Warren Buffett ชายผู้ผิดหวังจากการสอบเข้า Harvard สู่คุณปู่มหาเศรษฐีระดับตำนานของโลก

Warren Buffett จากนักศึกษาหนุ่มผู้บุกไปคุยกับผู้บริหาร จนประทับใจรูปแบบการทำธุรกิจ สุดท้ายค่อยๆ ทยอยซื้อหุ้นทีละน้อยจนกลายเป็นเจ้าของบริษัท

ที่ผ่านมาเราคงเคยได้ยินเรื่องราวของมหาเศรษฐีหลายคนทั่วโลก ที่ไม่ได้เรียนจบจากมหาวิทยาลัย ดรอปออกมาก่อนเพื่อก่อตั้งธุรกิจของตัวเอง ทั้ง Steve Jobs, Bill Gates หรือ Mark Zuckerberg ซึ่งท้ายที่สุดแล้วคนเหล่านี้ก็ได้กลายมาเป็นมหาเศรษฐีในตำนานที่เราเคยได้ยินกัน

อย่างไรก็ตามไม่ใช่มหาเศรษฐีทุกคนจะรวยได้จากการเป็นเจ้าของกิจการ ก่อตั้งธุรกิจด้วยตัวเองตั้งแต่สมัยเรียนเพียงอย่างเดียว เพราะยังมีมหาเศรษฐีจำนวนมากเช่นกันที่เรียนจนจบมหาวิทยาลัย และใช้ประสบการณ์ความชอบในวัยเรียน เพื่อสร้างความร่ำรวย

Warren Buffett เป็นมหาเศรษฐีคนหนึ่งที่มีเส้นทางชีวิตแตกต่างจากมหาเศรษฐีคนอื่นๆ เพราะเขามีความเป็นนักลงทุน มากกว่าที่จะเป็นผู้ประกอบการเหมือนมหาเศรษฐีที่ก่อตั้งธุรกิจเป็นของตัวเอง

Harvard University

จากนักศึกษาที่พลาดคณะบริหาร Harvard สู่มหาเศรษฐีนักลงทุนระดับตำนาน

ย้อนกลับไปในปี 1951 ในปีนั้น Warren Buffett มีอายุเพียง 19 ปี และกำลังจะเข้าศึกษาในมหาวิทยาลัย และคาดหวังว่าตัวเองจะเข้าเรียนใน Harvard Business School แต่สุดท้ายแล้ว Warren Buffett ก็ต้องผิดหวัง เพราะ Havard ไม่ได้รับเขาเข้าไปเรียนอย่างที่ตั้งใจ

เมื่อผิดหวังจาก Harvard เขาจึงตัดสินใจที่จะสอบเข้ามหาวิทยาลัย Columbia และสอบติดในที่สุด แต่การสอบเข้าในนาทีสุดท้าย ทำให้เขาไม่ได้พักอาศัยอยู่ที่หอพักของมหาวิทยาลัย แต่ต้องไปอาศัยอยู่ที่บริเวณ Penn Station ใน New york

การที่ Warren Buffett เรียนในมหาวิทยาลัย Columbia นี้เอง ได้กลายเป็นจุดเริ่มต้นในการหาความรู้เกี่ยวกับการลงทุน โดยเฉพาะจากหนังสือ The Intelligent Investor ของ Benjamin Graham ที่ Warren Buffett เคยอ่าน รวมถึงเขายังเคยเรียนกับ Benjamin Graham ในมหาวิทยาลัยด้วย

ความประทับใจที่ Warren Buffett มีต่อ Benjamin Graham ถูกถ่ายทอดออกมาผ่านจดหมายที่ส่งถึงผู้ถือหุ้นของ Berkshire Hathaway ในปี 1995 ว่า Benjamin Graham เป็นฮีโร่ของเขาเลยทีเดียว

ในช่วงที่ Warren Buffett กำลังเรียนในมหาวิทยาลัย Benjamin Graham ดำรงตำแหน่งเป็นผู้บริหารของ Government Employees Insurance Company หรือ GEICO ซึ่งในขณะนั้น Warren Buffett ยังไม่รู้ด้วยซ้ำว่าบริษัทนี้ทำธุรกิจอะไร

บุกเคาะประตูบริษัทเพราะอยากคุยกับผู้บริหาร

ด้วยความอยากรู้ของเขาเอง ทำให้ในวันนั้นเขาตัดสินใจที่จะเดินทางไปยังสำนักงานใหญ่ของ GEICO ใน Washington และเดินเข้าไปเคาะประตูที่หน้าบริษัทเพื่อขอคุยกับคนที่อยู่ข้างใน สุดท้ายแล้วด้วยความบังเอิญ Warren Buffett ได้คุยกับ Lorimer Davidson ผู้บริหารของ GEICO ในเวลานั้น และใช้เวลาอยู่กับ Warren Buffett นานถึง 4 ชั่วโมง เพราะรู้ว่าเขาเป็นลูกศิษย์ของ Benjamin Graham

การได้คุยกับผู้บริหารของบริษัทประกันภัยครั้งนั้น Warren Buffett ถึงกับเล่าว่า “จะมีใครที่ได้คุยกับผู้บริหารบริษัทประกันภัย เหมือนเป็นคอร์สเรียน 4 ชั่วโมง และรู้ว่าธุรกิจประกันภัยทำงานกันอย่างไรบ้าง?” โดยเฉพาะในประเด็นการแข่งขันของ GEICO กับบริษัทประกันภัยอื่นๆ

การได้คุยกับผู้บริหารบริษัทประกันภัยในวันนั้น ทำให้ Warren Buffett ประทับใจในรูปแบบการทำธุรกิจของ GEICO เป็นอย่างมาก หลังจากนั้นเขาได้ซื้อหุ้นของ GEICO ด้วยมูลค่า 10,282 ดอลลาร์สหรัฐ หลังจากนั้น 1 ปี เขาได้ขายหุ้นทิ้ง และสามารถทำกำไรได้กว่า 50% เลยทีเดียว

แม้จะได้กำไรกว่าครึ่งหนึ่ง แต่ Warren Buffett ก็เคยยอมรับว่าเขาไม่ควรขายหุ้นนั้นทิ้งไป เพราะมันจะมีมูลค่า 1.3 ล้านดอลลาร์สหรัฐ ในเวลาอีก 20 ปีต่อมา

ค่อยๆ ทยอยซื้อหุ้น จนกลายเป็นเจ้าของเต็มตัว

ในช่วงปี 1960 เขาได้ซื้อหุ้นของ Berkshire Hathaway รวมถึงทยอยซื้อหุ้น GEICO เพิ่มเรื่อยๆ จนกระทั่งซื้อหุ้นทั้งหมดในปี 1995 และ GEICO ก็ได้กลายเป็นธุรกิจหนึ่งของ Berkshire Hathaway ในที่สุด ในปีที่แล้ว GEICO สร้างรายได้กว่า 35,000 ล้านดอลลาร์สหรัฐ นับว่าเป็นธุรกิจที่สร้างรายได้มหาศาลให้กับ Berkshire Hathaway เลยทีเดียว

การทยอยซื้อหุ้นของ GEICO ของ Warren Buffett เกิดขึ้นจากจุดเริ่มต้นเล็กๆ เพราะความอยากรู้ จึงทำให้เขาบุกเข้าไปหาผู้บริหารของบริษัท และผู้บริหารของบริษัทก็ยอมพูดคุยกับเขานานถึง 4 ชั่วโมง เพราะรู้ว่าเขาเป็นลูกศิษย์ของ Benjamin Graham

จากจุดเริ่มต้นเล็กๆ ในวันนั้นของ Warren Buffett ทำให้เราเห็นว่าถึงความพยายามที่เกิดขึ้นจากความชอบ ความสนใจส่วนตัว ทุ่มเทการเรียนเพื่อสิ่งที่สนใจ แล้วค่อยๆ ซื้อหุ้นของ GEICO ทั้งหมด จนเป็นเจ้าของเต็มตัว และก็อาจปฎิเสธไม่ได้เลยว่าความสำเร็จของ GEICO ในทุกๆ วันนี้ ส่วนหนึ่งก็มาจากความสนใจในธุรกิจประกันภัยที่ Warren Buffett ได้เรียนรู้มาเช่นเดียวกัน

ที่มา – inc

ติดตามข่าวสารจาก Brand Inside ได้จาก Facebook ของเรา