“ก.เกษตรญี่ปุ่น” ยื่นพิจารณากฎหมายห้ามนำไข่-สเปิร์มวัวสายพันธุ์วากิวออกนอกประเทศ

ปัจจุบัน “วากิว” เป็นสินค้าส่งออกที่สำคัญของประเทศญี่ปุ่น และเพื่อป้องกันไม่ให้ชาติอื่นนำวัวสายพันธุ์นี้ออกนอกประเทศ กระทรวงเกษตรของญี่ปุ่นจึงยื่นพิจารณากฎหมายห้ามลักลอบนำไข่ และสเปิร์มของวัววากิวออกนอกญี่ปุ่น

เนื้อวากิว (Wagyu) กำลังย่างอยู่บนเตา
เนื้อวากิว // ภาพ pakutaso

หวั่นลดประสิทธิภาพการแข่งขันของตัวเอง

ตัวกฎหมายนี้มีรายละเอียดเกี่ยวกับการกำกับไม่ให้ผู้ไม่ได้รับอนุญาตในการซื้อขาย, ผลิต และส่งออก รวมถึงผู้ที่ทำธุรกิจรับซื้อ และขายไข่ที่ปฏิสนธิแล้ว กับสเปิร์มของวัวสายพันธุ์วากิว เพราะวัวสายพันธ์นี้เป็นที่นิยมทั่วโลก เช่นเมื่อปี 2560 ก็มีมูลค่าส่งออกกว่า 20,000 ล้านเยน (ราว 6,000 ล้านบาทเมื่อเทียบอัตราแลกเปลี่ยนเฉลี่ยขณะนั้น)

อย่างไรก็ตามตัวกฎหมายนี้ละเว้นให้นำสิ่งที่เกี่ยวกับพันธุกรรมของวัวสายพันธุ์วากิวออกไปตรวจสอบนอกประเทศในกรณีนี้พบว่ามีความเสี่ยงเกี่ยวกับโรคติดต่อที่มาจากการส่งออกชิ้นส่วนต่างๆ ของวัววากิวไปยังประเทศนั้นๆ เพื่อป้องกันการแพร่กระจายของเชื้อ ส่วนบทลงโทษจากกรณีนี้ยังไม่ได้ระบุไว้

เหตุผลที่กระทรวงเกษตรของญี่ปุ่นเดินหน้าตัวกฎหมายนี้มาจากความนิยมของเนื้อวัววากิวที่เพิ่มขึ้นจนมีบางประเทศลักลอบนำสิ่งที่เกี่ยวกับพันธุกรรมของวัวสายพันธ์นี้ไปเพาะพันธุ์นอกประเทศญี่ปุ่น ซึ่งจีนก็คือหนึ่งในประเทศนั้น แถมก่อนหน้านี้ก็มีออสเตรเลีย, นิวซีแลนด์ และสหรัฐอเมริกาได้น้ำเชื้อของวัวสายพันธ์นี้ไปเพาะพันธ์เมื่อหลายสิบปีก่อน

ปัจจุบันเกษตรกรที่เพาะเลี้ยงวัวสายพันธ์วากิวในญี่ปุ่นนั้นเริ่มชราลง และลูกหลานของพวกเขาก็ไม่อยากสืบทอดกิจการต่อ ทำให้หนึ่งในสินค้าส่งออกที่สำคัญของประเทศญี่ปุ่นเริ่มมีปัญหา และภาครัฐต้องเข้มงวดเกี่ยวกับเรื่องนี้มากขึ้นเพื่อรักษาความเป็นวากิวต่อไปในอนาคต

สรุป

แม้การเลี้ยงวัวระดับพรีเมียมในประเทศญี่ปุ่นแตกต่างด้วยการเลี้ยงแบบประคบประหงมสุดๆ แถมการให้อาหารก็แตกต่างกับการเพาะเลี้ยงที่อื่นด้วย แต่สุดท้ายหากปล่อยไข่ หรือสเปิร์มของวัววากิวออกไปนอกญี่ปุ่น ประเทศที่นำไปเพาะพันธุ์ต่อก็สามารถประยุกต์ และสร้างวัววากิวในแบบของตัวเองเพื่อมาแข่งขันกับวากิวต้นตำรับได้

อ้างอิง // Japan Today, Asian Nikkei Review

ติดตามข่าวสารจาก Brand Inside ได้จาก Facebook ของเรา