Volvo ประเทศไทย อยู่ระหว่างวางแผนพัฒนาศูนย์ซ่อม และรีไซเคิลแบตเตอรี่รถยนต์ไฟฟ้าในประเทศไทย โดยโครงการดังกล่าวมีมูลค่าหลักร้อยล้านบาท ถูกวางเป็นศูนย์กลางเพื่อรองรับลูกค้าทั้งเอเชียแปซิฟิก ช่วยลดราคาการครอบครองรถยนต์ไฟฟ้าได้มากขึ้น ในทางกลับกันผู้ผลิตชิ้นส่วนรถยนต์ในไทยกำลังประสบปัญหาหากยังไม่ปรับตัว
Volvo ทำตลาดรถยนต์ไฟฟ้าล้วนสุดตัว
คริส เวลส์ กรรมการผู้จัดการ บริษัท วอลโว่คาร์ (ประเทศไทย) จำกัด เล่าให้ฟังว่า ในปี 2025 Volvo ประเทศไทย จะจำหน่ายแค่รถยนต์ไฟฟ้าล้วน หรือ Fully Electric เท่านั้น ไม่มีการจำหน่ายรถยนต์ประเภทอื่น ถือเป็นการเดินหน้าแผนที่เร็วกว่า Volvo ในระดับโลกที่ตั้งเป้าจำหน่ายแค่รถยนต์ไฟฟ้าล้วนตั้งแต่ปี 2030 เป็นต้นไป
นอกจากนี้ในปี 2025 Volvo ยังเตรียมเดินหน้า Mobile Service หรือการให้บริการนอกสถานที่เท่านั้น เนื่องจากรถยนต์ไฟฟ้าล้วนไม่มีความจำเป็นที่ต้องเข้ามาตรวจสภาพในศูนย์บริการเหมือนในรถเครื่องยนต์สันดาปภายใน โดยปัจจุบัน Volvo ประเทศไทย มีรถยนต์ที่ให้บริการตรวจสภาพทดลองให้บริการ 1 คัน
และ Volvo ยังเตรียมใช้งบประมาณหลักร้อยล้านบาท เพื่อพัฒนาศูนย์ซ่อม และรีไซเคิลแบตเตอรี่รถยนต์ไฟฟ้าในประเทศไทย ตั้งอยู่ย่านสมุทรปราการ รองรับลูกค้าทั้งภูมิภาคเอเชียแปซิฟิก ซึ่งการทำศูนย์ซ่อม และรีไซเคิลแบตเตอรี่ จะช่วยให้การครอบครองรถยนต์ไฟฟ้าทำได้ง่ายขึ้น ผ่านต้นทุนการใช้แบตเตอรี่ที่ต่ำลง
ตลาดไทยยังสำคัญ และถูกใส่ใจมากขึ้น
“การเข้ามาลงทุน รวมถึงการผลักดันแผนจำหน่ายรถยนต์ไฟฟ้าล้วนเร็วกว่าที่ทั่วโลกกำหนด แสดงให้เห็นถึงตลาดไทยที่สำคัญมากขึ้น โดยเฉพาะกับศูนย์ซ่อม และรีไซเคิลแบตเตอรี่รถยนต์ไฟฟ้านั้น ในไทยถือเป็นแห่งที่ 4 ของโลก และจะช่วยให้รถยนต์ไฟฟ้าล้วนเป็นที่นิยมมากขึ้น”
จากแผนดังกล่าว Volvo เตรียมเปิดตัวรถยนต์ในประเทศไทยเพิ่มเติมอย่างน้อย 1 รุ่น เช่น EX90 รถยนต์ไฟฟ้าล้วนรุ่นสูงสุดที่จะเข้ามาเปิดตัวในประเทศไทยในช่วงครึ่งหลังของปี 2024 ส่วน EX30 รถยนต์ไฟฟ้าล้วนรุ่นเล็ก จะทยอยส่งมอบในไตรมาส 1 ตามแผน หลังเปิดตัวเมื่อช่วงปลายปี 2023
ในปี 2023 Volvo จำหน่ายรถยนต์ได้ราว 4,000 คัน คิดเป็นยอดขายที่เพิ่มขึ้น 24% จากปี 2022 แบ่งเป็นรถยนต์ไฟฟ้าล้วน 56% (มีขายอยู่ 3 รุ่น) และรถยนต์ Plug-in Hybrid 44% (มีขายอยู่ 6 รุ่น) ส่วนในปี 2024 Volvo ตั้งเป้ายอดขายเพิ่มขึ้น 20% โดยรถยนต์ไฟฟ้าล้วนจะคิดเป็นสัดส่วน 80% ของทั้งหมด
ใส่ใจสิ่งแวดล้อม และไม่เอาเปรียบดีลเลอร์
“Volvo ไม่ได้มีศูนย์บริการเยอะ การทำ Mobile Service จึงช่วยแก้ปัญหานี้ได้ และอย่างที่กล่าวไปก่อนหน้านี้ว่า Volvo ไม่มีความจำเป็นในการให้ดีลเลอร์ทำศูนย์บริการให้ครอบคลุมพื้นที่ต่าง ๆ และไม่มีความจำเป็นต้องขยายเน็ตเวิร์กหลังจากนี้เช่นกัน”
Volvo เตรียมเดินหน้าธุรกิจโดยไร้มลพิษ ผ่านการใช้พลังงานหมุนเวียน เช่น พลังงานแสงอาทิตย์มาใช้ในศูนย์กระจายรถยนต์ และศูนย์อบรม 100% ในปี 2024 รวมถึงสร้างศูนย์ซ่อมสี และตัวถังแห่งที่ 3 เพิ่มเติมเพื่อตอบโจทย์การเข้ามาใช้บริการของลูกค้า
ทั้งนี้ตัวเลขยอดขายราว 4,000 คันในปี 2023 ถือว่ามากที่สุดนับตั้งแต่ปี 1996 แต่ยังไม่เทียบเท่ากับปี 1994-1995 แต่ คริส เวลส์ ย้ำว่า หลังจากนี้ 1-2 ปี Volvo ประเทศไทย จะทำลายสถิติยอดขายสูงสุดในอดีตได้ ทั้งยังประหลาดใจกับการเติบโตของตลาดรถยนต์ไฟฟ้าล้วนในประเทศไทย
- Volvo เผยรายละเอียด EX90 รถยนต์ไฟฟ้ารุ่นเรือธง มากับเซ็นเซอร์ลดโอกาสชน และอุบัติเหตุร้ายแรง
- ไทย ผู้ผลิตรถยนต์เบอร์ 1 ของอาเซียน และเบอร์ 10 ของโลก กำลังเจอปัญหาแรงงานขาดทักษะรถยนต์ไฟฟ้า
ฝั่งผู้ผลิตชิ้นส่วนรถยนต์ในไทยต้องปรับตัว
ผู้สื่อข่าวรายงานว่า จากการเข้ามารุกตลาดซ่อม และรีไซเคิลแบตเตอรี่รถยนต์ไฟฟ้าของ Volvo ในฝั่งผู้ผลิตชิ้นส่วนรถยนต์ประเทศไทยยังค่อนข้างปรับตัวช้ากับการเปลี่ยนผ่านสู่รถยนต์ไฟฟ้า เช่น รถยนต์เครื่องยนต์สันดาปภายในมีชิ้นส่วนกว่า 30,000 ชิ้น แต่รถยนต์ไฟฟ้าล้วนมีเพียง 3,000 ชิ้น เท่านั้น
ที่น้อยกว่าเพราะ รถยนต์ไฟฟ้าล้วนไม่มีชิ้นส่วนเกี่ยวกับเครื่องยนต์ และเกียร์ที่ต้องใช้ชิ้นส่วนจำนวนมากในการประกอบ รวมถึงระบบน้ำมันที่ต้องมีชิ้นส่วนเล็ก ๆ จำนวนมาก ซึ่งการเปลี่ยนผ่านครั้งนี้จะสร้างผลกระทบให้กับผู้ผลิตชิ้นส่วนดังกล่าว 816 บริษัท ที่มีแรงงานรวมกันกว่า 3.26 แสนคน
กลุ่มที่ได้รับผลกระทบหนักที่สุดคือ ผู้ผลิตชิ้นส่วนเกี่ยวกับเครื่องยนต์ และที่เกี่ยวข้องกับเครื่องยนต์ เพราะรถยนต์ไฟฟ้าเปลี่ยนหัวใจจากเครื่องยนต์ เป็นแบตเตอรี่ กับมอเตอร์ ทำให้การเปลี่ยนผ่านสู่รถยนต์ไฟฟ้าในประเทศไทย จะมองข้ามกลุ่มผู้ผลิตชิ้นส่วนรถยนต์ที่เป็นหนึ่งในอุตสาหกรรมสำคัญของประเทศไทยไม่ได้
อ้างอิง // Volvo, สภาอุตสาหกรรม
ติดตามข่าวสารจาก Brand Inside ได้จาก Facebook ของเรา