ปกติแล้วเศรษฐกิจที่ยังไม่ฟื้นตัว การซื้อบะหมี่กึ่งสำเร็จรูปที่มีราคา/อิ่มแสนถูกน่าจะเพิ่มขึ้น แต่ในปีที่ผ่านมา และปีนี้ตัวภาพรวมตลาด 15,000 ล้านบาทนั้นไม่ขยับมากนัก ในทางกลับกันมาม่าเกาหลีรสชาติต่างๆ ที่มีราคาแสนแพงกลับขายดีขึ้นจนน่าตกใจ
ขนาดห่อละเกิน 40 บาท ยังขายได้ในยุคนี้
ถือเป็นเรื่องที่น่าตกใจเหมือนกันกับกระแสมาม่าเกาหลีหลายรสชาติ ที่อยู่ๆ ก็เกิดกระแสบน Social Media อย่างรวดเร็ว และแทบทุก Modern Trade, ร้านค้าออนไลน์ รวมถึงร้านสะดวกซื้อ ก็ต่างสั่งสินค้าตัวนี้มาจำหน่ายกันเพื่อรับกับ Demand ที่ถาโถมเข้ามา แม้ราคา/ห่อ นั้นจะสูงเกิน 40 บาท ซึ่งสวนทางกับสภาพเศรษฐกิจตอนนี้เสียจริง
ยศสรัล แต้มคงคา ผู้อำนวยการฝ่ายการตลาด บริษัท โรงงานผลิตภัณฑ์อาหารไทย จำกัด ผู้ผลิต และจัดจำหน่ายบะหมี่กึ่งสำเร็จรูป “ไวไว” เล่าให้ฟังว่า จริงๆ ความนิยมดังกล่าวน่าจะเป็นแค่ระยะเวลาสั้นๆ คล้ายกับแฟชั่นที่เปลี่ยนแปลงอย่างรวดเร็ว แต่มันก็เป็นอีกข้อพิสูจน์ที่ผู้บริโภคในไทยยอมที่จะซื้อบะหมี่กึ่งสำเร็จรูปในราคาที่สูงได้ หากมีรสชาติคุ้มค่ากับที่เสียไป
“เชื่อว่าเทคโนโลยีของผู้ผลิตบะหมี่กึ่งสำเร็จรูปทุกราย โดยเฉพาะแบรนด์ญี่ปุ่นก็น่าจะทำรสชาตินี้ออกมาได้ ดังนั้นมันอยู่ที่ใครจะคิดรสชาติใหม่ๆ ออกมาจับตลาดผู้บริโภคได้มากกว่ากัน จะสู้กันแค่รสชาติเดิมๆ มันก็คงไม่ได้ทำให้ตลาดโตไปมากกว่านี้ และยิ่งบะหมี่กึ่งสำเร็จรูปไม่ได้ถูกมองเป็นสินค้าราคาถูกอีกต่อไป ดังนั้นการจะใส่ความเป็นพรีเมียมเข้าไปก็เป็นที่ยอมรับแล้ว”
รามยอง มาม่าเกาหลี จัดโปร พิกัด Kmarket สาขาเดอะมอลล์บสงกะปิ ชั้น G ไปสอยยยยกัยเถอะ ^^ มีส่งไปรษณีย์ทั่วไทยล่วยยย เกร๋ๆ #มาม่าเกาหลี pic.twitter.com/NjLeQC8GCt
— PuffyBeNzWaLdrof (@PuffybeNz) August 26, 2017
ยังขอเดินเกมสินค้าแบบเดิมก่อน
อย่างไรก็ตามตัว “ไวไว” เองยังขอเลือกพัฒนาสินค้าในรูปแบบเดิม ภายใต้แบรนด์บะหมี่กึ่งสำเร็จรูปไวไว, ควิก, ซือดะ และเส้นหมี่อบแห้งไวไวก่อน เนื่องจากต้องการขยายตลาด และช่องทางให้มากกว่าเดิม ไม่ใช่มาพัฒนารสชาติใหม่เพื่อทำตลาดเพียงชั่วคราว และการทำแบบนี้ยังสร้างโอกาสการเติบโตอย่างยั่งยืนทั้งในตลาดไทย รวมถึงต่างประเทศด้วย
และล่าสุดทางแบรนด์ส่งสินค้าเส้นหมี่กึ่งสำเร็จรูปแบบถ้วยดีไซน์ใหม่ 2 รสชาติคือ รสปรุงรส และรสหมูสับ พร้อมปรับปรุงรสชาติเล็กน้อย ราคาถ้วยละ 15 บาท โดยเหตุที่เลือก 2 รสชาตินี้ เพราะเป็นรสชาติยอดนิยมของบริษัท ประกอบกับความไม่เหมือนใครในตัวเส้นหมี่กึ่งสำเร็จรูปของบริษัท ก็น่าจะช่วยขับเคลื่อนภาพรวมยอดขายในช่วงปลายปีของบริษัทได้เช่นกัน
รักษาแชร์ 25% ครองเบอร์ 2 ของตลาด
สำหรับ “ไวไว” ปัจจุบันครองส่วนแบ่ง 25% เป็นอันดับที่ 2 ของตลาดบะหมี่กึ่งสำเร็จรูปปีนี้ที่น่าจะปิดราว 15,000 ล้านบาท เพิ่มขึ้นเพียง 3% เมื่อเทียบกับปีก่อน ส่วนตัวบริษัทเองก็น่าจะเติบโตใกล้เคียงกับตลาด ผ่านการจำหน่ายสินค้าภายใต้แบรนด์ไวไว 55%, ควิก 20%, เส้นหมี่อบแห้ง 15%, ซือดะ (บะหมี่กึ่งสำหรับรูปถูกหลักฮาลาล) และอื่นๆ อีก 10%
สรุป
เชื่อว่าหลังจากนี้ผู้ผลิตบะหมี่กึ่งสำเร็จรูปจะศึกษาตัวสินค้าระดับพรีเมียมมากขึ้น เพราะตอนนี้มันพิสูจน์ได้แล้วว่าผู้บริโภคยอมจ่ายในราคาแพง ถ้าสินค้านั้นอร่อย และมีความน่าสนใจ แต่ด้วยความที่มันเป็นแฟชั่นมากๆ การหมุนเวียนสินค้า และสร้างรสสชาติใหม่ๆ มาตลอดจึงจำเป็นเช่นกัน ดังนั้นลองมาทายกันดีกว่าว่าแบรนด์ใดจะรุกตลาดตรงนี้ก่อน
ติดตามข่าวสารจาก Brand Inside ได้จาก Facebook ของเรา