Watsons วางทิศทางใหม่ ลุยอีคอมเมิร์ซ หลังยอดขายต่อหัวในออนไลน์มากกว่าหน้าร้าน 3 เท่า

เมื่อเบอร์ 1 ค้าปลีกด้านสุขภาพและความงามอย่าง Watsons ต้องชั่งใจระหว่าง “หน้าร้าน” และ “ออนไลน์” การแถลงแผนธุรกิจปีนี้จึงทุ่ม 500 ล้านบาท เพื่อขยายสาขาและพัฒนาออนไลน์ไปพร้อมๆ กัน

ออนไลน์โตแรงจริง แต่ยังทิ้งหน้าร้านไม่ได้

Watsons แถลงแผนธุรกิจประจำปี 2560 เพื่อกำหนดทิศทางให้พร้อมสำหรับการเดินหน้าสู่การขายออนไลน์ โดยในปีนี้จะทุ่มกว่า 500 ล้านบาท เพื่อขยายสาขาอีก 50 – 55 แห่งทั่วประเทศ สัดส่วนแบ่งเป็นต่างจังหวัด 60% และกรุงเทพ 40% ส่วนในปีที่ผ่านมา ได้ขยายสาขา 50 แห่งตรงตามเป้าที่กำหนดไว้ ทำให้ร้านของ Watsons ตอนนี้มีทั้งหมด 425 สาขา

มร.ร็อด เร้าท์ลีย์ กรรมการผู้จัดการ วัตสัน ประเทศไทย เผยว่า “ปีที่ผ่านมา Watsons มียอดขายที่เติบโตขึ้นเป็นตัวเลขสองหลัก มาจากการที่มีการจัดโปรโมชั่นอย่างต่อเนื่อง รวมถึงช่องทางการขายที่ได้ขยายไปสู่ออนไลน์มากขึ้นด้วย”

คนซ้าย – มร.ร็อด เร้าท์ลีย์ กรรมการผู้จัดการ วัตสัน ประเทศไทย

Watsons เล็งเห็นแล้วว่าแนวโน้มของการซื้อของออนไลน์มีมากขึ้นอย่างชัดเจน โดยระบุว่า “ยอดขายต่อหัวของคนที่ซื้อในออนไลน์มีมากกว่าหน้าร้านถึง 3 เท่า” และแม้ว่าส่วนแบ่งตลาดของออนไลน์ยังไม่สามารถเทียบเท่ากับหน้าร้านโดยรวมทั้งหมดได้ แต่ Watsons มั่นใจว่าแนวโน้มนี้คืออนาคตของ Watsons

ในปัจจุบัน Watsons จึงพยายามสร้างสมดุลให้กับทั้งหน้าร้านและออนไลน์ผ่านการขยายสาขาอย่างต่อเนื่อง รวมถึงบุกการขายในอีคอมเมิร์ซไปในพร้อมกัน กรรมการผู้จัดการ วัตสัน ประเทศไทย บอกว่า “ต่อไปเราจะทำให้สินค้าในออนไลน์มีการจัดขายโปรโมชั่นแบบ Exclusive ที่แตกต่างไปจากหน้าร้าน เพื่อกระตุ้นการขาย”

อย่างไรก็ตาม สินค้าทั้งหน้าร้านและออนไลน์ตอนนี้มีเท่ากันคืออยู่ที่ 5,000 รายการ โดยในจำนวนนี้มีสินค้าของ Watsons ที่ครอบครองเป็น Own Brand อยู่ทั้งหมด 800 รายการ มากกว่านั้น ในปีนี้จะมีการเพิ่มสินค้าเข้าไปอีก 200 รายการ

ส่วนหน้าร้านที่ Watsons ก็ยังปล่อยไม่ได้ เพราะมีหน้าร้านในหลายประเทศทั่วโลก เช่น ญี่ปุ่น เกาหลี ออสเตรเลีย สหราชอาณาจักร สหรัฐอเมริกา และฝรั่งเศส พร้อมบอกด้วยว่ามีลูกค้าที่เป็นสมาชิกถือบัตร Watsons อยู่ทั่วโลกกว่า 3.5 ล้านคน ทำให้ Watsons ต้องคุมสองตลาดทั้งออฟไลน์และออนไลน์ไปพร้อมๆ กัน

แล้ว Watsons จะโกออนไลน์อย่างไร?

Watsons ได้ส่ง Application เพื่อรองรับการขายอีคอมเมิร์ซมาสักพักแล้ว ทำให้ลูกค้าที่ยังซื้อของหน้าร้านได้ขยับไปซื้อของในออนไลน์ด้วย ตัวเลขที่น่าสนใจคือ “ยอดขายต่อหัวในออนไลน์มีมากกว่าหน้าร้านถึง 3 เท่า” แสดงให้เห็นว่า แม้ Watsons จะขึ้นชื่อเรื่องสินค้าเพื่อสุขภาพและความงาม ที่โดยธรรมชาติแล้วลูกค้าน่าจะมีความต้องการในการทดลองสินค้าก่อน แต่จากตัวเลขนี้ทำให้เห็นว่าลูกค้าค่อนข้างมั่นใจในสินค้า ชนิดที่สามารถสั่งซื้อได้เลยโดยไม่ต้องมีการทดลอง หรือเรียกอีกอย่างว่ามีความมั่นใจในสินค้าที่ซื้อนั่นเอง

นอกจากนั้น แพลตฟอร์มอย่าง Facebook ของ Watsons มียอดแฟนเพจมากกว่า 1.9 ล้านคน ประกอบกับการมี Watsons Line Official ทำให้ Watsons เชื่อมั่นว่าจะเข้าถึงพฤติกรรมของผู้บริโภคได้ไม่ยาก

สรุป

ค้าปลีกด้านสุขภาพและความงามอย่าง Watsons ยังต้องปรับตัวเพื่อรองรับออนไลน์ธุรกิจอีคอมเมิร์ซ แต่ในขณะเดียวกันก็ยังไม่สามารถออกจากธุรกิจหน้าร้านได้ เพราะการเติบโตในออนไลน์แม้จะมียอดต่อหัวสูง แต่ถ้าเทียบกันแล้วยอดขายหน้าร้านแล้วถือว่ายังสูงกว่าออนไลน์มาก

แต่ทั้งนี้ก็ยังไม่ชัดเจนว่า ตัวเลขยอดขายหน้าร้านและออนไลน์ของ Watsons มีสัดส่วนเป็นอย่างไร เพราะการชี้แจงของทางผู้บริหารในส่วนนี้ยังไม่มีการเปิดเผยข้อมูลสู่สาธารณะ

ส่วนในอนาคตต้องรอดูคู่แข่งอย่าง Boots และค้าปลีกหน้าใหม่ๆ ในวงการนี้ว่าจะปรับตัวกันอย่างไรต่อไป

ติดตามข่าวสารจาก Brand Inside ได้จาก Facebook ของเรา