรีส์ Y มีสัดส่วนประมาณ 10% ของซีรีส์หรือละครของ GMMTV ต่อปี แปลว่า ปีนึงมีซีรีส์ 10-12 เรื่อง อาจจะมีซีรีส์ Y แค่ 1-2 เรื่องเท่านั้น แต่อาจเพราะทำออกมาแล้วได้รับความนิยม แต่ถ้าดูในภาพรวมแล้ว คอนเทนต์ของ GMMTV ยังมีความโดดเด่นอีกหลายเรื่อง

อย่างไรก็ตาม หากวัดในเชิงธุรกิจ ต้องยอมรับว่า ซีรีส์ Y เฉพาะตัวคอนเทนต์ยังไม่สามารถสร้างกำไรได้โดยตรง ยังต้องมีกิจกรรมต่อยอดจากซีรีส์ รวมถึงการสร้างศิลปิน เพื่อต่อยอดไปสู่การขายอื่นๆของ นักแสดงมาช่วยเสริมกันด้วย

สิ่งหนึ่งที่ GMMTV ภูมิใจคือ สามารถสร้างบุคลากรที่มีคุณภาพให้กับวงการบันเทิง ถ้าดูเฉพาะซีรีส์ Y มีนักแสดงที่แจ้งเกิดขึ้นหลายคู่ เช่น คริสสิงโต, ออฟกัน, เตนิว และล่าสุด ไบร์ทวิน ซึ่งแน่นอนว่าทุกคนต้องพิสูจน์ผลงานในฐานะนักแสดงต่อไปด้วย

ทิ้งท้ายกับ LGBT และซีรีส์ Y

พี่ออฟ บอกทิ้งท้ายเกี่ยวกับการทำซีรีส์ Y ของ GMMTV ว่า จริงอยู่ที่เนื้อหาของซีรีส์ Y ของไทยจะพาฝัน ย่อยง่ายไม่หนักเกินไป แต่ก็อยากสื่อถึงบางสิ่งไปถึงคนดูด้วย

หลายคนอาจจะมองว่า Y กับ LGBT เป็นคนละเรื่องกัน ซึ่งก็แล้วแต่ความเข้าใจหรือการตีความของแต่ละคน แต่โดยส่วนตัวมองว่า Y เป็นส่วนหนึ่งของ LGBT เพราะสุดท้าย Y ก็เป็นเรื่องของคนที่ชอบเพศเดียว ไม่ว่าจะเป็น Boy Love หรือ Girl Love

ดังนั้น ความต้องการส่วนหนึ่งในฐานะคนทำ คือ ต้องการสร้างการยอมรับให้กับกลุ่ม LGBT การอยู่ร่วมกันในครอบครัว ในสังคม เป็นสิ่งที่ซีรีส์ พยายามสอดแทรกเข้าไป แต่แน่นอนว่าก็ต้องมีความชวนฝันให้คนดูได้ยิ้ม จิกหมอน ไปพร้อมกันด้วย

ภาพจาก GMMTV 2020

เตรียมนับดาวไปกับ นิทานพันดาว

พี่ออฟ บอกว่า ซีรีส์ Y เรื่องต่อไปคือ นิทานพันดาว เรื่องนี้เป็นคนเขียนบทและกำกับเอง ถือเป็นอีกเรื่องที่ได้รับความสนใจและมีหลายคนที่รอคอยอยากเป็นซีรีส์เช่นเดียวกับ เพราะเราคู่กัน

สิ่งที่แตกต่างจากซีรีส์ Y เรื่องอื่นๆ คือ นิทานพันดาว จะพาคนดูออกไปจากความเป็นวัยรุ่น ออกจากรั้วโรงเรียนหรือรั้วมหาวิทยาลัย มาสู่โลกจริงของการทำงานมากขึ้น และแน่นอนว่ายังสอดแทรกสาระ กับฉากฟินๆ ให้สาวกซีรีส์ Y เช่นเดิม

สำหรับสาวกซีรีส์ Y นิยาย Y รอติดตามกันได้ และคนอื่นๆ ที่สนใจ ขอแค่ลองเปิดใจ อาจพบว่านี่คือคอนเทนต์ที่ดีอีกประเภทหนึ่งที่น่าติดตาม

ติดตามข่าวสารจาก Brand Inside ได้จาก Facebook ของเรา