Wal-Mart ผู้ค้าปลีกรายใหญ่แห่งสหรัฐฯ ได้ประกาศผลประกอบการไตรมาสแรกประจำปี โดยหลังจากที่ทางบริษัทเริ่มลงทุนในการขายสินค้าในช่องทางออนไลน์ไปมาก ก็พบว่ายอดขายในช่องทางออนไลน์สูงขึ้นถึง 63%
การขยายช่องทางออนไลน์ของ Wal-Mart นั้นมีตั้งแต่การซื้อ Jet, Moosejaw และ ModCloth เพื่อทำให้ช่องทางการขายสินค้าออนไลน์ของ Wal-Mart แข็งแกร่งขึ้น และส่งมอบสินค้าให้ผู้ใช้ได้เร็วขึ้น ในขณะที่ซีอีโอของบริษัทยังกล่าวว่า Wal-Mart ต้องขยายช่องทางอีคอมเมิร์ซให้มากขึ้นอีก
Wal-Mart นั้นยังคงใช้ความพยายามอย่างมาก และทุ่มเททรัพยากรที่มีอยู่เพื่อแข่งขันกับ Amazon คู่แข่งรายสำคัญของวงการอีคอมเมิร์ซ โดยตอนนี้ทาง Wal-Mart ก็ใช้วิธีลดราคาสินค้าบางประเภทให้ลูกค้าที่สั่งออนไลน์และมารับสินค้าที่ร้าน รวมถึงขยายพื้นที่บริการสั่งสินค้าประเภทของใช้ทั่วไปในช่องทางออนไลน์ โดยรายได้ของ Wal-Mart ที่เพิ่มขึ้นนี้ สวนทางไปกับผู้ค้าปลีกรายอื่น ๆ อย่าง Macy’s, J.C. Penny ที่ประกาศผลประกอบการไตรมาสออกมาแย่ทุกราย
รายได้ของ Wal-Mart จากทุกช่องทางรวมกันอยู่ที่ 117.54 พันล้านดอลลาร์ ผิดจากที่นักวิเคราะห์คาดที่ 117.74 พันล้านดอลลาร์ไปเล็กน้อย แต่ก็เพิ่มขึ้นจากปีที่แล้ว 1% ยอดขายของร้านค้าในสหรัฐฯ สูงขึ้น 1.4% ซึ่งเป็นผลมาจากการเพิ่มช่องทางขายของชำและผลิตภัณฑ์ด้านสุขภาพ
ในแง่กำไรนั้น อยู่ที่ 3.04 พันล้านดอลลาร์ หรือคิดเป็น 1 ดอลลาร์ต่อหุ้น เทียบกับปีที่แล้วที่มีกำไร 3.08 พันล้านดอลลาร์ คิดเป็น 98 เซนต์ต่อหุ้น ส่วนในแง่ของค่าใช้จ่ายนั้น Wal-Mart มีค่าใช้จ่ายสูงชึ้น 3.6% เมื่อเทียบกับไตรมาสเดียวกันของปีที่แล้ว เนื่องจากบริษัทลงทุนกับอีคอมเมิร์ซมากขึ้น และยังนำเงินใช้เพื่อการอบรมพนักงานของบริษัทรวมถึงจ่ายเงินเดือนของพนักงานให้มากขึ้นด้วย
ที่มา – Forbes
ติดตามข่าวสารจาก Brand Inside ได้จาก Facebook ของเรา