Walmart จับมือค่ายหนัง MGM เร่งเครื่องบริการรับชมภาพยนตร์ Online แข่ง Netflix-Prime Video

บริการสมัครสมาชิกรับชมภาพยนตร์ Online หรือ Subscription Video-on-Demand นั้นแข่งขันกันอย่างดุเดือด โดยผู้ครองตลาดเบ็ดเสร็จก็คงไม่พ้น Netflix แล้วทำไม Walmart ถึงต้องจับมือ MGM เพื่อรุกตลาดนี้อีก

Walmart // ภาพจาก Flickr ของ Mike Mozart

รักษารายได้ฝั่งเนื้อหาเกี่ยวกับความบันเทิง

ทิศทางการรับชมภาพยนตร์ รวมถึงรายการบันเทิงต่างๆ นั้นไปอยุ่ในช่องทาง Online มากขึ้น และนั่นก็เกิดมากว่า 10 ปีแล้ว จึงไม่แปลกที่ยอดขาย DVD รวมถึงสื่อบันเทิงที่รับชมทางโทรทัศน์ของค้าปลีกยักษ์ใหญ่อย่าง Walmart จะมีทิศทางหดตัว ดังนั้น Walmart จึงซื้อกิจการ Vudu บริการรับชมภาพยนตร์ Online เมื่อ 8 ปีก่อน เพื่อประคองยอดขายสื่อบันเทิงเอาไว้

แต่นั่นก็ไม่ใช่เรื่องง่ายเลย เพราะไม่กี่ปีถัดมา Netflix ก็รุกตลาดจริงจัง ผ่านเงินทุนในการผลิต Original Content รวมถึงซื้อเนื้อหาใหม่ๆ เข้ามากว่าปีละ 8,000 ล้านดอลลาร์สหรัฐ รวมถึงคู่แข่ง E-Commerce อย่าง Amazon ก็ลงทุน Prime Video กว่าปีละ 4,000 ดอลลาร์ด้วย แม้ทาง Vudu จะมีภาพยนตร์กว่า 1.5 แสนเรื่องให้เช่า หรือซื้อ รวมถึงเปิดให้รับชมฟรีกว่า 5,000 เรื่อง และรับชมผ่านหน้าจอโทรทัศน์, โทรศัพท์มือถือ และคอมพิวเตอร์ก็ตาม

บริการ Vudu ของ Walmart

จึงเป็นที่มาของการเซ็นสัญญาเป็นพาร์ทเนอร์ระหว่าง Walmart กับ Metro Goldwyn Mayer หรือ MGM เพื่อได้สิทธิ์แพร่ภาพยนตร์ลิขสิทธิ์ของทางค่าย รวมถึงการสร้าง Original Content ที่แพร่ภาพบน Vudu เท่านั้นด้วย โดยตัวเนื้อหาจะอ้างอิงจากลิขสิทธิ์ที่ทางค่ายถืออยู่ รวมถึงตัวลักษณะรายการก็จะเน้นที่กลุ่มครอบครัว กับคนที่อาศัยอยู่นอกเมืองใหญ่ เพราะกลุ่มเหล่านี้ยังเข้ามาใช้บริการ Walmart อยู่เป็นประจำ

ทั้งนี้เมื่ออ้างอิงข้อมูลจากบริษัทสำรวจตลาด Parks Associates จะพบว่า ปัจจุบันมีผู้ให้บริการรับชมภาพยนตร์ Online มีกว่า 200 ราย เพิ่มขึ้นจาก 68 รายเมื่อ 5 ปีก่อน ซึ่งหนึ่งในนั้นมาจากการปรับตัวเองจากผู้ให้บริการเคเบิลทีวีรายเดิม เช่น HBO ที่ลงทุนกว่า 2,700 ล้านดอลลาร์ในการผลิตเนื้อหา และรุกตลาดบริการรับชมภาพยนตร์ Online ด้วย

สรุป

การเข้ามารุกตลาดบริการสมัครสมาชิกรับชมภาพยนตร์ Online ของ Walmart แสดงให้ถึงความจริงจังที่จะต่อยอดรายได้ฝั่งบริการเพื่อความบันเทิงได้เป็นได้อย่างดี แต่มันก็ไม่ง่ายสำหรับค้าปลีกรายนี้เลย เพราะเมื่อผู้เล่นในตลาดที่เพิ่มขึ้นอย่างรวดเร็ว ไหนจะ Netflix ที่ครองตลาดแทบจะเบ็ดเสร็จ ดังนั้น Walmart คงต้องทำตัวให้แตกต่างด้วย

อ้างอิง // Reuters

ติดตามข่าวสารจาก Brand Inside ได้จาก Facebook ของเรา