COVID-19 สร้างปัญหาให้กับอุตสาหกรรมรถยนต์ต่อเนื่อง ล่าสุดคือ Volvo ที่เตรียมปลดพนักงานฝั่งออฟฟิศในสวีเดนถึง 1,300 คน เพื่อปรับโครงสร้างองค์กรหลังวิกฤต COVID-19 สิ้นสุด
ปลดเพื่อเพิ่มความคล่องตัว
ปัจจุบัน Volvo อยู่ระหว่างเดินหน้าพัฒนารถยนต์ไฟฟ้าเต็มรูปแบบ แต่ด้วยการระบาดของโรค COVID-19 ทำให้แผนต่างๆ มีปัญหา และเป็นที่มาของการปรับโครงสร้างองค์กรครั้งใหญ่ เริ่มต้นด้วยการปลดพนักงานฝั่งออฟฟิศกว่า 1,300 คนในสวีเดน เพื่อเพิ่มความคล่องตัวให้กับองค์กร และใช้งบประมาณให้คุ้มค่าที่สุด
ทั้งนี้ Volvo มีพนักงานในสวีเดนทั้งหมด 24,000 คน และการปรับลดพนักงานคราวนี้จะไม่กระทบกับฝั่งสายการผลิต ส่วนพนักงานคนใดบ้างที่จะถูกเลิกจ้าง Volvo จะชี้แจงในอีกไม่กี่เดือนหลังจากนี้ เพราะต้องเจรจากับสหภาพแรงงานของบริษัทเสียก่อน
ไม่แปลกที่ Volvo ต้องเดินเกมนี้ เพราะการระบาดของโรค COVID-19 ทำให้ Volvo ต้องปิดโรงงาน และไม่สามารถทำตลาดรถยนต์ได้เหมือนเดิม แม้ตอนนี้จะกลับมาเปิดโรงงานผลิตบางแห่งได้ แต่สถานการณ์ทุกอย่างก็ไม่เหมือนเดิมแล้ว
Hakan Samuelsson ประธานเจ้าหน้าที่บริหารของ Volvo ชี้แจงว่า ตอนนี้บริษัทต้องตัดสินใจให้เร็วขึ้น เพื่อไม่ให้เกิดปัญหาในระยะยาว นอกจากนี้ยังเดินหน้ากลยุทธ์ทำตลาดออนไลน์, พัฒนารถยนต์ไฟฟ้า รวมถึงเทคโนโลยีใหม่ๆ ในอุตสาหกรรมรถยนต์อย่างต่อเนื่องเช่นเดิม
สรุป
Volvo เป็นแบรนด์หรูที่ค่อนข้างมีความชัดเจนในการทำตลาดรถยนต์ไฟฟ้า แต่ด้วยสถานการณ์อุตสาหกรรมรถยนต์ในตอนนี้ไม่เหมือนเดิม การพักแผน และหันมารีดไขมันองค์กร เพื่ออนาคตที่สดใสกว่าน่าจะจำเป็น และคงต้องดูกันว่า จะมีแบรนด์ผู้ผลิตรถยนต์รายอื่นที่ต้องปลดพนักงานอีกหรือไม่
อ้างอิง // AOL,
ติดตามข่าวสารจาก Brand Inside ได้จาก Facebook ของเรา